LH เปิดแผนปี 62 ชะลอเปิดคอนโดฯใหม่ หวั่นผลกระทบ ม.LTV – Supply ล้นตลาด

       นายนพร สุนทรจิตต์เจริญ ประธานกรรมการและประธานกรรมการบริหาร บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาฯปีนี้คาดว่าจะชะลอตัวกว่าปีก่อน จากหลายปัจจัยลบเข้ามากระทบ ทั้ง GDP ไทยในปี 62 ที่คาดว่าจะไม่เป็นไปตามเป้าที่คาดไว้ ซึ่งจะมีผลต่อกำลังซื้อของประชาชนรากหญ้า แม้รัฐบาลจะช่วยกระตุ้นแต่ก็จะไม่เป็นผลต่อกำลังซื้อเท่าที่ควร รวมถึงมาตรการควบคุมอัตราการปล่อยสินเชื่อต่อทรัพย์สิน (LTV) ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยในบังคับใช้เมษายนนี้ ซึ่งเชื่อว่าจะมีผลกระทบต่ออสังหาฯแนวสูง ซึ่งปัจจุบันยังมีSupply ในตลาดสูง เพราะในปีที่ผ่านมามีโครงการร่วมทุนกับต่างชาติจำนวนมาก

 

 

       ด้านแนวโน้มดอกเบี้ยคาดว่าจะปรับตัวขึ้นเล็กน้อย แต่ภาคธุรกิจออสังหาฯต้องจับตาความเสี่ยง เรื่องการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์มากขึ้น เพราะอยู่ในช่วงกำลังเปลี่ยนผ่านลักษณะการปล่อยสินเชื่อให้สอดคล้องกับความต้องการอย่างแท้จริง เห็นได้จากอัตราการปฏิเสธสินเชื่อช่วงไตรมาส 3-4/61 ที่กลุ่มลูกค้าราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท มีอัตราถูกปฏิเสธสินเชื่อราว 10-12% และลูกค้ากลุ่มต่างจังหวัด ถูกปฏิเสธสินเชื่อ 12-13%

       ดังนั้นในปี 62 ภาคธุรกิจอสังหาฯจำเป็นต้องปรับตัวรับสถานการณ์ ดูทิศทางตลาดให้ดี โดยแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ปีนี้ มีแผนธุรกิจเตรียมเปิด 16 มูลค่ารวม 29,960 ล้านบาท เป็นโครงการบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล  14  โครงการ และต่างจังหวัด  2  โครงการ ราคาตั้งแต่ 2.7-47 ล้านบาท ส่วนคอนโดฯ ปีนี้ยังไม่มีการเปิดตัวใหม่ แต่จะเน้นระบายสต๊อกโครงการเดิมไปก่อน เพื่อระวังความเสี่ยง และรอดูทิศทางตลาดอีกครั้ง ซึ่งระหว่างนี้ก็เตรียมขอ EIA และขออนุญาตก่อสร้างรอตลาดฟื้นตัวกลับมาอีกครั้ง  

 

 

        สำหรับปี 62 บริษัทได้เตรียมงบลงทุนประมาณ 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็น งบซื้อที่ดินพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อขายประมาณ 7,000 ล้านบาท และงบลงทุนอสังหาฯให้เช่า อีก 3,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย (Booking) รวม 33,000 ล้านบาท เป้ารับรู้รายได้ที่ 37,000 ล้านบาท เติบโต10% โดยมาจากธุรกิจเพื่อการขาย 32,000  ล้านบาท  ธุรกิจให้เช่า เช่น อพาร์ทเมนท์ โรงแรม ศูนย์การค้า อีก 5,000 ล้านบาท ซึ่งเติบโตราว 35%  ทั้งนี้สัดส่วนของยอดขาย ในปี 2562   แบ่งเป็น บ้านเดี่ยวและบ้านแฝด  72 % , ทาวน์เฮ้าส์  8 % , คอนโดมิเนียม   20 % นอกจากนี้ในปี 62  บริษัทยังมีแผนขายโรงแรมอีก1 แห่ง เข้ากองรีท และเตรียมจะออกหุ้นกู้อีก 12,000  ล้านบาท เพื่อนำมาชำระหนี้และขยายธุรกิจ