บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) “ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำและส่งมอบ Living Solutions เพื่อทุกเช้าที่ดี” หรือ SC ปลื้มกระแสตอบรับจากการขายหุ้นกู้ให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ระหว่างวันที่ 26-28 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้รับความสนใจจองซื้อเกินกว่าที่คาดหมายไว้ สะท้อนถึงความมั่นใจของนักลงทุนต่อบริษัท

นายอรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสนับสนุนองค์กร เปิดเผยว่าหุ้นกู้ของ SC ที่เสนอขายครั้งนี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งจากนักลงทุนรายใหญ่และนักลงทุนสถาบันโดยผู้ลงทุนสถาบันที่แจ้งความจำนงในการจองซื้อหุ้นกู้ประมาณกว่า 6 เท่าเมื่อเทียบกับสัดส่วนที่จัดสรรให้ผู้ลงทุนสถาบัน ซึ่งเกินกว่าที่บริษัทตั้งเป้าไว้ ทำให้บริษัทตัดสินใจนำหุ้นกู้ที่สำรองเพื่อการเสนอขายเพิ่มเติมมาใช้ รวมมูลค่าที่เสนอขายทั้งสิ้น 1,200 ล้านบาท บริษัทขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจลงทุนในหุ้นกู้ของบริษัทในครั้งนี้ และขอขอบคุณสถาบันการเงินที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ทั้ง 3 แห่ง ซึ่งประกอบด้วย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย และธนาคารทหารไทย ที่มีส่วนสำคัญในการนำเสนอหุ้นกู้ของบริษัทให้กับนักลงทุนจนทำให้การเสนอขายประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี โดยบริษัทตั้งเป้าว่าจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ไปชำระคืนหนี้ที่จะครบกำหนดและเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ อาทิเช่น ซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการ เป็นต้น

โดยนายอรรถพล กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการที่บริษัทเน้นการพัฒนาโครงการแนวราบเป็นหลักซึ่งกลุ่มลูกค้าเป็นผู้ที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง และด้วยผลิตภัณฑ์ของบริษัทและบริการหลังการขายที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในตลาด ทำให้ยอดขายและรายได้จากโครงการแนวราบเติบโตได้ดี สำหรับในไตรมาส 4 มีการเปิดโครงการแนวราบอีก 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 4,600 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีโครงการที่เปิดขายรวมทั้งหมด 58 โครงการ มูลค่าโครงการเพื่อขายรวม 44,670 ล้านบาท และ มั่นใจว่าจะสามารถทำรายได้ในปี 2563 ได้ตามเป้าหมาย 17,000 ล้านบาท ขณะที่ความแข็งแกร่งของบริษัท ยังสะท้อนได้จากอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทที่ระดับ BBB+ แนวโน้มคงที่ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยทริสเรทติ้งให้เหตุผลว่าบริษัทมีแบรนด์สินค้าเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางและมีสถานะทางการตลาดเป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะตลาดที่อยู่อาศัยในระดับราคาปานกลางถึงสูง และเป็นผู้นำในตลาดบ้านจัดสรรที่ระดับราคาเกินกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไป