อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ เผย ตัวเลข 3 ไตรมาส กวาดรายได้ 7,258 ล้านบาท เติบโต 4.6% ประกาศผนึกพันธมิตร ดึงนวัตกรรมใหม่เสริมทัพ อัดแคมเปญใหญ่ ดันยอดปลายปี พร้อมทุ่มงบกว่า 165ล้านบาท พลิกโฉมใหม่ 6 สาขา

 

            นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์  กล่าวถึงภาพรวมตลาดเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านปีนี้ว่าเติบโตแบบทรงตัว  และเมื่อพิจารณาเฉพาะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่กรุงเทพฯ และในกลุ่มหัวเมืองใหญ่และจังหวัดท่องเที่ยวยังถือว่าอยู่ในทิศทางที่ดี ทั้งจากผู้ซื้อชาวไทยและชาวต่างชาติ คาดว่าจะมียอดขายประมาณ 480,000 ลบ. แบ่งเป็นบ้านแนวราบ46% และคอนโดมิเนียม 54% ขณะที่ยอดเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งปี ประมาณ 430,000-440,000 ลบ. ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา (ที่มาจาก www.area.co.thขณะที่ผู้ประกอบการธุรกิจเฟอร์นิเจอร์เองมีการแข่งขันที่ดุเดือด โดยพยายามงัดกลยุทธ์ด้านโปรโมชั่นตลอดจนกิจกรรมการตลาด เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงไตรมาสสุดท้าย ซึ่งคาดว่ามูลค่าตลาดรวมเฟอร์นิเจอร์ในประเทศ สิ้นปี 2561 ประมาณการอยู่ที่80,000 ลบ.

 

            สำหรับผลประกอบการของ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ ในช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.61) ที่ผ่านมา มียอดขาย 7,258 ลบ. เป็นการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (Same Store Sales Growth) อยู่ที่ 4.6% ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยปัจจุบันบริษัทฯมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 20%  ของตลาดรวมเฟอร์นิเจอร์ในประเทศ ขณะที่ยอดสมาชิกบัตร JOY CARD ของ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ มีจำนวนทั้งสิ้นกว่า1.1 ล้านราย

 

            “ทั้งหมดนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากการทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างเข้มข้นทั้งแคมเปญ ส่วนลด ตลอดจนโปรโมชั่นต่างๆ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา รวมถึงการเปิดสาขาใหม่ ได้แก่ สาขาบางกรวย-ไทรน้อย จ.นนทบุรี เมื่อสิงหาคมที่ผ่านมา ภายในเทสโก้ โลตัส ซึ่งสาขานี้นับเป็นแห่งที่ 4 ที่ร่วมกับเทสโก้ โลตัส  หลังจากเปิดที่ มหาชัย, นครสวรรค์ และแจ้งวัฒนะ ไปแล้ว ประกอบกับปัจจัยเรื่องความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่ง ในการเสริมศักยภาพทางธุรกิจ ทั้งสายบัตรเครดิต ธนาคารและสถาบันทางการเงินชั้นนำ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง เพื่อเข้ามาเป็นคู่ค้าในฐานะโฮสต์ใหญ่แต่ละแคมเปญทางการตลาด อันเป็นผลดีทั้งกับ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ และทางพันธมิตรเอง” ผู้บริหาร กล่าวและว่า

 

            บริษัทฯ ยังคงนโยบายมุ่งเน้นทำการตลาดเชิงรุกในประเทศชัดเจน นอกจากปีนี้จะเปิดสาขาใหม่แล้ว 1 สาขา ยังมีแผนรีโนเวทสาขา ประเดิมที่สาขาบางนา  และอีก 6 สาขา ต่อเนื่องในปีหน้า ได้แก่ สาขาราชพฤกษ์, สาขาเกษตร-นวมินทร์, สาขารังสิต, สาขาพัทยา, สาขาภูเก็ต และสาขาอุดรธานี  ทั้งนี้ ได้เริ่มต้นที่สาขาบางนา เพราะถือเป็นสาขาหนึ่งที่มีกำลังซื้อ ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายระดับกลางถึงสูง การปรับโฉมใหม่จึงได้เพิ่มการโฟกัสกลุ่มลูกค้าระดับสูงมากขึ้น มีการผลิตสินค้าลักชัวรี่ ที่มีดีไซน์สวย วัสดุพรีเมียม เน้นการใช้พื้นที่และฟังก์ชันการใช้งาน  ด้วยพื้นที่ที่ชัดเจน สวยงาม และสะดวกขึ้น นำร่อง 11 โซนดีไซน์ใหม่ ได้แก่ Trend Design, The Luxury Edition, Ital Smart, Ital Living, Natural Living,  Space Saving, Kitchen 4.0, Real House, Sofa Studio, Bedding Studio และท้ายสุดกับ Perfect Sleep  ที่แรกในไทย กับ OneStop Service รวมศาสตร์ความรู้ บริการ และนวัตกรรมสินค้าครบไลน์ทุกเรื่องการ

 

 

            ขณะเดียวกัน ในปี 2562 บริษัทมีแผนขยายสาขาเพิ่มอีก 4 แห่งทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ได้แก่ สาขาชัยพฤกษ์, สาขาจันทบุรี, สาขารามอินทรา และสาขาสุขาภิบาล 3 ขณะที่ในต่างประเทศเตรียมวางแผนเดินหน้าขยายสาขาผ่านแฟรนไชส์อีก 2 แห่ง ที่ประเทศอินโดนีเซีย ในเมืองจาการ์ตาร์ และ บาหลี ทั้งนี้ บริษัทฯ มองว่าศักยภาพของตลาดค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านในอินโดนีเซีย ยังมีอัตราการเติบโตในทิศทางที่ดี โดยปัจจัยสำคัญมาจากฐานประชากรขนาดใหญ่ และการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง รวมถึงรายได้ของประชากรและพฤติกรรมผู้บริโภค 

 

            สำหรับการขยายไปสู่ตลาดต่างประเทศของ อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ คาดว่าตลาดสามารถเติบโตได้ดี ผ่านรูปแบบแฟรนไชส์ให้แก่ผู้ประกอบการท้องถิ่น อีกทั้งมีการศึกษาตลาดต่างประเทศ ตลอดจนศักยภาพการเติบโตของตลาดที่อยู่อาศัยในประเทศนั้นๆ เพื่อลดอัตราเสี่ยงในด้านต่างๆ ทั้งนี้ กลุ่มประเทศที่ให้ความสนใจและมีศักยภาพค่อนข้างสูง ได้แก่ กลุ่มประเทศในอาเซียนนั่นเอง

 

            “เราพร้อมปรับตัวตามสถานการณ์ ไม่หยุดนิ่ง  โดยยึดของดีมีคุณภาพ ในราคาจับต้องได้ เราเชื่อว่าทิศทางปีหน้ายุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของไทย (ปี 2558- ปี2565)  โดยเฉพาะโครงข่ายพัฒนารถไฟฟ้าสายสีต่างๆ รวมถึงการจัดให้มีการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นต้นปี 2562 นี้  เป็นสัญญาณทางการตลาดที่ดี ทั้งเป็นปัจจัยหนุนตลาดเฟอร์นิเจอร์ และตลาดอสังหาฯ ให้เติบโตยิ่งขึ้น”  นางสาวกฤษชนก ปัทมสัตยาสนธิ กล่าวปิดท้าย

 

ขอบคุณข้อมูลจาก www.indexlivingmall.com