กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีความเห็นต่อผลการประชุม คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่สร้างความประหลาดใจให้ตลาดด้วยการลงมติลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาที่ 1.50% เป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2558 ส่งผลให้เงินบาทอ่อนลงค่าอย่างรวดเร็วแตะระดับ 30.90 ต่อดอลลาร์ ก่อนที่กลับมาซื้อขายแถว 30.80 อ่อนค่าจากระดับที่ซื้อขายก่อนหน้านี้เพียงเล็กน้อย นับตั้งแต่ต้นปี เงินบาทยังคงแข็งค่ามากกว่า 5% และเป็นสกุลเงินที่แข็งค่ามากกว่าสกุลอื่นๆ ในเอเชีย โดยทางคณะกรรมการกนง. จะติดตามสถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยนและเงินทุนเคลื่อนย้ายอย่างใกล้ชิด รวมทั้งประเมินความจำเป็นของมาตรการที่เหมาะสมเพิ่มเติม 

 

          โดยคณะกรรมการ กนง. ระบุว่า เศรษฐกิจไทย มีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่คาดไว้ และระบุว่าการชะลอตัวของภาคส่งออกเริ่มส่งผลต่ออุปสงค์ในประเทศ กนง. ประเมินว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจมีโอกาสที่จะต่ำกว่าระดับศักยภาพ ขณะที่สถานการณ์ปัจจัยแวดล้อมไม่ได้เอื้อต่อการส่งออก การท่องเที่ยว การบริโภคเอกชน การลงทุนภาคเอกชน  และการใช้จ่ายของภาครัฐ ด้านแรงกดดันด้านราคา กนง. มองว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมายในช่วง 1-4% นอกจากนี้ การแข็งค่าของเงินบาทยังเพิ่มความเสี่ยงอย่างมีนัยยะสำคัญท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น

           คณะกรรมการกนง. มีกำหนดการประชุมรอบถัดไปในวันที่ 25 กันยายน 2562  การลงมติในวันนี้สามารถตีความได้ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจอยู่ในสภาพที่แย่กว่าที่ประเมินไว้ ขณะที่กนง. ย้ำถึงผลกระทบจากการที่ปล่อยให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ระดับต่ำเป็นเวลานานเกินไป และเน้นว่าได้ดำเนินมาตรการเพื่อจัดการความเสี่ยงของเสถียรภาพทางการเงินได้ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ คณะกรรมการสองท่านมีความเห็นให้คงดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม แม้ขณะนี้มีแนวโน้มการผ่อนปรนนโยบายการเงินทั่วโลก แต่เรายังไม่แน่ใจว่าการตัดสินใจลดดอกเบี้ยนโยบายจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในสถานการณ์ปัจจุบันที่ดอกเบี้ยอยู่ที่ระดับต่ำอยู่แล้ว สำหรับแนวโน้มต่อไป เราคาดว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายน่าจะอยู่ที่ 1.50% ตลอดช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยประเด็นสงครามการค้าโลกจะเป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะผลต่อการปรับมุมมองของเรา

 

ขอบคุณข้อมูลจาก กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)