อารีย์ ย่าน neighborhood เติมเต็มชีวิตสุนทรีย์


             ตลอดเส้นทางเดินรถไฟฟ้า BTS หากจะมองหาหนึ่งทำเลที่มีความน่าสนใจและลงตัวสมบูรณ์พร้อมในการดำเนินชีวิตคนเมืองสักแห่งในกรุงเทพ “อารีย์” น่าจะเป็นหนึ่งทำเลที่ใครหลายคนอาจนึกถึง จากเหตุที่ว่า ทำเลนี้มีปัจจัยพื้นฐานหลากหลายด้านมารองรับ อาทิ เป็นตั้งของอาคารสำนักงานขนาดใหญ่หลายแหล่ง สำนักงานปล่อยเช่ามากมาย เป็นทำเลที่มีร้านค้าร้านอาหารหลายแห่งล้วนนิยมชมชอบของคนกรุงเทพ ประกอบกับการเดินทางก็สะดวกสบายด้วยรถไฟฟ้า BTS ครั้งนี้ลองเจาะลึกทำเลนี้กันดูว่า “อารีย์” จะกลายเป็นย่าน neighborhood เติมเต็มชีวิตสุนทรีย์ หนึ่งทำเลรองรับชีวิตคนกรุงเทพ 24 ชั่วโมงได้จริงอย่างที่เกริ่นไปข้างต้นหรือไม่ รายละเอียดดังนี้

ชีวิตการทำงาน “อารีย์” แหล่งงานยังขยายตัวต่อเนื่อง

              เดิมที่ “อารีย์” เป็นที่ตั้งของหน่วยงานภาครัฐมากมาย ไม่ว่าจะเป็นองค์กรภาครัฐด้านการสื่อสาร , ด้านการดูแลทรัพยากร, ด้านเศรษฐกิจ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช), กรมทรัพยากรน้ำ, กระทรวงการคลัง, สำนักงานเขตพญาไท เป็นต้น ซึ่งตลอดเส้นทางริมถนนสายหลักอย่าง “ถนนพหลโยธิน” ยังสามารถพบแหล่งงานภาคเอกชนชั้นนำหลากหลายแห่ง อาทิ ธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่ สาขาสำนักพหลโยธิน , ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย, บริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, อาคาร ไอบีเอ็ม เป็นต้น

              ดูเหมือนว่าการพัฒนาที่ดิน “อารีย์” ยังไม่หยุดแต่เพียงเท่านี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการหลายเจ้าประกาศตัวจะพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส ด้วยเงินลงทุนระดับพันล้านบาท ซึ่ง “สำนักงานปล่อยเช่า” กลายเป็นหนึ่งองค์ประกอบหลักที่จะเกิดขึ้นในแต่ละโครงการ ทำให้แหล่งงานทำเล “อารีย์” ในอนาคตจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน บางโครงการเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างอาคารสำนักงานเกรด A ที่เปิดตัวในปี 2560 อาทิ Pearl Bangkok พื้นที่ใช้สอยกว่า 30,000 ตารางเมตร และ SC Tower พื้นที่ใช้สอยกว่า 25,520 ตารางเมตร เป็นต้น หรือจะเป็น Ari Hill โครงการมิกซ์ยูส ประกอบด้วย โรงแรม สำนักงาน ช็อปปิ้งมอลล์ พื้นที่อาคารรวม 43,000 ตารางเมตร เปิดตัวในปี 2561 นอกจากนี้ยังมี โครงการอนาคตที่ประกาศตัวพร้อมลงทุนมาตั้งแต่ปี 2558 นั้นคือ เดอะไรซ์ บาย ศรีศุภราช โครงการมิกซ์ยูส ประกอบด้วยโรงแรมและช็อปปิ้งมอลล์ งบลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท ยังคงต้องติดตามความคืบหน้ากันต่อไป


( 1. New Project ที่เกิดขึ้นในทำเลอารีย์ )

