การใช้บัตรทอง 30 บาท รักษาทุกโรค มีข้อดีและข้อเสียอย่างไร?

บัตรทอง 30 บาท คือบัตรประกันสุขภาพที่ให้สิทธิประโยชน์หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าแก่ผู้ที่ถือบัตร ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลได้เป็นอย่างดี จึงได้รับการตอบรับจากผู้คนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะบุคคลที่มีฐานะระดับยากจนไปจนถึงปานกลาง แต่อย่างไรก็ตาม บัตรทองก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียเช่นกัน จึงควรทำความเข้าใจให้มากขึ้น เพื่อการใช้บัตรทองอย่างมีประสิทธิภาพและได้รับสิทธิประโยชน์มากที่สุดนั่นเอง

ข้อดีของการใช้บัตรทอง

สำหรับข้อดีของการใช้บัตรทองนั้นก็มีหลากหลายด้วยกัน แม้จ่ายเพียงแต่ 30 บาท แต่ก็ได้รับความคุ้มครองที่คุ้มค่าไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งข้อดีของการใช้บัตรทองก็มีดังนี้

1.รับบริการตรวจรักษาอย่างครอบคลุมทุกโรค

แค่ใช้บัตรทอง ก็สามารถตรวจและทำการรักษาได้อย่างครอบคลุมทุกโรค โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น รวมถึงการถอนฟัน อุดฟัน การทำฟันปลอมฐานพลาสติกหรือการใส่เพดานเทียม ในเด็กที่มีปัญหาปากแหว่งเพดานโหว่อีกด้วย ซึ่งสามารถใช้ได้กับโรงพยาบาลรัฐทั่วไป ดังนั้นหากใครที่กำลังสงสัยว่าตนเองกำลังป่วยเป็นโรคอะไรหรือไม่ หรือต้องการตรวจสุขภาพประจำปี แค่มีบัตรทอง 30 บาท ก็สามารถตรวจโรคได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

2.รับการผ่าตัดทุกโรคและการทำคลอด

บัตรทอง ให้สิทธิประโยชน์ในการผ่าตัดอย่างครอบคลุมทุกโรคและการทำคลอด ซึ่งให้สิทธิไม่เกิน 2 ครั้ง นอกจากนี้ยังรวมถึงการทำหมันและการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคต่างๆ อีกด้วย ดังนั้นหากจำเป็นต้องผ่าตัด สามารถใช้สิทธิ 30 บาท เพื่อการรักษาด้วยการผ่าตัดได้เลย

3.ให้สิทธิค่าห้อง ค่าอาหาร กรณีผู้ป่วยสามัญ

รับสิทธิประโยชน์สบายๆ เมื่อต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล ไม่ว่าจะเป็นค่าห้องหรือค่าอาหาร แต่มีข้อแม้ว่าต้องเป็นกรณีผู้ป่วยสามัญเท่านั้น ผู้ที่มีบัตรทอง จึงไม่ต้องกังวลกับการนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล เพราะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ในกรณีค่าห้องและค่าอาหารเพิ่มเติมนั่นเอง รู้แบบนี้แล้วอย่าพลาดที่จะใช้สิทธิเด็ดขาด

4.คุ้มครองดูแลสุขภาพเด็ก

ให้การคุ้มครองและดูแลสุขภาพเด็กตั้งแต่วัยแรกเกิด ซึ่งส่วนใหญ่หลังคลอดบุตรทางโรงพยาบาลจะทำบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรคให้ทันที และให้ความคุ้มครองอย่างครอบคลุมทุกโรค รวมถึงการบริการด้านการเสริมพัฒนาการของเด็กและภาวะโภชนาการด้วย หรือกล่าวง่ายๆ เลยก็คือ ให้การดูแลสุขภาพเด็กอย่างครบวงจรเลยนั่นเอง

5.บริการให้คำปรึกษา

รับบริการให้คำปรึกษา ทั้งเรื่องสุขภาพ และเรื่องอื่นๆ ทั่วไป รวมถึงการให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ เพื่อส่งเสริมให้ผู้คนมีสุขภาพดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

ข้อเสียของการใช้บัตรทอง

แม้ขึ้นชื่อว่าเป็นบัตรทอง 30 บาท รักษาทุกโรค แต่ก็มีบริการทางการแพทย์บางอย่างที่ไม่คุ้มครองเหมือนกัน ซึ่งก็มีข้อเสียของบัตรทอง ดังนี้

