ดร.อาภา อรรถบูรณ์วงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ริชี่ เพลซ 2002 จำกัด (มหาชน) หรือ RICHY กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดคอนโดฯ ย่านสุขุมวิทยังคงเป็นทำเลยอดนิยมที่สุดในกรุงเทพฯ ซึ่งในปี 61 ที่ผ่านมา มีคอนโดฯเปิดตัว 21 โครงการ จำนวน 6,500 ยูนิต ส่วนใหญ่เป็นโครงการ High-end และ luxury มีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 260,000 บาทต่อ ตร.ม.

โดยในย่านเอกมัยถือเป็นอีกหนึ่งทำเลศักยภาพ ที่น่าสนใจรองลงมาจากทองหล่อซึ่งปัจจุบันคอนโดฯย่านทองหล่อก็มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ราว 300,000 บาทต่อ ตร.ม.  ขณะที่คอนโดเอกมัยยังมีราคาอยู่ในระดับที่ลูกค้าเข้าถึงง่ายกว่า เฉลี่ยอยู่ที่ 185,000 บาทต่อ ตร.ม.เท่านั้น และในอนาคตก็คาดว่าราคาเฉลี่ยจะเพิ่มขึ้นแตะ 200,000 บาท ต่อ ตร.ม. ทำให้ทำเลนี้ได้รับความสนใจมากขึ้นจากทั้งลูกค้าชาวไทยและต่างชาติที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง รวมถึงนักลงทุนที่มองเห็นผลตอบแทนที่ได้รับจากค่าเช่า (yield) ที่คุ้มค่า โดยเฉลี่ยอยู่ที่ราว 4-7% ต่อปี

ล่าสุด ริชี่ เพลซฯ ได้ปักหมุดทำเลย่านเอกมัย เปิดตัว “The Rich Ekkamai” คอนโดฯ High Rise สูง 37 ชั้น บนพื้นที่ 1-3-67 ไร่ บนไพร์ม โลเคชั่น สุดยอดทำเลในย่านเอกมัย ติดบิ๊กซี เอกมัย ใกล้รถไฟฟ้า BTS เอกมัย โดยภายในโครงการ ให้ความสำคัญแก่ “ผู้อยู่อาศัย” และ “Passion” จึงออกแบบมาให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่มีความ Active ผ่าน Active Facilities แบบครบครัน อาทิ  Active Studio สระว่ายน้ำแบบ Vivid Spectrum pool ขนาดฮาล์ฟโอลิมปิก ที่ตั้งอยู่บนชั้นสูงสุดทำให้เห็น Ekkamai View Point ได้แบบ 360 องศา

ขณะที่การดีไซน์ให้อาคารมีเส้นสายที่โค้งมนทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ส่วนด้านในห้องของลูกค้าก็ได้จัดพื้นที่ใช้สอยเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานมากขึ้น และยังทำฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร ให้ภายในห้องโปร่งอยู่สบายมากขึ้น และตกแต่งให้แบบ Fully Fitted ในราคาเริ่มต้นเพียง 4.79 ล้านบาท เฉลี่ย 178,000 บาทต่อ ตร.ม.  ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ทำราคาออกมาได้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าวัยทำงานทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ หรือจะซื้อเพื่อการลงทุนก็เหมาะสมเป็นอย่างดี

มีห้อง 3 แบบ คือ

  • 1 Bedroom ขนาดพื้นที่ 28-32 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus ขนาดพื้นที่ 34-36 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms ขนาดพื้นที่ 51-60 ตร.ม.

สำหรับโครงการ "The Rich Ekkamai" ตอนนี้เปิดให้ลูกค้าที่สนใจสามารถลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อจองสิทธิเลือกห้องในวัน VVIP Day ที่ 30 มีนาคมนี้ ใครที่สนใจก้สามารถคลิก ไปลงทะเบียนจองสิทธิ์ได้ที่ www.therich-ekkamai.com  

ดร.อาภา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาฯปีนี้ คาดว่าจะยังคงทรงตัวเพราะยังมีปัจจัยบวกคอยสนับสนุน โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆที่กำลังเดินหน้าก่อสร้างที่จะมีผลให้เกิดกำลังซื้อที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้า และยังมีปัจจัยลบอย่างสภาพเศรษฐกิจโดยรวมและการเมืองที่ยังไม่ชัดเจนมาฉุดธุรกิจในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ส่วนตลาดอสังหาฯระดับบนยังไม่น่ากังวล

ส่วนแผนงานปีนี้ ริชี่ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 2,600 ล้านบาท โดยมี Backlog รวม 3,793 ล้านบาท ที่มียอดรอโอน 1,468 ล้านบาท จาก 6 โครงการ อยู่ระหว่างก่อสร้าง-ขายบางส่วน 2,325 ล้านบาท จาก 5 โครงการ และยังมีสต๊อกรวม 12,042 ล้านบาท เป็นสต๊อกพร้อมโอนราว 3,700 ล้านบาท จาก 6 โครงการ อยู่ระหว่างก่อสร้าง-ขายบางส่วน 8,332 ล้านบาท จาก 5 โครงการ

และมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 5 โครงการ รวมมูลค่า 8,980 ล้านบาท โดยเป็นคอนโดฯใหม่ 3 โครงการ ,โครงการ Senior Care ร่วมทุนกับบริษัทจากญี่ปุ่นเพื่อให้บริการดูแลผู้สูงอายุ และ New Project 1 โครงการ  โดยปีนี้ยังคงเน้นใช้แคมเปญกระตุ้นยอดขาย Marketing Online ควบคู่กับการทำตลาดต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนยอดขายอยู่ที่ราว 20% โดยเน้นจับกลุ่มลูกค้าชาวไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย และจีน ที่มีกำลังซื้อแต่ยังกังวลความเสี่ยงจากภาวะต่างๆ อย่างไรก็ดีริชี่ยังคงปรับตัวรองรับกระแสการปรับเปลี่ยนอยู่เสมอ ด้วยการพัฒนาบุคลากรที่สามารถรับลูกค้าชาวต่างชาติหลายภาษาได้อย่างครอบคลุม  เพื่อจับกลุ่มตลาดใหม่ในการติดต่อกับลูกค้าและปิดการขายให้รวดเร็วมากที่สุด