ชีวิตดี ทานอาหารอร่อย “อารีย” มีครบ


              กว่า 450 ร้านอาหารและคาเฟ่ กระจุกตัวกันอยู่ที่นี่ “อารีย์” หากจะกินวันละหนึ่งร้าน คงต้องใช้เวลากันเป็นปีกว่าจะครบทุกร้านเลยทีเดียว ความสนุกในการใช้ชีวิตในทำเลอารีย์ ไม่ได้หยุดเพียงแค่จำนวนร้านอาหารร้านคาเฟ่ชื่อดังที่มีให้เลือกมากมาย แต่เสน่ห์อย่างหนึ่งของที่นี่คือ คุณสามารถเดินเชื่อมต่อถึงกันได้ ระยะเพียง 100 เมตรจาก BTS อารีย์ ก็จะพบ ซอยพหลโยธิน 7 (อารีย์) ภายในซอยหลักนี้ยังมีซอยย่อยตั้งแต่ซอยอารีย์ 1-5 ให้คุณได้ลองเดินเล่นเพิ่มประสบการณ์ชิมอาหารอร่อย หากยังไม่อิ่มจนหนำใจ ซอยย่อยเหล่านั้นยังพาคุณไปสู่ ถนนพระรามที่ 6 ซอย 30 แหล่งร้านอาหารตลอดเส้นทางได้ด้วย

             นอกจากนี้ ในระยราว 1 กิโลเมตรจาก BTS อารีย์ ยังพบแหล่งรวมของอร่อยขึ้นชื่ออย่าง ถนนประดิพัทธ์ มีครบไม่ว่าจะเป็น ร้านริมทาง หรือ ร้านคาเฟ่เอาใจวัยรุ่นชาวกรุงเทพ ทั้งหมดนี้ อาจกล่าวได้ว่า นับเป็นโชคดีของคนที่อยู่อาศัยในทำเลอารีย์ เพราะนอกจากจะอยู่ในทำเลที่มีแหล่งงานหนาแน่นแล้ว แหล่งของอร่อยก็หนาแน่นไม่แพ้กันเลยจริง ๆ


( 2. แหล่งของอร่อย ทำเลอารีย์ )



10 นาทีจาก BTS อารีย์ ไป ช้อปปิ้ง ที่ไหนได้บ้าง ?


              “อารีย์” เป็นที่ตั้งของ La Villa Ari ศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์ แหล่งรวมร้านอาหารชั้นนำ, Lifestyle Café, ธนาคาร และ ร้านบริการอื่นๆ มากมาย รองรับความต้องการของผู้ที่อยู่อาศัย พนักงานออฟฟิต และผู้คนทั่วไปโดยรอบ

               หากถามว่า 10 นาทีจาก BTS อารีย์ สามารถไปช้อปปิ้งที่ไหนได้บ้าง? ผลการคำนวณระยะเวลาเดินรถปกติของรถไฟฟ้า BTS พบว่า ภายในระยะเวลา 10 นาทีจาก “สถานีอารีย์” สามารถเดินทางสู่ใจกลางกรุงเทพ “สถานีสยาม” เดินชอปปิ้ง สยามพารากอน ได้อย่างชิวๆ แน่นอนว่าตลอดเส้นทางรถไฟฟ้า BTS เคลื่อนผ่าน ล้วนเป็นแหล่งชอปปิ้งขนาดใหญ่ของกรุงเทพทั้งสิ้น อาทิ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ), The Platinum Fashion Mall (สถานีราชเทวี) เป็นต้น ขณะเดียวกัน หากต้องการเดินทางออกนอกเมือง เพียง 2 สถานี ก็ถึง “สถานีหมอชิต” เดินเล่นวันหยุดสุดสัปดาห์กันได้ที่ ตลาดนัดจตุจักร ตลาดนัดที่มีจำนวนแผงค้ากว่า 8,000 แผงค้า ไม่ว่าจะคนไทยหรือชาวต่างชาติ ต่างก็ชื่นชอบกันทั้งนั้น

