“กูรู” ฟันธง “บิทคอยน์” ส่งสัญญาณขาขึ้น จากหลายปัจจัย “จิรายุส” ยก 3 เหตุผลดันราคาพุ่ง ทั้ง “เฟด” อัดฉีดคิวอีไม่อั้น ปรากฏการณ์ฮาร์ฟวิ่ง สหรัฐไฟเขียวแบงก์รับฝากเงินดิจิทัลได้ เผยปีนี้ราคาพุ่งแล้ว 66% ด้าน “ปรมินทร์” ชี้พุ่งตามแรงซื้อทองคำ

ราคาบิทคอยน์ในวานนี้(10ส.ค.) ผันผวนรุนแรง ระหว่างปรับขึ้นจนทะลุระดับ 12,000 ดอลลาร์ต่อบิทคอยน์ มาอยู่ที่ 12,220 ดอลลาร์ต่อบิทคอยน์ หรือเพิ่มขึ้น 5.57% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีเศษ ก่อนจะมีแรงเทขายทำกำไรออกมา จนราคาลงมาแกว่งตัวในระดับ 11,800-11,900 ดอลลาร์ต่อบิทคอยน์ 

นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด ผู้ก่อตั้งเว็บซื้อขายเงินดิจิทัล Bitkub.com หรือ “บิทคับ” กล่าวว่า สาเหตุที่ราคาบิทคอยน์พุ่งแรงเพราะนักลงทุนให้ความสนใจเข้ามาลงทุนมากขึ้น ขณะเดียวกันยังมี 3 ปัจจัยที่หนุนให้ราคาปรับขึ้นด้วย

ปัจจัยแรก คือ การที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ทำมาตรการคิวอีแบบไม่อั้น ส่งผลให้นักลงทุนไม่กล้าถือเงินดอลลาร์จึงหันมาถือสินทรัพย์อื่นๆ เช่น ทองคำและบิทคอยน์เพิ่มขึ้น สอง.ก่อนหน้านี้เกิดปรากฏการณ์ บิทคอยน์ ฮาร์ฟวิ่ง คือจำนวนเหรียญออกใหม่ลดลงครึ่งหนึ่งในทุกๆ 10 นาที ซึ่งปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นในทุก 4 ปี และ สุดท้าย คือ ทางการสหรัฐที่ชื่อThe Office of the Comptroller of the Currency (OCC) อนุญาตให้ธนาคารในสหรัฐรับฝากเหรียญคริปโตเคอเรนซีได้ จึงทำให้มีแรงเก็งกำไรในบิทคอยน์เข้ามา

สำหรับการเพิ่มขึ้นของ บิทคอยน์ พบว่า ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันขึ้นมาแล้วราว 65% หรือขึ้นจากระดับ 7,233 ดอลลาร์ต่อบิทคอยน์ในช่วงต้นปี มาอยู่ที่ระดับ 12,000 ดอลลาร์ต่อบิทคอยน์ในปัจจุบัน หากคิดเป็นอัตราเงินบาทพบราคาปรับตัวขึ้นมาแล้วกว่า 1.15 แสนบาท จากระดับ 2.17 แสนบาทต่อบิทคอยน์ มาสู่ระดับ 3.72 แสนบาทต่อบิทคอยน์ 

นายจิรายุส กล่าวด้วยว่า ช่วง 10 ปีที่ผ่านมาการซื้อขายบิทคอยน์ก็เติบโตเร็วมาก ปัจจุบันมีกระเป๋าบิทคอยน์ทั่วโลกกว่า 50 ล้านกระเป๋าและคาดว่าจากนี้จะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเป็น 1,000 ล้านกระเป๋าภายในอีก 10 ปีข้างหน้า

“แนะนำให้นักลงทุนที่จะเข้าลงทุนในบิทคอยน์ควรเป็นเงินเย็น เนื่องจากการลงทุนในสินทรัพย์ดังกล่าวเหมือนกับการลงทุนในทองคำที่ไม่สามารถปันผลระหว่างทางได้และอาจมีความผันผวนได้เพราะต้องมีคนมาซื้อต่อจากเรา รวมถึงผู้ลงทุนอาจต้องมีความรู้ด้านการลงทุนประกอบการตัดสินใจลงทุนด้วย”

นายปรมินทร์ อินโสม ประธานกรรมการบริหารบริษัท สตางค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ก่อตั้งสกุลเงิน Zcoin กล่าวว่า ราคาบิทคอยน์ที่ทำสถิติสูงสุดในรอบ 1 ปี เป็นผลมาจากการปรับขึ้นตามทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก เพราะบิทคอยน์ถือเป็นสินทรัพย์อันหนึ่งที่ใกล้เคียงกับทองคำที่ผู้ลงทุนสามารถถือทำกำไรได้

ทั้งนี้ประเมินว่าราคาบิทคอยน์ในช่วงที่เหลือของปีนี้ยังมีแนวโน้มไปต่อได้ โดยมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปถึงระดับ 15,000-16,000 ดอลลาร์ต่อบิทคอยน์ เนื่องจากสถานการณ์ของโลกที่ยังมีความไม่แน่นอนสูงส่งผลให้คนเข้ามาลงทุนบิทคอยน์เพิ่มขึ้น รวมถึงราคาในปัจจุบันที่ระดับ 12,000 ดอลลาร์ต่อบิทคอยน์ ทุกคนมองว่าราคายังไม่ได้แพงมาก เพราะในปี 2560 ราคาบิทคอยน์เคยทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 20,000 ดอลลาร์ต่อบิทคอยน์

อย่างไรก็ตามคาดว่าราคาบิทคอยน์ก็มีโอกาสปรับตัวลดลงมาแถวระดับ 8,000 ดอลลาร์ต่อบิทคอยน์ได้ หากสถานการณ์ของโลกเลวร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากนักลงทุนจะเลือกขายบิทคอยน์ออกมาเพื่อล็อกกำไรหรือเก็บเงินสดไว้ไปใช้ในการดำรงชีวิตประจำวันมากขึ้น

“สถานการณ์ตอนนี้แนะนำให้นักลงทุนเล่นสั้นดีกว่าที่จะถือระยะยาว เพราะไม่รู้สถานการณ์ข้างหน้าจะเป็นอย่างไร”

SOURCE : www.bangkokbiznews.com