SENA” วางหมากปี 2020 สื่อด้วยกลยุทธ์ “HOW TO THINK” 5 แนวคิดพิชิตตลาดอสังหาฯ  ระบุปีนี้ตั้งใจเปิด 10 โครงการ มูลค่ารวม 7,500 ล้านบาท แจงแผนร่วมทุนต่อยอดธุรกิจเพื่อนซี้สุด  สตรอง “ฮันคิว ฮันชิน” ขยายพอร์ต “แนบราบ” บุกตลาดครั้งแรก ปักเป้ายอดขาย 11,500 ล้านบาท และยอดโอน 10,600 ล้านบาท

        ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การพัฒนาระบบรถไฟฟ้าที่มีกำหนดเปิดให้บริการในปี 2565 อาทิ สายสีแดง ศาลายา-หัวหมาก, สายสีส้ม บางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม, สายสีน้ำเงิน บางแค-พุทธมณฑล สาย4, สายสีม่วง เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ, สายสีเขียว สมุทรปราการ-บางปู และ คูคต-ลำลูกกา จะเป็นปัจจัยสำคัญให้เกิดการขยายตัวของเมือง ทำให้ผู้ผู้บริโภคเกิดการเปลี่ยนแปลง และเป็นโอกาสของการพัฒนาที่อยู่อาศัยรอบเมือง โดยเฉพาะโครงการตามแนวรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ

        ที่ผ่านมา เสนาฯได้เน้นทำตลาดคอนโดฯในหลายระดับราคา เพื่อจับกลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุม แต่จากการศึกษาข้อมูลตลาดอสังหาฯของเสนาฯ พบว่า ในช่วงปี 62 ทาวน์เฮ้าส์ เป็นสินค้าที่ขายได้สะสมสูงสุดของกลุ่มแนวราบ คิดเป็น 23.9% จากจำนวนขายได้ทั้งหมด โดยเฉพาะระดับราคา 2-5 ล้านบาท ขณะที่กลุ่มคอนโดฯ ราคา 1-3 ล้านบาท ก็ยังเป็นกลุ่มที่ได้รับความนิยมจากลูกค้า ทั้งซื้อเพื่ออยู่เอง และกลุ่มนักลงทุน

        ดังนั้นในปี 2563 เสนาฯ จึงมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ ทั้งหมด 10 โครงการ รวมมูลค่า 7,500 ล้านบาท  แบ่งเป็น โครงการแนวสูง 6 โครงการ มูลค่า 4,000 ล้านบาท และแนวราบ 4 โครงการ มูลค่า 3,500 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 11,500 ล้านบาทและเป้ารายได้ 10,600 ล้านบาท  ซึ่งปีนี้จะเน้นการขยายพอร์ต “แนวราบ” ให้ครอบคลุม โดยทำตลาดเจาะกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์ เน้นคนซื้ออยู่จริงโดยใช้ดาต้าหลายส่วนมาค้นหาทำเลที่เหมาะสม เช่น การเลือกสถานีบนโครงข่ายรถไฟฟ้าที่เหมาะสม โดยต้องเป็นเขตที่มีแหล่งงาน มีคนอพยพเข้ามาอยู่อาศัย ผังเมืองเหมาะสมและซัพพลายยังไม่มากเกินไป โดยเฉพาะตลาดแนวราบ ระดับราคา 3-5 ล้านบาท และแนวสูง ระดับราคา 1- 3 ล้านบาท เป็นระดับราคาที่ได้ความนิยมและมีกำลังซื้อที่ดี

 

         ซึ่งเสนาฯ จะปรับแบรนด์พอร์ตโฟลิโอ โดยจับมือกับ “ฮันคิว” สร้างแบรนด์คอนโดฯใหม่ คือ SLASH” คอนโดฯระดับ City Condo ราคา 1-2 ล้านบาท เฉลี่ย 40,000-70,000 บาท/ตร.ม. และ SENA KITH” คอนโดฯระดับ Economy ราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท เฉลี่ย 35,000 บาท/ตร.ม.

         พร้อมเปิดตัวบ้านแบรนด์ใหม่ คือ SENA VILLE, SENA VILLAGE, SENA VELA และ SENA VIVA เพื่อเจาะกลุ่มแนวราบ โดยโครงการ SENA VILLAGE, และ SENA VIVA จะเป็นโครงการแนวราบในกลุ่ม Main Class และ Economy ที่เสนา จับมือกับฮันคิว พัฒนาขึ้นร่วมกันเป็นครั้งแรก โดยจะนำแนวคิด Geo fit+ จากญี่ปุ่นมาปรับใช้กับสินค้าและบริการ เพื่อให้สอดรับกับกลุ่มเป้าหมายแต่ละเซ็กเมนต์ เน้นกลุ่มลูกค้า GEN Y – First Jobber

 

