จะเกิดอะไรขึ้น? เมื่อจับแบรนด์อสังหาฯชนกับแบรนด์รถยนต์

          ถ้าพูดถึงชื่อ แบรนด์อสังหาริมทรัพย์ ที่ไม่ใช่ชื่อโครงการแล้ว เราจะนึกถึงเจ้าไหนกันบ้าง? แล้วคนทั่วไปรู้สึกกับแต่ละแบรนด์อย่างไร? คำถามนี้จึงจุดประเด็นให้ TerraBKK Research อยากจะหาคำตอบ เพื่อคลายความสงสัยให้ทั้งผู้อ่านและผู้ประกอบการทั้งหลาย เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาทาง TerraBKK Research ได้จัดทำแบบสอบถามออนไลน์เพื่อสอบถามผู้ใช้งานเว็ปไซต์ terrabkk.com สำรวจความคิดเห็นที่มีต่อแบรนด์อสังหาฯ 10 แบรนด์ ที่ถือเป็น Big Developers แถวหน้าของเมืองไทยในตอนนี้

          หนึ่งในประเด็นที่ TerraBKK Research ได้ถามไปในแบบสอบถามและคิดว่ามีประเด็นที่น่าสนใจอยากจะแชร์ข้อมูลให้ได้อ่านกัน หลายครั้งที่เราเห็นงานวิจัย แบรนด์อสังหาริมทรัพย์ พูดถึงแง่ของความรู้สึกและคุณภาพของบ้าน/คอนโดต่างๆ แต่ครั้งนี้ TerraBKK Research นำ แบรนด์อสังหาริมทรัพย์ ทั้ง 10 เจ้ามาเทียบกับแบรนด์รถยนต์ 10 แบรนด์ เพื่อดูว่า “ภาพลักษณ์ของแต่ละแบรนด์ เทียบได้กับรถยนต์ยี่ห้อใดบ้าง?” เพราะรถยนต์ เป็นสินค้าที่ทุกคนอยากมีไว้ครอบครองที่มีมูลค่าสูงเทียบเคียงอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งเป็นสินค้าที่สะท้อนตัวตนของผู้ครอบครอง ได้ครอบคลุมทุกฐานะระดับชั้นทางสังคม การนำมาเปรียบเทียบกับแบรนด์รถยนต์จึงอาจจะทำให้เราเห็นภาพอีกมุมที่ต่างออกไปจาก angle เดิมๆที่เราเคยวัด

          จากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 470 คน และมีผู้ตอบข้อนี้ 340 คน พบว่าผลที่ได้สามารถสะท้อนภาพลักษณ์ของ developer แต่ละเจ้าได้เป็นอย่างดี ตารางด้านล่างคือผลโหวต Brand Image ของแต่ละ Developer เมื่อเทียบกับแบรนด์รถ มาดูกันว่า “ใครเหมือนใคร เพราะอะไร?”

          TerraBKK Research ขอยก 3 เจ้าที่น่าสนใจคือ Land&Houses, SANSIRI และ Pruksa มาเทียบดูว่า ทำไมผลโหวตจึงให้ Land&Houses เหมือน Mercedes-Benz, SANSIRI เหมือน BMW และ Pruksa เหมือน TOYOTA … ?

          แต่ก่อนจะไปเข้าเนื้อหากันนั้น TerraBKK Research ขอปูเรื่องแบรนด์กันซักเล็กน้อย ว่าสิ่งที่จะประกอบเป็น Brand ขึ้นมาได้ ไม่ใช่แค่เพียงโลโก สโลแกน ภาพโฆษณาอันสวยหรู แต่หากพูดกันอย่างง่ายที่สุด Brand ก็คือ “สิ่งที่คุณทำ คุณสื่อสารออกไป และลูกค้ารู้สึกกับแบรนด์ของคุณอย่างไร” เมื่อทั้ง 2 อย่างมารวมกันได้อย่างพอเหมาะพอดี ก็คือ Brand นั่นเอง

Credit: http://www.studio-18.co.uk/brand-values

ดังนั้นผลโหวตของการจับคู่ระหว่าง แบรนด์อสังหาริมทรัพย์ และแบรนด์รถ ย่อมไม่ได้มาด้วยความบังเอิญแน่ๆ เรามาร่วมกันไขข้อสงสัยนี้ไปพร้อมๆกันค่ะ

Land&Houses VS Mercedes-Benz

       ถ้าพูดถึง Land&Houses แล้ว ภาพลักษณ์ที่คนทั่วไปส่วนใหญ่รู้สึกคือ ความเป็นผู้ใหญ่ ดูน่าเชื่อถือและไว้วางใจ ภาพและสโลแกนที่ Land&Houses สื่อออกมาก็ทำให้คนส่วนใหญ่คิดอย่างนั้นจริงๆ

          ด้วยสโลแกน “บ้านสร้างเสร็จก่อนขาย”, “Beyond Servicesรวมไปถึง Create Better Living ที่ทำให้เราสัมผัสได้ถึง “คุณภาพ” เป็นอันดับแรก จึงไม่แปลกใจหากพูดถึง Land&Houses ทุกคนจะนึกถึง “บ้านมีคุณภาพ” นอกจากนี้ภาพลักษณ์ของการสื่อสารของ Land&Houses มักจะมี Pattern ของความเป็นทางการแฝงอยู่ โทนสีมักจะแสดงถึงความเป็นผู้ใหญ่ที่น่าเชื่อถือ

          ทีนี้เรามาดูกันที่ด้านของ Mercedes-Benz กันบ้าง ว่าสิ่งที่ Mercedes-Benz สื่อออกมาคืออะไร?

