3 ธ.ค.62-นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส เปิดเผยว่า ในวันที่ 4 ธันวาคม 2562 นี้ บริษัทฯ จะเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเหนือ ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต เพิ่มอีก 4 สถานี (จากเดิมที่ให้บริการอยู่แล้ว 44 สถานี) ได้แก่ สถานีพหลโยธิน 24 (N10) สถานีรัชโยธิน (N11) สถานีเสนานิคม (N12) และสถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (N13)
        
           ทั้งนี้จะเป็นการให้บริการโดยยกเว้นค่าโดยสารจนถึงวันที่ 2 มกราคม 2563 จากปัจจุบันที่สายสีเขียวเหนือได้ยกเว้นค่าโดยสารอยู่แล้ว 1 สถานี คือจากสถานีหมอชิตไปสถานีห้าแยกลาดพร้าว รวมถึงยกเว้นค่าโดยสารในสายสีเขียวใต้ช่วง แบริ่ง-สมุทรปราการ อีกจำนวน 9 สถานี รวมให้บริการโดยยกเว้นค่าโดยสาร 14 สถานี

           "การขยายเส้นทางให้บริการที่ครอบคลุมยาวขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกสบายในการเดินทางมากขึ้นในครั้งนี้   บริษัทฯได้มีการจัดรูปแบบการเดินรถให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารที่ใช้บริการ ควบคู่กับการเพิ่มขบวนรถใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง มีการสั่งซื้อขบวนรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจำนวน 46 ขบวน ปัจจุบันมีการทยอยส่งมอบมาแล้วทั้งสิ้น 33 ขบวน โดยจำนวนที่เหลือคาดว่าจะส่งมอบได้ภายในเดือนมีนาคม 2563 ซึ่งทำให้บริษัทฯ จะมีขบวนรถไฟฟ้าขนาด 4 ตู้ ให้บริการผู้โดยสารมากถึง 98 ขบวน หรือรวม 392 ตู้"นายสุรพงษ์ กล่าว
          
           นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า เพื่อรองรับการขยายเส้นทางให้บริการในครั้งนี้ บริษัทฯ จะมีการเพิ่มจำนวนขบวนรถให้บริการมากขึ้นในเส้นทางสายสุขุมวิท โดยจะมีรูปแบบและแบ่งระยะเวลาการให้บริการเป็น 2 ช่วงหลักดังนี้ 1. ช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า ตั้งแต่เวลา 07.00 – 09.00 น. และช่วงเวลาเร่งด่วนเย็น ตั้งแต่เวลา 16.30 – 20.00 น. ในวันจันทร์-ศุกร์ การให้บริการระหว่างสถานีหมอชิต (N8) ถึงสถานีสำโรง (E15) จะมีความถี่ระหว่างขบวน 2 นาที 40 วินาที

           ส่วนความถี่การให้บริการระหว่างสถานีหมอชิต (N8) และสถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (N13) รวมถึงความถี่การให้บริการระหว่างสถานีสำโรง (E15) และสถานีเคหะฯ (E23) จะมีระยะห่างระหว่างขบวน 5 นาที 20 วินาที โดยจะมีขบวนรถวิ่งสลับกันให้บริการ ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถสังเกตจากป้ายด้านหน้า และด้านข้างขบวนรถ เสียงประกาศบนชั้นชานชาลา ในขบวนรถ และจอประกาศบนสถานี

           2. ช่วงนอกเวลาเร่งด่วนในวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.00 – 16.30 น. และเวลา 20.00 – 24.00 น.วันเสาร์และวันอาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ รถทุกขบวนจะวิ่งตั้งแต่สถานีเคหะฯ ถึงสถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  โดยจะมีความถี่ระหว่าง 6 นาที ถึง 6 นาที 30 วินาที  และ 8 นาที หลังเวลา 22.00 น.
        
           อย่างไรก็ตาม  ส่วนการเดินรถไฟฟ้าสายสีลมนั้น รูปแบบและความถี่ในการเดินรถยังคงเหมือนเดิม โดยช่วงเวลาเร่งด่วนเช้าและเย็น จะมีความถี่ของการเดินรถ 3 นาที 45 วินาที ส่วนนอกช่วงเวลาเร่งด่วน รวมถึงเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ความถี่การเดินรถจะอยู่ระหว่าง 6 ถึง 8 นาที

ขอบคุณข้อมูลจาก www.thaipost.net