ดร.เนตรนภิศ สุขบาง-ไนดู ประธานผู้อำนวยการ บริษัท ดิ เอสเตท (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัทในกลุ่ม บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC จัดงาน Create Endless  Opportunities 2020 เพื่อขอบคุณพันธมิตรด้านการลงทุน-ขาย-เช่าอสังหาริมทรัพย์กว่า 40 บริษัท กระชับความสัมพันธ์ และ ร่วมมือกันในการขยายโอกาสทางธุรกิจด้านการให้คำปรึกษาด้านการลงทุน-ขาย-เช่าอสังหาริมทรัพย์ สำหรับลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางมาทำธุรกิจ หรือพักอาศัยในประเทศไทย และมีความต้องการที่อยู่อาศัยในแบบต่างๆ รวมถึงสิทธิประโยชน์จากอสังหาฯ  ภายใต้แบรนด์คุณภาพของ MQDC  มีผู้แทนบริษัทพันธมิตรเข้าร่วมงานมากมายกว่า 70 คน

       การจัดงาน Create Endless Opportunities 2020 ครั้งนี้เพื่อขอบคุณพันธมิตรทุกท่านทุกบริษัท ที่ได้ร่วมทำงานกับเราตลอดปีที่ผ่านมา ทุกท่านคือส่วนหนึ่งที่ทำให้ดิเอสเตท ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้

       ดังนั้น นโยบายของเรา ในปี 2563 นี้ ยังคงมุ่งเน้นให้การสนับสนุนพันธมิตรในด้านข้อมูลของโครงการต่างๆ ที่เราดูแลเพื่อให้พันธมิตรของเรามีความเข้าใจในแนวทางและข้อมูลสำคัญๆในด้านจุดขาย (Selling Point) ของโครงการต่างๆ ที่มีความหลากหลายในทำเลต่างๆ ทุกโครงการที่เกิดขึ้นมานั้นทาง MQDC มุ่งหวังว่าจะช่วยแก้ปัญหาในด้านความต้องการที่อยู่อาศัย ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและความต้องการของลูกค้า นำไปสู่เป้าหมายสำคัญในท้ายสุด คือ MQDC มีส่วนช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของลูกค้า และ สังคมรอบข้าง ตามปรัชญา For All Well Being ที่เรามุ่งมั่นดำเนินธุรกิจไปพร้อมกับความรับผิดชอบต่อสังคม  การจัดงานนี้เราหวังว่าจะมีส่วนช่วยสนับสนุนให้พันธมิตรและเราร่วมกันทำงานได้อย่างมีเป้าหมายสอดคล้องกันและช่วยให้การทำงานของเรามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น”
 
         ภายในงานได้จัดกิจกรรมพิเศษ ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ นำโดย นายนนทิ ศัพทเสวี ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทดิจิต้าไลฟ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด  นางสาวผกาวดี จิตติธีระนนท์ผู้อำนวยการ โครงการวิสซ์ดอม บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัดหรือ MQDC  และ นายฬียาพล อัครรัศมีโภคิน Project Marketing Manager  บริษัทดีทีจีโอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด  ให้เกียติร่วมบรรยายในหัวข้อ MQDC Branding and Positioning ที่ เอสเคป แบงค็อก เอ็มควอเทียร์ 
     
        แม้ว่าการคาดการณ์สภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทย ที่มีการประเมินอัตราจีดีพีโดยคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ได้ปรับลดประมาณการจีดีพีปีนี้ คาดว่าจะโตได้ที่ 2.0-2.5% จากเดิมคาดกันไว้ที่  2.5-3.0% จากปัจจัยลบทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า ความล่าช้าในการบังคับใช้งบประมาณปี 2563 รวมทั้งปัญหาค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน (PM 2.5) ที่อาจมีผลต่อคุณภาพชีวิตและการทำกิจกรรมกลางแจ้งของผู้บริโภค บริษัทฯ ประเมินว่าสภาพตลาดกลุ่มเป้าหมายของบริษัทฯ ได้รับผลกระทบไม่มากนักจากสภาพเศรษฐกิจและบริษัทฯ มีความเชื่อมั่นว่า ตลาดในประเทศยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ เช่นเดียวกับตลาดต่างประเทศที่อสังหาฯ ชั้นนำในกรุงเทพฯ ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากในระยะยาวหากผ่านพ้นช่วงวิกฤติจากภาวะซบเซาจากโรคระบาดที่คาดว่าจะสิ้นสุดลงในอีก 3 -6 เดือนข้างหน้า

       สำหรับรายได้ของบริษัท ฯ ในปีที่ผ่านมาเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ สามารถปิดยอดรายได้รวมประมาณ 1,200 ล้านบาท ในขณะที่เป้าหมายในปี 2563 นี้ตั้งเป้าเติบโตเพิ่มอีก 25-30% จากปี 2562