2 ปีที่ผ่านมา สถานการณ์โควิด-19 ได้สร้างบททดสอบและบทเรียนมากมายให้แก่ทุกคนในโลก ไม่ว่าจะอยู่ในวงการใด แม้หลายองค์กรจะพาตัวเองผ่านวิกฤติมาได้อย่างหวุดหวิด แต่อย่าลืมว่าเราจะต้องวนเวียนอยู่กับภาวะความปั่นป่วน ความผันผวนทางเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงทางสังคม และพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ต่างไปจากเดิม อย่างที่ไม่มีทางกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้

ความน่ากลัวยิ่งกว่าวิกฤติ คือ ปรากฏการณ์ระลอกคลื่น หรือ Ripple Effect ที่จะส่งผลต่อเวลาฟื้นตัวที่ต้องลากยาวออกไปอีกหลายปี

สิ่งที่จะพาให้รอดพ้นผ่านปรากฏการณ์เหล่านี้ไปได้ คือ ต้องพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง และเรียนรู้ที่จะปรับตัวอยู่ตลอดเวลา เพราะเราไม่รู้ว่าภาวะ Ripple Effect จะยาวนานไปอีกแค่ไหน

อย่างที่ อนุพงษ์ อัศวโภคิน CEO เอพี ไทยแลนด์ เคยกล่าวไว้เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการพาองค์กรไปสู่เป้าหมาย “เรายังคงต้องเผชิญอยู่กับความท้าทายใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากวิกฤติเปลี่ยนโลก ต้องพร้อมรับกติกาโลกที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา เพื่อจะคงอยู่และเติบโตได้อย่างมั่นคง”

กลยุทธ์ความสำเร็จ ท่ามกลางวิกฤตล็อกดาวน์

แม้ตลอดปีที่ผ่านมา ไทยเผชิญกับภาวะล็อกดาวน์ที่ส่งผลเสถียรภาพทางเศรษฐกิจอย่างมากก็ตาม แต่เอพี ไทยแลนด์ ค่ายอสังหาท็อป 5 ของเมืองไทย ที่มั่นคงมาตลอด 3 ทศวรรษ กลับคงงผลการดำเนินงานที่โดดเด่นได้อย่างชัดเจน ที่ไม่ใช่แค่ ‘รอด’ แต่ต้องเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยสามารถการรักษาสัดส่วนหนี้สิ้นต่อทุน ณ ไตรมาส 3 ปี 2021 ต่ำเพียง 0.56 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2020 ที่ 0.71

ทั้งนี้ตลอดปี 2021 เอพีเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้นจำนวน 24 โครงการ มูลค่าประมาณ 27,550 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการแนวราบจำนวน 22 โครงการ มูลค่าประมาณ 19,650 ล้านบาท และคอนโดมิเนียมจำนวน 2 โครงการ มูลค่าประมาณ 7,900 ล้านบาท และเมื่อรวมกับโครงการอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างการขาย ทำให้ปัจจุบันเอพี มีโครงการกระจายอยู่ทั่วประเทศ มากถึง 120 โครงการ มูลค่าพร้อมขายกว่า 196,000 ล้านบาท

โดย ณ วันที่ 15 ธันวาคม เอพี ไทยแลนด์สามารถทำยอดขายจากอสังหาริมทรัพย์ในเครือได้มากถึง 35,800 ล้านบาท และคาดว่าปิดปี 2021 จะสามารถสร้างยอดโอนได้ 40,000 ล้านบาท

ความสำเร็จเหล่านี้ล้วนเกิดจากเจตจำนงสำคัญของ AP ในการยึดมั่นพันธกิจ ‘EMPOWER LIVING' ที่จะส่งมอบคุณภาพชีวิตที่ดี ที่ลูกค้าสามารถเลือกได้ โดยมีหัวใจสำคัญในการบริหารองค์กร อยู่ที่ 2 คีย์หลัก ได้แก่
1. ความพร้อมของทีมงาน
2. การบริหารจัดการพอร์ตสินค้าพร้อมขาย ให้กระจายไปในหลากหลายทำเล เพื่อสร้างโอกาสและความได้เปรียบในการแข่งขัน 

