กระทรวงพาณิชย์ แนะนำผู้ประกอบการให้ยุคใหม่ใช้เทคโนโลยีเจาะตลาด เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ พร้อมปรับตัวแข่งขันการค้ายุคดิจิทัล หวังใช้อีคอมเมิร์ซช่วยกระตุ้นการค้าในระบบออฟไลน์เพื่อยกระดับการค้าให้เติบโตไปพร้อมกันทั้งภูมิภาค

 

        นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพรผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวว่า การจัดงาน "CLMVT Cross-BorderDigital Trade" เป็นการต่อยอดความสำเร็จจากการจัดงานประชุมระดับผู้นำCLMVT Forum 2019 ที่ผ่านมา โดยการจัดงานในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมงานจากกลุ่มประเทศ CLMVT และอาเซียนกว่า 300 คน เพื่อเจาะลึกเรื่องE-Commerce กับการค้าผ่านแดน

        นอกจากสร้างความตระหนักรู้ให้กับผู้ประกอบการในการนำข้อมูล การค้าดิจิทัล ข้ามพรมแดน ไปใช้ในการวางแผนธุรกิจและปรับกลยุทธ์ธุรกิจให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจการค้ายุคใหม่แล้วยังให้และให้มุมมองของภาครัฐในการจัดทำข้อมูลด้านการค้าผ่านระบบดิจิทัลเพื่อใช้ในการพัฒนาผู้ประกอบการรวมถึงการกำหนดนโยบายและเสนอแนะแนวทางการด้านเศรษฐกิจการค้าของประเทศได้อย่างถูกต้องแม่นยำมากขึ้นอีกด้วย  จึงเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้มีโอกาสสร้างเครือข่ายกับผู้ประกอบการจากประเทศอื่นในภูมิภาคอีกด้วย              

         จากข้อมูลสถิติพบว่าในปี 2558 ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกซึ่งรวมถึงอาเซียนและ CLMVTมีสัดส่วนมูลค่า e-commerce แบบ B2C ใน GDPสูงที่สุดในโลกที่ 4.5% และประมาณการว่าในปี 2562มูลค่า e-commerce ของภูมิภาคนี้จะมีมูลค่าถึง 3.81แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้ง มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR 2014-2020) สูงถึง 37%สูงกว่าภูมิภาคอเมริกาเหนือและยุโรปตะวันตก 

 

         

         สำหรับ ประเทศที่มีมูลค่า e-commerce สูงที่สุดใน CLMVT คือ ไทย โดยมูลค่า e-commerce ของไทยในปี2558-2561 มีมูลค่า 2.24ล้านล้านบาท-3.1 ล้านล้านบาท ซึ่งในปี 2561 มูลค่า B2C  ของไทยเติบโตถึง 14%  และคาดการณ์ว่าในปี 2562จะเติบโตเพิ่มขึ้นอีก 2%  นอกจากนี้จากการจัดอันดับความพร้อมด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แบบ Business-to-customer(B2C)  "UNCTAD B2C E-commerce Index 2017"ทำให้เห็นว่า ประเทศในกลุ่ม CLMVT มีระดับความพร้อมด้าน e-commerce ที่แตกต่างกัน โดยไทยมีความพร้อมเป็นอันดับที่ 49 ของโลกและสูงที่สุดในกลุ่ม CLMVT

         อย่างไรก็ดี E-Commerce จะเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการยกระดับทั้งมูลค่าและความสัมพันธ์ด้านการค้าผ่านแดนและประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค CLMVT  ทั้งในระบบออนไลน์และการค้าในระบบปกติซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดงานครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญและนำไปสู่เป้าหมายในการพัฒนาการค้าของภูมิภาคCLMVT ให้กลายเป็นศูนย์กลางห่วงโซ่คุณค่าโลกแห่งใหม่ที่ผู้ประกอบการสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างเต็มศักยภาพและก่อให้เกิดความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป