การวิ่งมาราธอน เป็นทางเลือกสำหรับการออกกำลังกายที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก ทั้งในหมู่คนที่มีไลฟ์สไตล์สายสุขภาพ ตลอดจนผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นออกกำลังกาย เพราะการวิ่งมาราธอนไม่เพียงแต่ทำให้สุขภาพแข็งแรงเท่านั้น แต่ยังถือเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตของใครหลายคนให้เริ่มสร้างวินัยในตนเองด้วยการจัดสรรเวลาเพื่อฝึกซ้อม และเลือกรับประทานอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ ซึ่งส่งผลให้ชีวิตดำเนินไปอย่างเป็นระบบยิ่งขึ้น

สำหรับนักวิ่งมาราธอนมืออาชีพ การวิ่งในทุก ๆ ครั้งคงไม่ได้เป็นเพียงแค่การออกกำลังกาย แต่ยังเป็นความท้าทายเพื่อทดสอบจิตใจของตนเองด้วยเป้าหมายใหม่ที่ตั้งไว้ และความท้าทายนั้นจะยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีกหากได้ลองเปลี่ยนบรรยากาศไปวิ่งมาราธอนในต่างแดนดูบ้าง เพื่อเป็นการสัมผัสประสบการณ์และวัฒนธรรมใหม่ ๆ แต่นักวิ่งสายอึดทุกคนต้องใส่ใจรายละเอียดในการเตรียมความพร้อมเป็นพิเศษ ดังนี้

  • ปรับเวลาตื่นนอนตามไทม์โซนล่วงหน้า ในกรณีที่ต้องเดินทางไปวิ่งในประเทศที่มีไทม์โซนแตกต่างจากบ้านเรามากกว่า 4 ชั่วโมง ควรปรับเวลาการนอนและการตื่นตามเวลาในประเทศนั้น ๆ ล่วงหน้าอย่างน้อย 2 วัน เพื่อให้ร่างกายคุ้นชินกับการตื่นนอนในเวลาที่เปลี่ยนไปจากเดิม
  • วางแผนการเดินทางทั้งไปและกลับอย่างเหมาะสม ทั้งนี้อาจต้องเดินทางไปยังเมืองที่จัดการแข่งขันล่วงหน้าสัก 1-2 วัน เพื่อให้มีเวลาเตรียมความพร้อมด้านอื่น ๆ และหลังจากการวิ่งเสร็จสิ้นลงแล้ว ควรพักผ่อนอย่างน้อย 1 วัน เพื่อให้ร่างกายได้คลายความปวดเมื่อยก่อนเดินทางกลับ
  • สำรวจการเดินทางไปยังสถานที่จัดงาน เมื่อไปถึงที่พักแล้วยังพอมีเวลาว่าง ควรทดลองเดินทางจากที่พักไปยังสถานที่จัดการแข่งขันพร้อมจับเวลาการเดินทางคร่าว ๆ ว่าใช้เวลามากน้อยเพียงใด เพื่อจะได้กำหนดเวลาสำหรับเดินทางได้อย่างเหมาะสมในวันแข่งขัน และเดินทางไปถึงยังสถานที่จัดงานได้ตามกำหนดการ
  • ลองสวมเสื้อผ้าที่ใช้ในวันวิ่ง อุณหภูมิถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญในการวิ่งมาราธอน เพราะจะส่งผลต่อสภาพร่างกายในขณะแข่งขัน ดังนั้นอย่าลืมทดลองสวมใส่เสื้อผ้าที่ใช้ในวันวิ่งว่ามีความอบอุ่นเพียงพอต่อสภาพอากาศหรือไม่ และควรหลีกเลี่ยงการใช้รองเท้าคู่ใหม่ที่ไม่เคยสวมใส่ในการวิ่งมาก่อน เพราะอาจไม่คุ้นเคยและก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บได้
  • ศึกษาเส้นทางจากแผนที่วิ่งและผังเมือง ในการวิ่งทุกครั้งควรศึกษาเส้นทางการวิ่งจากแผนที่ที่ได้รับแล้วเปรียบเทียบกับผังเมืองว่าตลอดเส้นทางที่วิ่ง มีจุดใดเป็นจุดสังเกตบ้าง ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวหรือแลนด์มาร์กสำคัญแห่งไหนในเมือง เพื่อให้ทราบว่าตนอยู่ใกล้หรือไกลจากจุดบริการน้ำดื่มหรือจุดปฐมพยาบาล ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
  • ไปถึงจุดนัดหมายก่อนเวลา การไปถึงสถานที่วิ่งก่อนเวลาสักครึ่งชั่วโมง จะช่วยให้นักวิ่งมีเวลาเพื่อทำธุระส่วนตัว สร้างความคุ้นเคยกับสถานที่จริงเพื่อคลายความตื่นเต้น (โดยเฉพาะผู้ที่วิ่งเป็นครั้งแรก) และยังมีเวลาเพียงพอสำหรับการวอร์มอัพก่อนวิ่งอีกด้วย

และนี่จะเป็นประสบการณ์การท่องเที่ยวต่างประเทศที่พิเศษกว่าครั้งไหน ๆ เพราะการได้ไปเยือนต่างแดนในฐานะนักวิ่งมาราธอน แม้จะต้องเตรียมตัวมากหน่อย แต่รับรองว่าจะเป็นความทรงจำที่น่าประทับใจไม่น้อย หากจบลงด้วยการพิชิตเป้าหมายที่วางไว้ และที่สำคัญที่สุดในทุกการเดินทางก็คือความปลอดภัย ดังนั้นนอกเหนือจากการเตรียมพร้อมทั้งกายและใจแล้ว อย่าลืมซื้อประกันการเดินทางไว้เพื่อความอุ่นใจหากเกินเหตุไม่คาดฝันก็ยังสามารถรักษาตัวในต่างประเทศได้นะครับ 

SOURCE : www.krungsri.com