          “The Best or Nothing” คือสโลแกนที่ Mercedes-Benz ใช้มาตั้งแต่ปี 2010 ที่หมายความว่า “ต้องดีที่สุด หรือไม่เช่นนั้นก็อย่าทำเลยจะดีกว่า” นี่ก็เป็นประโยคที่สะท้อนถึง “คุณภาพ” ได้เป็นอย่างดีเช่นกัน ทำให้เรารู้สึกได้ว่าหากได้ครอบครอง Mercedes-Benz สักคัน เราจะได้ “รถที่ดีที่สุด” แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในคุณภาพได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ภาพที่ Mercedes-Benz สื่อออกมาจะเป็นในลักษณะของความหรูหรา โทนสีที่ให้ความเป็นผู้ใหญ่

          เป็นอย่างไรกันบ้างคะ? รู้สึกถึงความเหมือนอะไรบ้างหรือยัง? ไปต่อกันที่คู่ถัดไปเลยดีกว่า

SANSIRI VS BMW

          เมื่อเอ่ยถึงชื่อ Sansiri หลายคนจะนึกถึงความทันสมัย โดดเด่นและมีสไตล์ เราไปดูภาพและสโลแกนที่ Sansiri สื่อออกมาว่าเป็นอย่างไร

          “Everyday Visionaries: The Evolution of next-generation living” คือประโยคที่ทำให้เราเห็นถึงอนาคต ความทันสมัย และการมีหัวคิดที่ก้าวไกลของ Sansiri นอกจากนี้ยังตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยด้วย 3 ด้านคือ SIRI LIVING, SIRI LIFETECH และ SIRI EXPERIENCE ทั้งหมดก็เพื่อ “เติมเต็มประสบการณ์การอยู่อาศัยให้ดียิ่งขึ้น” จะเห็นว่าการใช้คำ ภาพนำเสนอล้วนแสดงให้เห็นถึง “ความทันสมัยและการใช้ Technology เข้ามาช่วยในการอยู่อาศัย” นอกจากนี้โทนสีของภาพก็มักจะให้ความรู้สึกถึงความล้ำของคนรุ่นใหม่

          มาดูทางด้าน BMW กันบ้าง ว่าเหมือนหรือต่างกับ Sansiri อย่างไร?

          Sheer Driving Pleasureคือสโลแกนที่ BMW ใช้เพื่อสื่อถึงสุนทรียภาพในการขับขี่ แม้แต่สโลแกนก่อนหน้านี้อย่าง "Ultimate Driving Machine” ก็ยังคงหนีไม่พ้นเรื่องความสุดยอดในการขับขี่ สะท้อนให้เห็นถึงคนที่หลงใหลในสมรรถนะและชื่นชอบความเร็ว BMWจึงมีความโดดเด่นและชัดเจน เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากนี้ BMW ยังคงขึ้นชื่อด้านความทันสมัย สร้างคอนเซ็ปต์ใหม่ๆอยู่เสมอ ภาพลักษณ์ที่ BMW สื่อออกมา จึงมักจะเป็นภาพที่ดูทันสมัย มีความเป็นคนรุ่นใหม่ ค่อนข้างต่างจาก Mercedes-Benz ที่กล่าวไปข้างต้นอยู่พอสมควร

          ผ่านมา 2 คู่แล้ว น่าจะเห็นภาพอะไรชัดขึ้น ไปต่อที่คู่สุดท้ายกันเลย

PRUKSA VS TOYOTA

          สำหรับพฤกษาที่เพิ่งจะผ่านการ Rebrand เมื่อไม่นานมานี้ กับ logo ใหม่ สโลแกนใหม่ Pruksa ใส่ใจ ... เพื่อทั้งชีวิต” รวมถึงภาพลักษณ์ใหม่ที่เน้นเรื่อง “ความสุขของผู้ซื้อ” มากขึ้น ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาพฤกษามีภาพลักษณ์ที่ไม่ค่อยจะดีนักจากเสียงร้องเรียนของลูกค้า เมื่อต้นปีที่ผ่านมาพฤกษาตัดสินใจ Rebrand ทั้งองค์กรเพื่อสร้างความไว้วางใจจากผู้บริโภคอีกครั้ง จะเห็นได้ว่าทั้งสโลแกน ภาพที่สื่อออกมาต่างๆ เน้นให้เห็นภาพของ “ความสุข” เมื่อคุณได้เป็นลูกบ้านพฤกษา และการใช้ “พี่ตูน Bodyslam” มาเป็น Brand Endorser เพราะพี่ตูนมีตัวแทนของการใช้ชีวิตที่ใส่ใจและการทำเพื่อคนอื่น ถือว่าเป็นการร้อยเรียงเรื่องราวหรือ Storytelling ที่น่าสนใจทีเดียว