รางวัลแห่งความภาคภูมิใจ แต่ไม่ติดกับดักความเป็นที่ 1

แต่เหนือสิ่งอื่นใด นอกเหนือจากความสำเร็จเชิงตัวเลข คือ ‘ต้องไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาตัวเอง’ อย่างที่ อนุพงษ์ อัศวโภคิน หัวเรือใหญ่แห่ง เอพี ไทยแลนด์ มักพูดเสมอ

“ดีใจ ภูมิใจในการเป็นที่ 1 ได้ แต่เรานิ่งนอนใจกับการเป็นที่ 1 ไม่ได้ เราต้องไม่หยุดที่จะพัฒนา เพราะเมื่อไหร่ที่เราหยุด เท่ากับเรากำลังถอยหลังไป 1 ก้าวแล้ว ทุกสิ่งเปลี่ยนหมดถ้าเอพีไม่ทำงานแบบ Go Beyond ก็จะไม่สามารถหา Next Norm al ที่จะเป็นความได้เปรียบทางธุรกิจได้เลย”

นี่คือประโยคที่สะท้อนให้เห็นวิสัยทัศน์ของแม่ทัพใหญ่ อันเกิดจากการหล่อหลอมแพชชั่นในการทำงานมาผสมรวมกับประสบการณ์อันโชกโชนบนเส้นทางธุรกิจ ในการนำ เอพี ก้าวผ่านอุปสรรคมาได้นับครั้งไม่ถ้วน เช่นเดียวกับวิกฤติครั้งนี้ ที่ไม่เพียงประสบความสำเร็จในเชิงยอดขาย แต่ยังได้รับเสียงตอบรับที่ดีทั้งจากลูกค้า พันธมิตร และสื่อมวลชน การันตีได้จากหลากหลายรางวัลทรงเกียรติ ได้แก่

  • Hall of Fame Award รางวัลแบรนด์อสังหาริมทรัพย์ที่คนไทยเชื่อถือที่สุด ซึ่ง เอพีถือเป็นรายแรกในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับรางวัลนี้ ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 และ Thailand’s Most Admired Company รางวัลด้านบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่คนไทยเชื่อถือที่สุด จากทีมวิจัย BrandAge สื่อการตลาดชั้นนำของไทย
  • 2021 Thailand Real Estate Personality of the Year award รางวัลที่มอบให้บุคคลแห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ประจำปี ซึ่งพิจารณาจากความเคลื่อนไหว ผลงาน ความสำเร็จ ที่เกิดขึ้นภายใต้การขับเคลื่อนของ CEO ตลอดจนการสนับสนุนช่วยเหลือหน่วยงานต่างๆ ในสถานการณ์การแพร่ระบาดในช่วงปีที่ผ่านมา และเป็นผู้บริหารไทยท่านแรกที่ได้รับรางวัลนี้เป็นครั้งที่สอง 

รู้ลึก-รู้จริงถึงเทรนด์และพฤติกรรมการอยู่อาศัยที่เปลี่ยนไป

                  เมื่อความไม่หยุดนิ่งมาบวกกับประสบการณ์อันยาวนานในการพัฒนาที่อยู่อาศัย เอพีจึงมองขาดถึงพฤติกรรมการอยู่อาศัยที่เปลี่ยนไปในยุคแห่งความผันผวนนี้ นำไปสู่แนวทางการพัฒนาโมเดลบ้าน บริการ และการนำเสนอเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อมายกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัย โดยไม่ยึดติดกับกรอบเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็น

