SENA ย้ำจุดยืนพันธกิจแห่งปี “SENA Strong” โตแข็งแกร่งยิ้มสู้ทุกวิกฤติ เดินเกมต่อเนื่องวางหมากเชิงรุกลุยเปิด 9 โครงการใหม่ มูลค่า 8.4 พันลบ. ส่งท้ายปีวัวดุเดือด ชี้ผลบวกคลายล็อค LTV ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อเรียลดีมานด์ ระบุผลประกอบการ 9 เดือนกวาดรายได้รวม 4,000 พันลบ. กำไรสะสม 613 ล้านบาท เผยตุน Backlog เต็มมือสิ้นไตรมาส 3/64 แตะ 8,000 ล้านบาท

นางสาวอธิกา บุญรอดชู ผู้อำนวยการ ฝ่ายจัดสรรเงินทุนและการลงทุน บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA ผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำทั้งแนวราบและแนวสูงและในฐานะ Developer รายแรกพัฒนาหมู่บ้านโซลาร์เต็มรูปแบบ เปิดเผยถึงแม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ดูเหมือนจะคลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้นแต่กลับมีสายพันธุ์ใหม่ “โอไมครอน” กำลังเข้ามาป่วนอีกระลอกทำให้ภาพรวมตลาดกลับมาชะลออีกครั้ง แต่ธุรกิจต้องเดินหน้าต่อ ซึ่งทางเสนาพร้อมรับปรับตัวตลอดเวลาต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ผลประกอบการยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยมาตรการผ่อนปรนของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท) และภาครัฐการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินในอัตราดอกเบี้ยต่ำ การลดค่าธรรมเนียมการโอนและการจดจำนอง และประกาศปลดล็อคมาตราการกำกับ ดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้กู้ 100% หรือ LTV มองว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยในช่วงนี้

ปัจจัยสนับสนุนดังกล่าว นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีช่วยกระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภคและภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทยในช่วงไตรมาส 4 ให้กลับมามีทิศทางที่ดีขึ้น โดยเสนาเปิด 9 โครงการใหม่รวมมูลค่า 8,400 กว่าล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 3 โครงการ และคอนโดมิเนียม 6 โครงการ ระดับราคาต่ำล้าน เน้นกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์ โดยเฉพาะคนทำงาน (first Jobber) มองหาที่อยู่อาศัยใกล้สถานที่ทำงาน เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางและค่าเช่าบ้าน ประกอบด้วย นิช โมโน พระราม 9 (JV) , เฟล็กซี่ รัตนาธิเบศร์ , เฟล็กซี่ สาทร-เจริญนคร (JV),เสนา อีโค่ ทาวน์ รังสิต สเตชั่น,SENA Kith MRT บางแค (เฟส 2), SENA kith ศรีด่าน (JV) ,เสนา เวล่า เทพารักษ์ - บางบ่อ (JV),เสนาวิลเลจ รามอินทรา กม.9,เสนาวิลเลจ รังสิต – บางพูน

ขณะเดียวกัน ตลอดช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ทางเสนาสามารถสร้างยอดขาย 3,846 ล้านบาท คิดเป็น 54% จากเป้ายอดขายทั้งปี 7,111 ล้านบาท และรายได้ 3,688 ล้านบาท คิดเป็น 53% จากเป้ารายได้ 6,943 ล้านบาท (รวมบริษัทร่วมทุน) ขณะที่รายได้ร่วมของทั้งบริษัทอยู่ที่ 4,065 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 613 ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าพอใจท่ามกลางสถานการณ์ที่รุมเร้ามาทั้งปี

ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ไตรมาส 3/2564 ณ วันที่ 30 กันยายน 2564 คิดเป็นมูลค่า 8,019 ล้านบาท ในไตรมาส 4/64 ยังมียอดขายรอการโอนกรรมสิทธิ์อีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการเฟล็กซี่ สาทร-เจริญนคร (บริษัทร่วมทุน),โครงการนิช โมโน อิสรภาพ (บริษัทร่วมทุน) และโครงการ นิช โมโน เมกะ สเปซ บางนา (บริษัทร่วมทุน) ที่จะเริ่มทยอยโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงสิ้นปีนี้ และสามารถทยอยรับรู้รายได้ในช่วงที่เหลือของปีนี้ 3,496 ล้านบาท และทยอยรับรู้ในปีถัดไปตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม ในปี 2564 ทางเสนาเปิดโครงการใหม่ทั้งหมด 13 โครงการ รวมมูลค่า 10,505 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการร่วมทุน 8 โครงการ คิดเป็นมูลค่า 5,541 ล้านบาท และโครงการของเสนา 5 โครงการ 4,964 ล้านบาท ที่ผ่านมา ทางเสนาดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวังและบริหาร Cash Flow ได้อย่างอย่างแข็งแกร่ง ช่วยลดความเสี่ยง ทั้งยังรับมือกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้พันธกิจแห่งปี “SENA Strong