          เนื่องจากพฤกษาเพิ่งจะผ่านการ Rebrand มาได้ไม่กี่เดือน ต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะสื่อสารไปถึงลูกค้าและเป็นที่จดจำในฐานะ “Trust Brand” วันนี้ TerraBKK Research จึงนำมาเพียงภาพลักษณ์หลังการ Rebrand มาให้ชมกัน ซึ่งต้องดูกันต่อไปว่าภายใน 1-2 ปี จะเกิดการเปลี่ยนแปลงกับความรู้สึกของลูกค้ามากน้อยเพียงใด

          มาที่ด้านของ TOYOTA ที่ไม่รู้เป็นเรื่องบังเอิญหรืออย่างไร เพราะสโลแกนของ TOYOTA ก็เกี่ยวกับความสุขเช่นกันกับ Mobility of Happiness หรือ “ขับเคลื่อนความสุข” ที่แค่อ่านก็รู้สึกว่าถ้าเป็นลูกค้า TOYOTA จะต้องมีแต่ความสุข ภาพที่สื่อออกมาจาก TOYOTA จะต่างไปจาก 2 แบรนด์ข้างต้น ไม่มีความเงียบขรึมหรือความเป็นผู้ใหญ่ แต่ภาพลักษณ์ของ TOYOTA จะสื่อถึงรอยยิ้ม ความสนุก และความสุขของผู้ที่ได้ขับขี่รถยนต์ TOYOTA

          และมีอีกหนึ่งเรื่องบังเอิญคือทั้ง Pruksa และ TOYOTA ต่างก็เป็นอันดับ 1 ในเรื่องยอดขายของตลาดอสังหาฯและรถยนต์ และความหลากหลายของสินค้าที่มีตั้งแต่ระดับ Economy ไปจนถึงระดับ Luxury บนราคาที่สมเหตุสมผล จึงเป็นเรื่องที่คล้ายคลึงกันอีกประเด็นหนึ่งที่เราจะเห็นว่าคนทุกระดับสามารถเข้าถึง Products ของทั้ง 2 แบรนด์นี้ได้อย่างง่ายดาย

          เป็นยังไงกันบ้างคะกับ 3 คู่ แบรนด์อสังหาริมทรัพย์ กับแบรนด์รถ พอจะทำให้เราเห็นภาพ แบรนด์อสังหาริมทรัพย์ ได้ชัดขึ้นบ้างหรือยัง?

          แต่ถ้าถามว่า แล้วภาพรวมผลโหวตทั้งหมดเป็นอย่างไร? TerraBKK Research จึงทำเป็น Heat Map ขึ้นมาโดยแยกฝั่งเป็นแบรนด์รถญี่ปุ่นและแบรนด์รถยุโรป เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

          ตัวเลขที่น่าสนใจอีกเจ้าหนึ่งก็คือ Ananda Development ที่คนส่วนใหญ่มองว่า คล้าย Mini Cooper ที่ดูเหมือนว่าจะคล้ายกันในเรื่องความเก๋ไก๋ในรูปลักษณ์และความทันสมัย ดูเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีสไตล์

          จะเห็นว่า SC ASSET ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าจับตา เพราะเป็นแบรนด์เดียวที่ผู้ตอบแบบสอบถามรู้สึกว่ามีภาพลักษณ์ที่ใกล้เคียงกับ Land&Houses และ Sansiri แถมเป็นเพียงแบรนด์เดียวที่คนส่วนใหญ่รู้สึกว่าคล้าย Rolls-Royce (มากกว่า Land&Houses กับ Sansiri เสียด้วยซ้ำ) อันเป็นแบรนด์รถยนต์ยี่ห้อดังของเหล่ามหาเศรษฐี

          เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับผลโหวตของ แบรนด์อสังหาริมทรัพย์ และแบรนด์รถยนต์ ตรงใจใครกันบ้างหรือเปล่า? ซึ่ง TerraBKK Research เองก็แอบสังเกตุเห็นว่ามีความคล้ายกันอยู่ไม่ใช่น้อยเลย อย่างน้อยๆเราก็ได้เห็นภาพลักษณ์ของ  Developer ในอีกมุมหนึ่ง และในตอนหน้า TerraBKK Research จะนำผลวิจัยในหัวข้ออื่นที่น่าสนใจมาเล่าสู่กันฟังอีก แต่จะเป็นหัวข้อใดนั้น รอติดตามกันในสัปดาห์หน้ากันได้เลยค่ะ