ช่วงนี้สภาพอากาศของหลายที่ในประเทศไทยไม่ค่อยจะดี หลายที่มีค่าฝุ่นมลภาวะ PM2.5 ซึ่งอาจจะทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว โดยเฉพาะต่อเด็กๆ และผู้ที่มีปัญหาภูมิแพ้ ลองวางแพลนหาโอกาสไปเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศ สูดอากาศสะอาดๆ ที่ประเทศเหล่านี้ดูสิคะ ได้รับการอ้างอิงจากรายงานผลคุณภาพอากาศของมหาวิทยาลัยเยล 1 ด้วยนะคะ ไปดูกันค่ะว่ามีที่ไหนบ้าง 



ออสเตรเลีย (คุณภาพอากาศ อันดับ 1) จากการจัดอันดับของมหาวิทยาลัยเยล พบว่าออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีอากาศบริสุทธิ์ที่สุดในโลก และ โฮบาร์ต (Hobart) เมืองหลวงของรัฐเกาะแทสเมเนีย ก็เป็นเมืองที่มีอากาศดีที่สุดในประเทศ ด้วยทำเลที่ตั้งที่เป็นอ่าวขนาบด้วยเนินเขา แถมยังมีอาหารทะเลสดใหม่มากมายให้ลิ้มลอง เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้จึงเหมาะเป็นจุดเริ่มต้นในการท่องเที่ยวสำรวจธรรมชาติ รวมถึงชายหาดอันสวยงามอีกหลายหาดที่แฝงตัวอยู่รอบเกาะ แนะนำที่พัก The Old Woolstore Apartment (https://www.agoda.com/the-old-woolstore-apartment-hotel/hotel/hobart-au.html?site_id=1811392) เพื่อดื่มด่ำกับอากาศอันสดชื่นที่มีตลอดทั้งปีเวลาไปผจญภัยที่รัฐแทสเมเนีย

เมื่อข้ามมาที่แผ่นดินใหญ่ของออสเตรเลีย ก็ต้องไม่พลาดที่จะพูดถึงเมลเบิร์น (Melbourne) หนึ่งในเมืองใหญ่ของประเทศที่เป็นศูนย์กลางแห่งวัฒนธรรมอันหลากหลายและแหล่งช้อปปิ้งชั้นนำ อีกทั้งยังไม่เป็นสองรองใครในเรื่องการจัดกิจกรรม เพราะตารางอีเวนต์ของเมืองนี้แน่นตลอดทั้งปี ส่วนรัฐวิคตอเรีย (Victoria) ที่ได้ชื่อว่าเป็น รัฐแห่งสวน ก็มีสถานที่น่าสนใจทั่วเมืองให้เที่ยวชมจนลืมเหนื่อย แต่ถ้ารู้สึกอยากบริหารขยายปอด ลองเดินไปสูดอากาศบริสุทธิ์ตรงริมอ่าวที่เบย์ไซด์ (Bayside) หรือจะไปนอนรับลมทะเลที่ Beachside Port Melbourne (https://www.agoda.com/beachside-port-melbourne/hotel/melbourne-au.html?site_id=1811392) ที่พัก Agoda Homes นี้ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย

แคนาดา (คุณภาพอากาศ อันดับ 4)

อากาศในแทบทุกเมืองของประเทศแคนาดานั้นอยู่ในระดับที่ดีมาก เอื้อต่อการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ยกตัวอย่างแวนคูเวอร์ (Vancouver) เมืองนี้ไม่เพียงตั้งอยู่ติดอ่าวแต่ยังมีวัฒนธรรมทางทะเลที่สืบต่อกันมานาน ในตัวเมืองยังมีสวนสาธารณะสแตนลีย์ขนาดใหญ่ถึง 4 ตารางกิโลเมตร ให้ไปออกกำลังบริหารปอดท่ามกลางต้นไม้นานาพันธุ์ แวนคูเวอร์จึงเป็นชื่อที่คุ้นหูในหมู่คนที่ชอบออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน อีกทั้งไม่ไกลจากนอกเมืองก็มีทุ่งหิมะขนาดใหญ่หลายแห่งให้ไปเล่นสกีได้อย่างเพลิดเพลิน ด้วยเหตุผลเหล่านี้เอง นักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เคยไปเยือนเมืองหลวงของเมืองบริติช โคลัมเบียแห่งนี้ จึงล้วนติดใจอยากกลับมาเที่ยวอีกครั้ง

