สำหรับปี 2019 นี้ ดูเหมือนว่าจะเป็นช่วงขาลงของอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะกับนักลงทุนระยะสั้นและตัวผู้พัฒนาโครงการเอง แต่สำหรับ Real Demand นั้น คาดว่าจะยังคงทรงตัว ในช่วงเวลาเริ่มต้นของปีแบบนี้ TerraBKK Research จึงอยากนำเสนอข้อมูล อสังหาริมทรัพย์ เหลือขายในตลาด ของปี 2019 นี้ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ

         ข้อมูล อสังหาริมทรัพย์เหลือขายในตลาดปี 2019 โดย ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) พบว่ามีจำนวน 139,500 หน่วย แบ่งออกเป็นแนวราบ (บ้านจัดสรร) 55.6% หรือจำนวน 77,544 หน่วย และ คอนโดมิเนียม 44.4% หรือจำนวน 61,955 หน่วย โดยระดับราคาที่เหลือขายมากที่สุดในตลาด คือช่วงราคา 2-3 ล้านบาท

ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบ

         ปี 2019 ที่อยู่อาศัยแนวราบ มีหน่วยเหลือขาย จำนวน 77,544 หน่วย โดยหากแบ่งออกเป็นตามทำเลที่มีหน่วยเหลือขายมากที่สุด (เฉพาะหน่วยเหลือขายครึ่งปีแรก 2018) มีบ้านจัดสรรเหลือขาย 74,976 หน่วย โดยทำเลที่มีหน่วยเหลือขายมากที่สุด ได้แก่

  1. ทำเลลำลูกกา, คลองหลวง, ธัญบุรี และ หนองเสือ โดยมีหน่วยเหลือขาย 13,346 หน่วย โดยประเภทอสังหาริมทรัพย์ฺที่เหลือขายมากที่สุดคือ ทาวน์เฮ้าส์ ระดับราคา 2-3 ล้านบาท
  2. บางใหญ่ บางบัวทอง บางกรวย ไทรน้อย โดยมีหน่วยเหลือขาย 11,367 หน่วย 13,346 หน่วย โดยประเภทอสังหาริมทรัพย์ฺที่เหลือขายมากที่สุดคือ ทาวน์เฮ้าส์ ระดับราคา 2-3 ล้านบาท
  3. บางพลี บางบ่อ บางเสาธง โดยมีหน่วยเหลือขาย9,327 หน่วย โดยประเภทอสังหาริมทรัพย์ฺที่เหลือขายมากที่สุดคือ ทาวน์เฮ้าส์ ระดับราคา 2-3 ล้านบาท
  4. เมืองสมุทรปราการ พระประแดง พระสมุทรเจดีย์ เหลือขาย 5,376 หน่วย โดยประเภทอสังหาริมทรัพย์ฺที่เหลือขายมากที่สุดคือ ทาวน์เฮ้าส์ ระดับราคา 5-3 ล้านบาท
  5. คลองสามวา มีนบุรี หนองจอก ลาดกระบัง เหลือขาย 4,704 หน่วย โดยประเภทอสังหาริมทรัพย์ฺที่เหลือขายมากที่สุดคือ ทาวน์เฮ้าส์ ระดับราคา 2-3 ล้านบาท

สำหรับทำเลที่ ที่อยู่อาศัยแนวราบขายดีมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ทำเลเมืองสมุทรสาคร, ทำเลบางพลี-บางบ่อ-บางเสาธง, ทำเลพุทธมณฑล-นครชัยศรี-สามพราน, ทำเลเมืองสมุทรปราการ-พระประแดง-พระสมุทรเจดีย์ และ ทำเลบางใหญ่-บางบัวทอง-บางกรวย-ไทรน้อย