  • เข้าใจเทรนด์การใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า HOMEBODY หรือเทรนด์ติดบ้าน : เทรนด์ที่กลายเป็นความคุ้นชินของคนวันนี้ ‘บ้าน’ ถูกยกระดับเป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย แต่ต้องเป็นทุกอย่างให้กับทุกคนในครอบครัว ทั้งพื้นที่ทำงาน ห้องเรียนออน์ไลน์ ฟิตเนส ห้องไลฟ์สด หรือแม้กระทั่งสตูดิโอแต่งเพลง จากเทรนด์ติดบ้านนี้ ส่งผลให้ดีมานด์บ้านเดี่ยว เอพีได้รับความนิยมอย่างสูง ด้วยยอดขายกว่า 60% ถือเป็นยอดขายที่มาจากกลุ่มบ้านเดี่ยว โดดเด่นด้วย 2 กลยุทธ์สำคัญ
    1. โมเดลบ้านที่ดีที่สุด คิดจากอินไซด์จริงเพื่อให้สอดรับกับความต้องการของผู้อาศัย อาทิ แปลนบ้านหน้ากว้าง ที่เพิ่มมุม Work from Home หรือ เรียนออนไลน์พร้อมรับแสงธรรมชาติ
    2. นวัตกรรมบ้านเข้าใจชีวิต จากการผสานเทคโนโลยีเข้ากับการออกแบบพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่ส่วนรวมภายในบ้าน
  • ตีโจทย์แตกในพฤติกรรมและกระบวนการตัดสินใจซื้ออสังหาฯ ที่เปลี่ยนไป : จากสถิติปี 2021 ลูกค้าคอนโด AP กว่า 85% สอบถามข้อมูลนัดหมายเยี่ยมชมโครงการผ่านดิจิตอลแพลตฟอร์มต่างๆ ของเอพีเพิ่มมากขึ้น ONE CLICK NEW HOME ซึ่งเป็นโซลูชั่นใหม่ในการซื้ออสังหาริมทรัพย์เครือเอพี จึงได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อส่งตรงประสบการณ์โลกดิจิตอลเสมือนจริง ประหนึ่งเหมือนเดินทางไปยังชมโครงการจริงด้วยตัวเอง ซึ่งแพลตฟอร์มนี้ช่วยให้ลูกค้ารู้สึกสะดวกปลอดภัยในการเยี่ยมชมโครงการ สอดรับวิถี New Normal ไปอีกขึ้น
  • ให้ลูกค้าเข้าถึงนวัตกรรมที่ใช้งานได้จริง :  ความท้าทายของเอพีไม่ใช่แค่นำเสนอฟีเจอร์ใหม่ๆ แต่สร้างนวัตกรรมบนพื้นฐานความต้องการของลูกค้าที่เข้าถึงได้ง่ายในทุกเจเนอเรชั่น จึงเป็นที่มาของ SMART WORLD มีผู้ใช้บริการแล้วกว่า 80,000 ยูสเซอร์ มียอดผู้ Active User เฉลี่ย 48,000 ยูสเซอร์ต่อเดือน ถือเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมบริการที่โดดเด่นด้านพร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ในเครือเอพี

เอ็มพาวเวอร์สังคม วิกฤตินี้เอพีจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

นอกจากสร้างสรรค์ประสบการณ์แห่งการอยู่อาศัยให้ลูกบ้านดีขึ้นทั้งคุณภาพและบริการแล้ว AP ยังหวังเติมพลังและจุดประกายสังคมไทยก้าวผ่านโควิดไปด้วยกัน เพราะเอพี รู้ซึ้งดีว่าท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นอย่างหนักหน่วง ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของผู้คนในสังคมทุกภาคส่วน แม้มีหลายหน่วยงานร่วมมือร่วมใจช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แต่ก็ยังมีอีกหลายกลุ่มคนที่อาจยังถูกมองข้าม

จากแคมเปญ SAVE หมอ SAVE ประเทศไทยเมื่อปี 2020 มาสู่ปี 2021 กับแคมเปญ SAVE LIVES, PROTECT PEOPLE - เอพี เซฟชีวิต เซฟสังคม ที่เอพี ไทยแลนด์จัดขึ้น โดยมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ที่ว่า ‘วิกฤตินี้ เอพีจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง’ กับหลากหลายภารกิจลงพื้นที่หยิบยื่นความช่วยเหลือให้กลุ่มคนที่อาจถูกมองข้าม เช่น การเข้าไปช่วยดูแลกลุ่มพระสงฆ์จำนวนเกือบ 1,000 รูป ใน 10 พื้นที่เสี่ยง พร้อมสนับสนุน SMEs ไทยด้วยการรับซื้ออาหารสด ผัก ผลไม้ ไข่ไก่ และเนื้อสัตว์ในรูปแบบผูกปิ่นโตจัดส่งแก่โรงครัวทางวัด