         แม้ภาพรวมตลาดอสังหาฯจะเต็มไปด้วย Perfect Storm แต่ในปี 2563 เสนาฯได้เตรียมรับมือ Digital Disruption เป็นทั้งโอกาสและวิกฤตต้องปรับตัวให้ทัน ดังนั้นปีนี้ จึงมีวิสัยทัศน์  HOW TO THINK”  วาง 5 แนวคิดหลักรุกธุรกิจอสังหาฯปี 2563

Think of Real Demand: ไฮไลต์ Target Group เจาะเรียลดีมานด์ (Real Demand) เน้นคนซื้ออยู่จริง ค้นหาทำเลที่เหมาะสม สถานีบนโครงข่ายรถไฟฟ้าที่เกิดขึ้นมากมาย ต้องเป็นเขตที่มีแหล่งงาน มีคนอพยพเข้ามาอยู่อาศัย ผังเมืองเหมาะสมและซัพพลายยังไม่มากเกินไป โดยเฉพาะตลาดแนวราบ Segment 3-5 ล้านบาท และแนวสูง Segment 1- 3 ล้านบาท ยังเป็นระดับราคาที่มีความนิยมและมีกำลังซื้อที่ดี

Re Think SENA CORE COMPETENCY IN THE PAST ONTO THE PRESENT: ด้วยประสบการณ์กว่า 40 ปี เสนาเริ่มต้นจากธุรกิจแนบราบพัฒนาโครงการมากว่า 50 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 1.9 หมื่นล้านบาท โดยแนวการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ไม่ใช่แค่การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อสนองความต้องการกลุ่มลูกค้าแบบเดิมๆ แต่ทุกโครงการของเสนา “บ้านทุกหลัง” ต้องเป็นบ้านประหยัดพลังงาน จนเป็นที่มาของ “หมู่บ้านเสนาโซลาร์” โครงการแรกในไทยที่ใช้ไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์

 

Think of SENA INNOVATION : “นวัตกรรมและเทคโนโลยี” เป็นกุญแจดอกสำคัญที่เสนาให้ความใส่ใจและยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจโซลาร์และติดโซลาร์ให้กับทุกโครงการของเสนาเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตควบคู่กับการเปลี่ยนโลกให้น่าอยู่ ปัจจุบันมีการติดตั้งให้กับบ้านทุกหลังรวม 400 หลัง ประมาณ 1,000 กิโลวัตต์

Think of SENA Experience: ตัวแปรที่จะช่วยขับเคลื่อนภาพลักษณ์ของเสนาให้มีความชัดเจนและมีจุดต่างมากยิ่งขึ้น เสนามี “MADE FROM HER” แนวคิดหลักที่นำความคิดละเอียดหลายชั้นของผู้หญิงมาพัฒนาสินค้าและบริการ ในปีนี้สิ่งที่จะทำเพิ่มเติมคือ 1.ให้ความสำคัญกับ Customer Journey ที่มีความแตกต่างของแต่ละเซกเม้นท์ 2.ปรับแบรนด์พอร์ตโฟลิโอ (Brand Portfolio) สร้างแบรนด์คอนโดใหม่ “SLASH” “SENA KITH” และแบรนด์บ้านใหม่ “SENA VILLE” “SENA VILLAGE” “SENA VELA” “SENA VIVA” เพื่อให้สอดรับกับกลุ่มเป้าหมายแต่ละเซ็กเมนต์ เน้นกลุ่มลูกค้า GEN Y – First Jobber 3. ดีไซน์เว็บไซต์และแอพพลิเคชั่น 360 องศาให้ทันสมัยและง่ายต่อเข้าถึงข้อมูล

Think of Business Model: ปัจจัยสนับสนุนหลักทุกสเต็ปต์ของการเติบโตของเสนานั้น ส่วนหนึ่งมาจากการที่มีพันธมิตรที่แข็งแกร่ง บริษัท ฮันคิว ฮันชิน พร็อพเพอร์ตี้ คอร์ป ปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ในช่วงเวลา 3 ปี ทั้งหมด 9 โครงการ และปีนี้ เสนา ฮันคิว ฮันชิน เตรียมรุกตลาด “ทาวน์โฮม” ร่วมกันเป็นครั้งแรก รวมถึงคอนโดต่ำล้าน และคอนโดฯ ราคา 1- 1.5 ล้านบาท พร้อมนำแนวคิด Geo fit+ จากญี่ปุ่นมาปรับใช้กับสินค้าและการบริการ นอกจากนี้มีการ จัดตั้งบริษัท ทีเค นวกิจ จำกัด” บริษัทรับเหมาก่อสร้างพัฒนาคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ของบริษัท เพื่อควบคุมต้นทุน และระยะเวลาก่อสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ   

         ด้วยกลยุทธ์ของบริษัทที่ใส่ใจในทุกรายละเอียดทุกเรื่อง ศึกษาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆตลอดเวลาเพื่อนำมาพัฒนาสินค้าและบริการให้มีคุณภาพออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับพันธมิตรชั้นนำที่เข้ามามีส่วนช่วยผลักดันให้บริษัทเติบโต จึงทำให้มั่นใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน