นายพิชัย ถิ่นสันติสุข ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า เห็นด้วยกับแนวคิดของปลัดกระทรวงพลังงานที่ต้องการปรับปรุงนโยบายส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) ใหม่ ที่ปัจจุบันมีโครงการที่ยื่นมาค้างการพิจารณาอยู่ 3,000 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ สอดคล้องกับแผนงาน ส.อ.ท.ที่อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อเสนอแนะในการส่งเสริมพลังงานทดแทน ซึ่งที่ผ่านมามีผู้สนใจลงทุนโซลาร์เซลล์จำนวนมาก เนื่องจากได้ราคาในการรับซื้อไฟฟ้าในระดับที่สูง แต่มีโครงการค้างท่อที่ยังไม่มีการก่อสร้างจริงกว่า 100 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่ผู้ประกอบการไปยื่นฟ้องกับกระทรวงพลังงาน กรณีถูกระงับซื้อขายไฟฟ้าที่ผลิตจากโซลาร์เซลล์กว่า 700 เมกะวัตต์ เพราะมีผู้ประกอบการหลายรายไม่ยอมผลิตไฟฟ้าป้อนเข้าระบบตามสัญญา อย่างไรก็ตาม หากภาครัฐต้องการแก้ไขปัญหาเหล่านี้เป็นเรื่องที่ดี โดยควรถอนใบอนุญาตของโครงการที่ไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาได้ เพื่อนำมาอนุมัติให้กับรายใหม่ที่มีความตั้งใจในการลงทุนโซลาร์เซลล์จริงๆ
สำหรับข้อเสนอของ ส.อ.ท.ในโครงการส่งเสริมโซลาร์เซลล์ของภาครัฐนั้น มีหลายประเด็นด้วยกัน ได้แก่ 1.ควรปรับสัดส่วนเป้าหมายการส่งเสริมโซลาร์เซลล์ โดยโครงการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) ให้ เป็น 60% ส่วนประเภทโซลาร์ฟาร์ม 40% ไว้ 2.เพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า กรณีโซลาร์รูฟท็อปบ้าน จากปัจุบันกำหนดไว้ 6.69 บาท/หน่วย และ ลดราคาซื้อไฟฟ้าของประเภทโรงงานลงจากปัจจุบันที่ได้ราคารับซื้อเฉลี่ย 6.16-6.55 บาท/หน่วย 3.ควรกำหนดขอบเขตของการบังคับใช้ใบอนุญาตควบคุมอาคาร (อ.1) และไม่ควรยกเว้นการขอใบอนุญาตดังกล่าวเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุภายหลัง
ที่มา : โพสต์ทูเดย์