              และด้วย “สถานีหมอชิต” สามารถเชื่อมต่อ “สถานีสวนจตุจักร” ของรถไฟฟ้า MRT เพียง 1 สถานี ก็จะพบศูนย์การค้าและช้อปปิ้งมอลล์ยักษ์ใหญ่ในย่านลาดพร้าวอย่าง เซ็นทรัลลาดพร้าว ยูเนี่ยนมอลล์ เป็นต้น

              นอกจากนี้ หากใครอยากยืดเส้นยืดสาย ลองมาออกกำลังกาย วิ่ง เดินเล่น กันที่ สวนรถไฟ ได้ทุกวัน อีกด้วย

( 3. แหล่งชอปปิ้งโดยรอบ ทำเลอารีย์ )

คอนโดมิเนียมอารีย์ Cap gain 5.5-9.5% ต่อปี Rental Yield 4.7-6% ต่อปี

              จากปัจจัยด้านแหล่งงานสำคัญของ “อารีย์” ที่กล่าวไปข้างต้น ย่อมตามมาซึ่งความต้องการด้านที่อยู่อาศัย และด้วยไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ “คอนโดมิเนียม” ดูจะเป็นประเภทที่อยู่อาศัยมาแรงที่สุด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลด้านความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต และระดับราคาที่คนวัยทำงานสามารถเอื้อมถึง

              ตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา พบว่า คอนโดมิเนียมโครงการใหม่ในทำเลอารีย์ มีระดับราคาพรีเซลปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตามความเจริญของพื้นที่ โดยระดับราคาพรีเซลเริ่มก้าวเข้าสู่หลักแสนบาทต่อตารางเมตรมาตั้งแต่ช่วงปี 2556 จวบจนปัจจุบัน คอนโดมิเนียมโครงการใหม่ มักมีระดับราคาพรีเซลเฉลี่ยราว 170,000-200,000 บาทต่อตารางเมตร เรียกได้ว่า ตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ระดับราคาพรีเซลคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ยราว 6.7%ต่อปี ด้านหน่วยเปิดขายปัจจุบันในทำเลนี้ มีอยู่ราว 4,078 หน่วย โดยจำนวนนี้ได้รวมหน่วยเปิดขายช่วง 3 ปีล่าสุดกว่า 704 หน่วย จากทั้งหมด 4 โครงการ ด้านกระแสตอบรับจากตลาดค่อนข้างดี ด้วยยอดขายโครงการเฉลี่ย 70% เลยทีเดียว


(4. ภาพรวมคอนโดมิเนียมอารีย์ )


              ด้านตลาดคอนโดมิเนียมมือสองอารีย์ พบว่า ราคาตลาดต่อตารางเมตร คอนโดมิเนียมอารีย์ เฉลี่ยราว 102,000 - 155,000 บาทต่อตารางเมตร สร้าง Cap gain เฉลี่ย 5.5% - 9.5%ต่อปี ถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว

 

              ขณะเดียวกัน คอนโดมิเนียมอารีย์ สามารถปล่อยเช่าสร้างรายได้ ด้วยอัตราค่าเช่ามากน้อยตามแต่ประเภทห้อง โดยประเภท studio ค่าเช่าเฉลี่ย 15,000-22,000 บาทต่อเดือน, ประเภท 1 ห้องนอน ค่าเช่าเฉลี่ย 21,000-30,000บาทต่อเดือน และ ประเภท 2 ห้องนอน ค่าเช่าเฉลี่ย 35,000-45,000 บาทต่อเดือน ภาพรวมคอนโดมิเนียมอารีย์ สร้าง Rental Yield เฉลี่ย 4.7-6%ต่อปี

 

