รายงาน Wealth X’s Billionaire Census 2019 ระบุว่า ระหว่างปี 2560-2561 จำนวนอภิมหาเศรษฐีที่มีทรัพย์สินอย่างน้อย 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ultra-high-net-worth individuals (UHNWI) ในโลกนี้มีทั้งหมด 2,604 คน ลดลงจากปีก่อนที่มี 2,754 คน

นอกจากจำนวนจะลดลงแล้ว มูลค่าความร่ำรวยของคนกลุ่มนี้ก็ลดลง 7% อยู่ที่ราวๆ 8.6 ล้านล้านดอลลาร์ เนื่องจากความตึงเครียดทางการค้า ความผันผวนของตลาดทุน และการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในปี 2561

เมื่อกางแผนที่คนรวยขั้นสุดของโลกพบว่า ราว 3 ใน 4 ของทั้งหมดกระจายอยู่ใน 15 เขตเศรษฐกิจ เรียงตามลำดับ ได้แก่ 1. สหรัฐฯ 2. จีน 3. เยอรมนี 4. รัสเซีย 5. อังกฤษ 6. สวิตเซอร์แลนด์ 7. ฮ่องกง 8. อินเดีย 9. ซาอุดีอาระเบีย 10. ฝรั่งเศส 11. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 12. บราซิล 13. อิตาลี 14. แคนาดา 15. สิงคโปร์

ทั้ง 15 เขตเศรษฐกิจนี้มีคนรวยกลุ่ม UHNWI รวมกัน 1,942 คน มีทรัพย์สินรวมกันคิดเป็นมูลค่า 6.8 ล้านล้านดอลลาร์

“สหรัฐฯ” เป็นแหล่งรวม อภิมหาเศรษฐี มากสุดในโลก และเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีจำนวนคนกลุ่มนี้เพิ่มขึ้น โดยอยู่ที่ 705 คน จากเดิม 680 คน หรือเพิ่มขึ้น 4% คิดเป็นสัดส่วน 27% ของทั้งโลก

ส่วนความมั่งคั่งโดยรวมของซูเปอร์ริชอเมริกันลดลง 5.4% น้อยกว่าค่าเฉลี่ยทั้งโลกที่ลดถึง 7% โดยมูลค่าทรัพย์สินรวมของอภิมหาเศรษฐีอเมริกันอยู่ที่ประมาณ 3.01 ล้านล้านดอลลาร์

น่าสนใจว่า ความมั่งคั่งโดยรวมของซูเปอร์ริชอเมริกันมีมูลค่ามากกว่า 8 เขตเศรษฐกิจลำดับรองลงมารวมกันเสียอีก

เพราะในขณะที่มูลค่าทรัพย์สินรวมของอภิมหาเศรษฐีอเมริกันอยู่ที่ 3.01 ล้านล้านดอลลาร์ มูลค่าทรัพย์สินรวมของอภิมหาเศรษฐีในจีน เยอรมนี รัสเซีย อังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์ ฮ่องกง สิงคโปร์ และซาอุดีอาระเบีย รวมกันอยู่ที่ราว 2.9 ล้านล้านดอลลาร์เท่านั้น

ด้าน “จีน” ครองตำแหน่งรองแชมป์ปีล่าสุด ก็ตามสหรัฐมาห่างๆ ด้วยจำนวนอภิมหาเศรษฐี 285 คน ลดลง 16% จาก 338 คนในปีก่อนหน้า ขณะที่มูลค่าความมั่งคั่งรวมของอภิมหาเศรษฐีจีนอยู่ที่ 9.96 แสนล้านดอลลาร์ ลดลง 8%

ในจำนวน 15 เขตเศรษฐกิจ “รัสเซีย” เป็นเพียงประเทศที่ความร่ำรวยของเหล่า UHNWI เพิ่มขึ้น 1.1% ขยับขึ้นมา 2 อันดับจากปีก่อน ซึ่งเหตุผลหลักๆ มาจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่สูงขึ้น และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในระดับปานกลาง

สำหรับ 15 เขตเศรษฐกิจที่รวมจักรวาลอภิมหาเศรษฐีโลกไว้มากที่สุด มีดังนี้

ขอบคุณข้อมูลจาก thaipublica.org