อีกทั้งการร่วมเซฟชีวิตผู้ป่วยโควิด-19 ด้วยการส่งมอบเครื่องผลิตออกซิเจนด้วยอัตราการไหลสูง (High Flow Oxygen Therapy) ให้กับโรงพยาบาลรัฐในพื้นที่สีแดงเข้ม รวมถึงการเข้าดูแลกลุ่มพี่น้องแรงงานกว่า 10,000 ชีวิต ในช่วงเผชิญหน้ากับการล็อกแคมป์ก่อสร้าง  ด้วยการจัดส่งข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่มสะอาดให้กลุ่มพี่น้องแรงงานและครอบครัว ตลอดจนช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าน้ำ-ค่าไฟ ตลอดระยะเวลาปิดแคมป์คนงาน เป็นต้น

ทิศทางต่อไปเมื่อ WORK FROM ANYWHERE ไม่ใช่แค่เทรนด์อีกต่อไป

อย่างที่เข้าใจดีว่าวิถีแห่งการใช้ชีวิตจะไม่มีวันกลับไปเหมือนเดิมอีกต่อไป ก้าวต่อไปของ AP จะยังคงเข้าถึงและตอบสนองการใช้ชีวิตของคนในอนาคต โดยอ้างอิงข้อมูลของ Morgan Stanley บริษัทให้บริการการเงินระดับโลก ที่ระบุว่าอีก 7 ปีข้างหน้า ครึ่งหนึ่งของแรงงานในสหรัฐฯ จะเป็นฟรีแลนซ์

สอดคล้องกับ ปีเตอร์ เลเวลส์ (Pieter Levels) สตาร์ทอัพ โปรแกรมเมอร์ และดีไซเนอร์ชาวดัตช์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ nomadlist.com ที่เปรียบเสมือนเข็มทิศการเดินทางสำหรับชาว Digital Nomad ของยุคนี้ ซึ่งคาดคะเนไว้ว่าภายในปี 2035 จะมีคนทำงานอิสระที่เรียกตัวเองว่า Digital Nomad เพิ่มเป็นหนึ่งพันล้านคน จากข้อมูลปี 2019 ที่มีอยู่จำนวน 25 ล้านคน

จากข้อมูลเหล่านี้แสดงถึงแนวโน้มคนรุ่นใหม่ว่าพฤติกรรมทำงานจากที่ไหนก็ได้ (Work from Anywhere) จะกลายเป็น norm ปกติของชีวิตในอนาคต แม้วิกฤตการแพร่ระบาดจะคลี่คลายไปแล้วก็ตามที

นั่นทำให้เอพีเล็งเห็นว่า Work from Anywhere จะไม่ใช่แค่เทรนด์ ดังนั้นการออกแบบพื้นที่อย่างชาญฉลาดจะกลายเป็นจุดดึงดูดใหม่ของเหล่า Next Generation ที่มุ่งมั่นจะประสบความสำเร็จ ทั้งเรื่องการทำงาน และด้านชีวิตส่วนตัว 

อย่างที่เคยเกิดขึ้นกับการเปิดตัว LIFE พระราม 4-อโศก มาแล้ว กับคอนโดมิเนียมดีไซน์ใหม่ที่ผสานแนวคิดการออกแบบสเปซในชีวิตวิถีใหม่ ให้เข้ากับชีวิตการอยู่อาศัยเป็นส่วนตัว ชูจุดต่างของโครงการที่มีครบหมดไม่ต้องเลือกกับ CHOOSE  LIFE CHOOSE EVERYTHING โดยเฉพาะพื้นที่ส่วนกลาง 5 ชั้น กว่า 8,635 ตารางเมตร หรือ 5.39 ไร่  ที่ได้รับการออกแบบให้เป็นสวรรค์คนเมืองรุ่นใหม่ รองรับไลฟ์สไตล์ในทุกรูปแบบ WORK – PLAY – CHILL – PEACE หรือทาวน์โฮมแบรนด์ บ้านกลางเมือง หรือพลีโน่ ที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบทั้งภายใน-ภายนอก ภายใต้คอนเซ็ปต์ “พลิกแนวคิดชีวิตแนวตั้ง” 

นี่คือก้าวสำคัญแห่งบททดสอบแรงผลักดันในการทำงานของเอพี ไทยแลนด์ ตลอดปี 2021 ที่พร้อมส่งต่อพลังอันยิ่งใหญ่ ภายใต้ EMPOWER LIVING เพื่อส่งมอบคุณภาพการใช้ชีวิตที่ดีกว่าไปสู่ปีต่อๆ ไป แม้ต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคใดก็ตาม…