1.รักษาได้เฉพาะโรงพยาบาลรัฐ

บัตรทอง สามารถใช้รักษาได้เฉพาะกับโรงพยาบาลรัฐเท่านั้น ไม่สามารถใช้กับโรงพยาบาลเอกชนได้ ซึ่งก็อาจจะสร้างความลำบากให้กับผู้ที่อยู่ไกลจากโรงพยาบาลรัฐมากทีเดียว

2.ไม่คุ้มครองการรักษาที่เกินความจำเป็นพื้นฐาน

บัตรทองจะให้ความคุ้มครองการรักษาในกรณีที่อยู่ในระดับความจำเป็นพื้นฐานเท่านั้น หากเกินจากความจำเป็นพื้นฐานแล้ว จะไม่สามารถใช้บัตรทองเพื่อการรักษาได้ ซึ่งกลุ่มบริการที่ไม่ได้รับความคุ้มครองในกลุ่มนี้ คือ

  • การผสมเทียม เพื่อมีบุตร
  • การรักษากรณีที่มีบุตรยาก
  • การบริการทางการแพทย์เพื่อความสวยงาม เช่น ทำเลเซอร์รักษาสิว ทำศัลยกรรมความงาม เป็นต้น
  • การเปลี่ยนแปลงเพศ
  • การตรวจวินิจฉัย และการรักษาโรคบางอย่างที่เกินความจำเป็น
  • การทำการรักษาอาการป่วยหรือโรคบางอย่าง ที่อยู่ในระหว่างการค้นคว้าทดลอง

3.ไม่คุ้มครองการรักษาที่มีงบประมาณจัดสรรโดยเฉพาะ

บัตรทองจะไม่ให้ความคุ้มครองในการรักษาที่มีงบประมาณจัดสรรให้เป็นการเฉพาะอยู่แล้ว ซึ่งได้แก่

  • โรคจิต หรืออาการป่วยทางจิต ซึ่งทางการแพทย์จำเป็นต้องรับไว้เพื่อการรักษาและฟื้นฟูจิตใจของผู้ป่วย โดยให้เป็นผู้ป่วยในเกินกว่า 15 วัน ส่วนนี้จะมีงบประมาณที่จัดสรรไว้สำหรับผู้ป่วยอยู่แล้ว
  • การบำบัดผู้ติดยาเสพติด เป็นการบำบัดและรักษาอาการของผู้ติดยาเสพติด เพื่อฟื้นฟูให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้โดยไม่ต้องพึ่งยาเสพติด ซึ่งก็จะมีงบประมาณจัดสรรไว้ให้แล้วเหมือนกัน
  • ผู้ที่เกิดอุบัติเหตุทางรถ โดยมี พรบ. คุ้มครองอยู่ ซึ่งจะต้องใช้สิทธิ พรบ. ให้ครบก่อน จึงจะสามารถใช้สิทธิรักษา 30 บาทได้

4.ไม่คุ้มครองกรณีโรคเรื้อรัง

บัตรทอง จะไม่คุ้มครองในกรณีที่เป็นโรคเรื้อรัง และโรคที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นผู้ป่วยในเกินกว่า 180 วัน ยกเว้นหากมีความจำเป็นจริงๆ เช่นเกิดภาวะแทรกซ้อน จึงต้องรักษายาวนานขึ้น กรณีนี้อาจได้รับการรักษาโดยใช้สิทธิได้

จะเห็นได้ว่า บัตรทอง มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แม้จะเรียกว่าเป็นบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า ที่จ่ายแค่ 30 บาท ก็รักษาทุกโรค แต่ก็มีข้อจำกัดเหมือนกัน และที่สำคัญคือสามารถใช้รักษาได้เฉพาะกับโรงพยาบาลรัฐและศูนย์บริการเช่นอนามัย เท่านั้น จึงอาจทำให้ผู้ที่อยู่ไกลจากโรงพยาบาลรัฐใช้สิทธิได้ลำบากมากขึ้น แต่อย่างก็ตาม สิทธิประโยชน์ที่ได้รับก็ถือว่าอยู่ในระดับที่คุ้มค่ามากพอสมควรเช่นกัน

ขอบคุณข้อมูลจาก www.honestdocs.co