ใครก็ตามที่กำลังนั่งเศร้าหลังจากการประมวลผลงานรวมตลอดปี แล้วพบว่า ปี 2018 เป็นปีที่ล้มเหลว มากกว่าสำเร็จ จนเริ่มรู้สึกท้อแท้ หมดกำลังใจที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายที่รออยู่เบื้องหน้า ขอให้ลองเปิดใจให้กว้าง แล้วมองความล้มเหลวที่คุณเจอมานับไม่ครั้งไม่ถ้วนในมุมใหม่

         แทนที่จะคิดว่าเป็นวายร้าย หรือสิ่งที่น่ารังเกียจ แต่พลิกมุมมองใหม่ว่า ความล้มเหลว คือ สปริงบอร์ดที่จะพาคุณไปสู่ความสำเร็จที่ไกลกว่าเดิม แล้วคุณจะเข้าใจว่า ทำไมแม้แต่คนที่ประสบความสำเร็จของโลกมากมาย ถึงยกย่อง “ความล้มเหลว” เป็นคุณครูคนสำคัญชีวิต เหตุผลง่ายๆ ก็เพราะเบื้องหลังความโหดร้ายและน่ากลัวของคุณครูคนนี้มักฝากบทเรียนที่เหมือนเป็นวิชาตัวเบาให้นักเรียนทุกคนเสมอ

         1.ประสบการณ์ชีวิต ทันทีที่คุณเผชิญหน้ากับความล้มเหลว นั่นหมายความว่าคุณกำลังเทกคอร์สการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับชีวิต ทักษะที่จะทำให้คุณเข้าใจความเป็นจริงมากขึ้น แม้บางครั้งความล้มเหลวนั้นจะนำมาซึ่งความสูญเสียหรือเจ็บปวด แต่ก็ตอบแทนมาด้วยประสบการณ์ที่ต่อให้เงินมหาศาลหรือมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดแห่งไหนของโลกก็สอนให้ไมได้ ซึ่งประสบการณ์ที่ว่านี้อาจเปลี่ยนมุมมองความคิด หรือ การใช้ชีวิตของคุณไปตลอดกาล

         2.ให้ความรู้ โลกแห่งการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุดก็จริงๆ แต่เชื่อเถอะว่า หนึ่งในเคล็ดวิชาไปสู่ความสำเร็จที่คุณจะอุตสาหะขวนขวายมาใส่ตัวนั้น ไม่มีความรู้ไหนจะยูนีคจนแทนที่ความรู้ที่เกิดจากความล้มเหลวได้เด็ดขาด  ดูอย่างโทมัส อัลวา เอดิสัน ก่อนจะเป็นนักประดิษฐ์ชื่อก้องโลก เขาผ่านประสบการณ์ล้มเหลวมาถึงเกือบ 10,000 ครั้ง กว่าจะประดิษฐ์หลอดไฟได้สำเร็จ ซึ่งผลลัพธ์ที่เลอค่านี้ ตกผลึกจากการร้อยเรียงชุดความรู้ที่ได้จากความผิดพลาดนับครั้งไม่ถ้วนมาพัฒนา ปรับปรุง จนสำเร็จในที่สุด

         3.วิชาอดทน อีกหนึ่งกุญแจสำคัญของชีวิตสำหรับคนที่อยากประสบความสำเร็จในชีวิต ต้องล้มแล้วพร้อมลุก แน่นอนว่าไม่มีใครอยากหลงทางจนเผลอไปสู่ปลายทางแห่งความล้มเหลว แต่ชีวิตคนเราก็ไม่ได้เป็นดั่งที่หวังไว้เสมอไป บางครั้งหนทางที่คิดว่าใช่มาถูกทางแน่ๆ อาจเป็นทางตันที่ลวงให้เสียเวลาก็เป็นได้ ไม่สำคัญว่าทางที่คุณเดินอยู่จะเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่สำคัญกว่าเมื่อคุณจะกล้าที่จะเริ่มต้นก้าวแรกแล้ว คุณไม่กลัวที่จะลุกขึ้นใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า พร้อมบอกกับตัวเองว่าต่อให้มาผิดทาง ก็แค่จดจำและเรียนรู้กับความผิดพลาดนั้น จากนั้นก็แค่เปิดจีพีเอสหรือกางแผนที่เพื่อหาเส้นทางไปสู่จุดหมายใหม่ต่อไป  

         4.ฝึกความกล้า ทุกครั้งที่ผ่านพ้นเหตุการณ์หนักๆ ความผิดพลาด หรือ ความล้มเหลวมาแล้วมองย้อนกลับไป รู้สึกมั้ยว่า ราวกับคุณได้ข้ามผ่านประตูแห่งกาลเวลา ทำให้ตัวเองได้เติบโตและเป็นผู้ใหญ่ขึ้นไม่ต้องแปลกใจหากคุณรู้สึกเช่นนั้น เพราะความล้มเหลวก็ไมต่างจากติวเตอร์ที่สอนให้คุณเข้าใจชีวิตและความเป็นจริงของชีวิตที่ไม่ได้ลองสัมผัสด้วยตัวเองไม่มีวันเข้าใจ  

         5.เรียนรู้คุณค่าของชีวิต จะเรียกว่าเป็นบทเรียนสำคัญที่สุดที่ความล้มเหลวมอบให้ก็ไม่ผิด คุณค่าในที่นี้เป็นพื้นฐานไปสู่ความสำเร็จที่สำคัญ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเข้าใกล้ความสำเร็จมากเท่าไหร่ ความล้มเหลวจะเริ่มปรากฏตัวให้คุณเห็น ซึ่งยิ่งเป็นการเพิ่มโอกาสให้คุณได้เรียนรู้ จากการหาประโยชน์ หามุมมองที่จะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส เรียนรู้ว่าพลาดเพราะอะไร เพื่อจดจำและนำไปต่อยอดให้ได้นั่นเอง

         รู้แล้วว่าอะไรคือข้อดีของความล้มเหลว ที่เหลือก็แค่บอกตัวเองว่า “สู้ต่อไป” ทำใจยอมรับความล้มเหลวที่ต่อให้คนที่เก่งมาจากไหนก็ต้องเคยเจอให้ได้