              สำหรับ คอนโดมิเนียมโครงการใหม่ ที่มีการเปิดตัวใน ช่วง 1-2 ปี ที่ผ่านมา มีทั้งหมดราว 4 โครงการ ได้รับกระแสตอบรับจากผู้บริโภค สามารถปิดยอดขายโครงการเฉลี่ย 70% ถือว่าค่อนข้างดีเลยทีเดียว ส่วนใหญ่เป็นโครงการรระดับ Luxury จากผู้ประกอบการรายเล็กใหญ่ ทั้งโครงการ High Rise และ Low Rise รายละเอียดแต่ละโครงการ ดังนี้


( 5. คอนโดมิเนียมโครงการใหม่ ทำเลอารีย์ )
 


              สิ่งที่สังเกตเห็นได้ นั้นคือ ผู้ประกอบการต้องการนำเสนอ “จุดเด่นโครงการ” เพื่อสะท้อนถึงความมีระดับ Luxury ของโครงการนั้นๆ ซึ่งมีความน่าสนใจไม่น้อย อย่างโครงการ Suanbua Residence Ari 1- Rajakru ให้ความสำคัญด้านที่จอดรถ 100% เรียกได้ว่า ลูกบ้านทุกคนของที่นี่ไร้ปัญหาเรื่องการจอดรถอย่างแน่นอน สำหรับโครงการ Noble Around Ari เน้นความหรูหราของส่วนกลางแบบจัดเต็ม พร้อมระบบ Automatic Parking และระดับความสูงของเพดาน 2.70 เมตร และ 2.85 เมตร จึงไม่แปลกใจหากราคาเปิดตัวโครงการจะดีดสูงถึง 220,000 บาทต่อตารางเมตร ขณะที่ ผู้ประกอบการ The Urban Property เน้นจุดขาย Privacy ความเป็นส่วนตัวในการพักอาศัย จำนวนน้อยยูนิต และห้องพักขนาดใหญ่อย่าง Duplex พื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ซึ่งค่อนข้างหายากในทำเลนี้ และไม่สามารถพบได้อีกแล้วในโครงการอื่นช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันมี 2 โครงการ นั้นคือ Savvi Ari 4 ที่มีจำนวนห้องพักเพียง 39 ยูนิตทั้งโครงการ และโครงการใหม่ล่าสุดบนทำเลอารีย์ นั้นคือ โครงการ Savvi Phahol 2 ทราบมาว่า โครงการนี้ยังคงเน้นจุดเด่น Privacy ความเป็นส่วนตัวของลูกบ้าน พร้อมระบบ Security 3 ชั้น สัดส่วนที่จอดรถ 84% ด้วยระบบ Automatic parking ราคาเปิดตัว 4.3 MB คาดว่าการเปิดตัวโครงการอย่างเป็นทางการ ในเดือนธันวาคมปี 2561 นี้

              ทั้งหมดนี้ อาจกล่าวได้ว่า “อารีย์” กลายเป็นหนึ่งทำเลที่สามารถสะท้อนถึงกิจกรรมการดำเนินชีวิตของคนกรุงเทพได้จริงๆ แม้ว่า 1 ใน 3 ช่วงเวลาชีวิตแต่ละวันถูกใช้ไปกับการทำงาน แหล่งงานอารีย์ยังคงเติบโตไปอย่างต่อเนื่อง นั้นเองคือสาเหตุของความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ คอนโดมิเนียมจึงกลายเป็นตัวเลือกสำคัญของคนทำงานในพื้นที่ที่สามารถเอื้อมถึงได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการใช้ชีวิตด้านอื่นๆ เพราะเดินทางสะดวกได้ด้วยรถไฟฟ้า BTS และอารีย์เองก็มีความพร้อมด้วยร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ แหล่งช้อปปิ้งต่าง ๆ กลายเป็น neighborhood เติมเต็มชีวิตสุนทรีย์ ไม่ว่าจะเป็น ช่วงทำงาน ช่วงชิลล์ หรือ ช่วงพักผ่อน เรียกได้ว่ากลมกลืนอย่างไม่มีที่ติ ทั้งหมดเกิดขึ้นได้ที่ “อารีย์”