ย้อนมอง ตลาดที่อยู่อาศัยแนวราบ ครึ่งปีแรก 2018

         สำหรับที่อยู่อาศัยแนวราบในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2018 นับว่ามีอัตราการขายที่ทรงตัว โดยที่อยู่อาศัยประเภท บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ มีการปรับตัวดีขึ้น แต่สำหรับบ้านแฝดและอาคารพาณิชย์ มีการปรับตัวลดลง จากช่วงเดียวกันในปี 2560 โดยมี อัตราการดูดซับ (Absorption Rate) ดังนี้

บ้านเดี่ยว - มีหน่วยขายได้ใหม่ จำนวน 5,809 หน่วย คิดเป็นอัตราดูดซับ 3.2% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปี 2018 ที่มีอัตราดูดซับ 3.0%

บ้านแฝด - มีหน่วยขายได้ใหม่ จำนวน 1,895 หน่วย คิดเป็นอัตราดูดซับ 3.2% ลดลงจากช่วงเดียวกันในปี 2018 ที่มีอัตราดูดซับ 4.1%

ทาวน์เฮ้าส์ - มีหน่วยขายได้ใหม่ จำนวน 12,020 หน่วย คิดเป็นอัตราดูดซับ 3.9% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปี 2018 ที่มีอัตราดูดซับ 3.6%

อาคารพาณิชย์ - มีหน่วยขายได้ใหม่ จำนวน 592 หน่วย คิดเป็นอัตราดูดซับ 3.1% ลดลงจากช่วงเดียวกันในปี 2018 ที่มีอัตราดูดซับ 3.8%

 

ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียม

         ปี 2019 ตลาดคอนโดมิเนียม มีจำนวน 253,899 ยูนิต โดยแบ่งเป็น ห้องขนาด 1 ห้องนอน 68.0% ห้องแบบสตูดิโอ 19.4% ห้องขนาด 2 ห้องนอน 11.8% และห้องขนาด 2-3 ห้องนอนขึ้นไป 0.8%

โดยหากแบ่งออกเป็นตามระดับราคา พบว่า 35.2% อยู่ในช่วงราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท, 29.5% ช่วงราคา 2-3 ล้านบาท 18.2% ช่วงราคา 3-5 ล้านบาท และ 17.1% ช่วงราคา มากกว่า 5 ล้านบาทขึ้นไป

สำหรับทำเลที่มีอาคารชุดเหลือขายมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่

  1. เมืองนนทบุรี ปากเกร็ด เหลือขาย 9,202 หน่วย ประเภทห้องชุดที่เหลือขายมากที่สุด คือ ขนาด 1 ห้องนอน ระดับราคา 2-3 ล้านบาท 
  2. เมืองสมุทรปราการ, พระประแดง, พระสมุทรเจดีย์ เหลือขาย 6,645 หน่วย ห้องชุดประเภท 1 ห้องนอน ระดับราคา 2-3 ล้านบาท เหลือขายมากที่สุด
  3. ห้วยขวาง, จตุจักร, ดินแดง เหลือขาย 6,493 หน่วย ห้องชุดประเภท 1 ห้องนอนระดับราคา 3-5 ล้านบาท เหลือขายมากที่สุด 
  4. ตลิ่งชัน, บางแค, ภาษีเจริญ, หนองแขม, ทวีวัฒนา เหลือขาย 4,954 หน่วย ห้องชุดประเภท 1 ห้องนอน ระดับราคา 2-3 ล้านบาท เหลือขายมากที่สุด
  5. ธนบุรี, คลองสาน, บางกอกน้อย, บางกอกใหญ่, บางพลัด เหลือขาย 4,617 หน่วย ประเภท 1 ห้องนอน ราคา 2-3 ล้านบาท เหลือขายมากที่สุด 

         ส่วน ทำเลที่คอนโดมิเนียมขายดีที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ทำเลสีลม-สาทร-บางรัก, ทำเลคลองสามวา-มีนบุรี-หนองจอก-ลาดกระบัง, ทำเลพระโขนง-บางนา-สวนหลวง-ประเวศ, ทำเลบางซื่อ-ดุสิต และ ทำเลบึงกุ่ม-คันนายาว-สะพานสูง ตามลำดับ