แนะนำ Best Western Capilano Inn and Suites (https://www.agoda.com/surestay-hotel-by-best-western-north-vancouver-capilano/hotel/vancouver-bc-ca.html?site_id=1811392) ที่พักในเมืองที่ช่วยให้การเดินทางท่องเที่ยวสำรวจรอบเมืองสะดวกสบายยิ่งขึ้น

บรูไน (คุณภาพอากาศ อันดับ 8)

แม้จะเป็นประเทศที่มีขนาดไม่ใหญ่นักและมักถูกมองข้าม แต่บรูไน หรืออีกชื่อคือ ดินแดนแห่งความสงบสุข กลับเป็นประเทศที่วัดค่า PM2.5 ได้น้อยที่สุดในทวีปเอเชีย เพียงนั่งเครื่องบินจากประเทศเวียดนามประมาณสองชั่วโมง ก็จะได้พบกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์นานาชนิด ซึ่งหาดูไม่ได้ที่ไหนในส่วนอื่นของภูมิภาค และสถาปัตยกรรมอิสลามที่ล้วนงดงามน่าทึ่ง สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวผู้มาเยือน

แนะนำ The Fern Apartment (https://www.agoda.com/the-fern-apartment/hotel/bandar-seri-begawan-bn.html?site_id=1811392) สำหรับคนที่ชอบที่พักที่ให้ฟิลเหมือนอยู่บ้าน ภายในมีห้องนั่งเล่น พื้นที่รับประทานอาหารกว้างขวาง และห้องประกอบอาหารแบบเปิด

สหรัฐอเมริกา (คุณภาพอากาศ อันดับ 10)

ด้วยพื้นที่ของประเทศที่ใหญ่โตกว้างขวาง สหรัฐอเมริกาจึงเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ซึ่งเป็นเรื่องยากหากเราต้องเลือกแนะนำเพียงแห่งเดียว ถึงกระนั้นเมืองพอร์ตแลนด์ (Portland) ในรัฐออริกอน (Oregon) ก็เป็นหนึ่งในจุดหมายที่คนรักธรรมชาติควรไปเยือนสักครั้ง เกือบทุกด้านของเมืองมีป่าเรดวู้ดขนาดมหึมาโอบล้อมไว้ ส่วนฝั่งตะวันตกก็เป็นแนวชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก แถมค่า PM 2.5 ที่วัดได้ก็มักอยู่ในหลักสิบ เมืองนี้จึงมีอากาศที่สะอาด เหมาะกับการไปพักผ่อนและพักปอดเป็นอย่างยิ่ง

ลองดูโรงแรม Staypineapple at Hotel Rose (https://www.agoda.com/staypineapple-at-hotel-rose_2/hotel/portland-or-us.html?site_id=1811392) สำหรับใครที่ชอบที่พักที่อยู่ในตัวเมือง

ญี่ปุ่น (คุณภาพอากาศ อันดับ 27)

นอกจากเกียวโตจะเป็นบ้านเกิดของพิธีสารเกียวโต (Kyoto Protocol) ข้อตกลงว่าด้วยการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่นที่มีมรดกอันยาวนานแห่งนี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่ง ซึ่งใช้เวลาสำรวจเองได้ไม่ยาก เช่น วัดวาอารามที่สร้างขึ้นเมื่อหลายพันปีก่อน และสวนสไตล์ญี่ปุ่นที่ได้รับการดูแลตกแต่งอย่างสวยงามสม่ำเสมอ นับว่าเป็นหนึ่งในเมืองอากาศดีที่นักท่องเที่ยวต้องไปเยี่ยมชม

ขอแนะนำ Daiwa Royal Hotel Grande Kyoto (https://www.agoda.com/daiwa-royal-hotel-grande-kyoto/hotel/kyoto-jp.html?site_id=1811392) โรงแรมที่มีบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตั้งอยู่ในโลเคชั่นที่เดินทางไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในเมืองแห่งวัฒนธรรมนี้ได้อย่างสะดวก

นี่ก็ใกล้จะฤดูร้อน ปิดเทอมแล้ว ลองวางแผน ไปเที่ยวช่วงหยุดยาวสงกรานต์, วันแรงงาน ช่วงเดือนพ.ค.กันแต่เนิ่นๆ นะคะ ขอให้สนุกกับวันหยุดและอากาศบริสุทธิ์ค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก  www.girldaily.com