อาชีพบล็อกเกอร์ กลายเป็นอาชีพป็อบๆ ที่ใครๆ ก็อยากทำ  หลายคนออกสตาร์ทจากแพสชั่นที่อยากจะบอกเล่าเรื่องราวที่ชอบหรือสนใจ ขณะที่บางคนเลือกใช้แพลตฟอร์มนี้เป็นเวทีสร้างชื่อ หารายได้เข้ากระเป๋า

          ไม่สำคัญว่าจุดเริ่มต้นหรือเป้าหมายการเป็นบล็อกเกอร์ของคุณอยู่ตรงไหน

          ลองไปดู 6 เคล็ดลับที่จะเป็นสปริงบอร์ดให้บล็อกเกอร์มือใหม่ข้ามผ่านจากบล็อกแป็กๆ  กลายเป็นบล็อกป็อบๆ

         1.เตรียมตัวก่อนเขียน คุยกับตัวเองให้เคลียร์ก่อนว่า งานเขียนไม่ใช่งานที่แค่เคาะนิ้วลงบนแป้น ก็ถ่ายทอดทุกอย่างในหัวได้ดั่งใจ แต่เป็นงานที่ต้องอาศัยความอดทนและการเตรียมพร้อมก่อนจะลงมือสร้างสรรค์ผลงานเขียนที่เป็นมาสเตอร์พีซสักชิ้น เพราะหากคุณไม่ใช่บล็อกเกอร์เชิงปริมาณที่ผลิตผลงานแมสเหมือนโรงงานยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม แต่ต้องการงานคราฟต์ที่ประณีต เหนือกาลเวลา ต้องอาศัยการวางเค้าโครงเรื่องอย่างเป็นระบบ เพื่อให้กระบวนการรวบรวมข้อมูล และเรียงร้อยถ้อยคำออกมาเป็นเรื่องราวที่อ่านเพลิน น่าติดตามจนไม่อยากคลิกปิด

         2.อย่าปล่อยให้ไอเดียดีๆ ผ่านไป หลายครั้งที่ไอเดียดีๆ มักเกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว คุณอาจไม่ต้องนั่งจ้องคอม เพื่อรอดักไอเดียดีๆ ที่จะผ่านมาในหัว แต่ควรมีตัวช่วยที่ช่วยรวบรวมไอเดียเจ๋งๆ ที่แวะเวียนเข้ามาไว้ข้างกาย อย่างที่บอกว่างานเขียนถือเป็นงานคราฟต์อย่างหนึ่ง ถ้าจะปั้นบล็อกให้ปัง ต้องปล่อยหมัดฮุกให้โดนใจคนอ่าน เขียนเรื่องที่คนอ่านซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายสนใจไม่ใช่คนเขียนสนใจ สำรวจให้รู้ว่าอะไรคือ ช่องว่างที่ขาดหายไปในใจคนอ่าน แล้วเติมเต็มสิ่งนั้น

          3.สร้างพลวัตให้เกิดขึ้น ใครที่อยู่ในแวดวง Digital Marketing คงเคยได้ยินคำว่า Call-to-Action ( CTA) ความสำคัญของ CTA หมายถึงปุ่ม,ป้ายแบนเนอร์,กราฟิก หรือตัวอักษรใดก็ได้ที่อยู่บนเว็บไซต์ที่พร้อมจะให้ผู้ใช้คลิก แล้วพาผู้ใช้ไปสู่หน้าเว็บไซต์อีกหน้าที่นักการตลาดมุ่งหวังว่าอยากจะให้ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์เข้าไปดู เพื่อที่จะวัดผลว่ามีจำนวนคนคลิกไปทั้งหมดกี่ครั้ง ตัวอย่างของ CTA มีทั้ง Sign Up (สมัคร) Read More on The Blog (อ่านต่อในบล็อก) Download the App (ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น) เป็นต้น ซึ่งสำหรับบล็อกเกอร์ทั้งหลาย CTA ถือว่าเป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ต้องมี เพื่อเป็นการบอกใบ้ให้คนอ่านรู้ว่าคุณต้องการนำพาเขาไปสู่อะไร โดยเลือกใช้งาน CTA ให้ตรงจุด เพื่อให้ผู้ใช้งานตอบสนองในสิ่งที่คุณคาดหวังได้อย่างตรงจุด

          4.อย่ามองข้าม eMail List Building  อีกหนึ่งเครื่องมือที่บล็อกเกอร์ต้องทำความสนิทสนมคือ eMail List Building  อธิบายง่ายๆ คือ การให้ผู้อ่านในบล็อกสมัครรับข่าวสารทางอีเมล์ที่เรียกว่า Newsletter ทางอีเมลนั่นเอง ข้อดีของการสร้างฐานแฟนกลุ่มนี้ คือ เป็นกลุ่มคุณภาพที่ตัดสินใจแล้วว่า เนื้อหาในบล็อกของคุณมีประโยชน์ และเขารู้สึกสนใจที่จะรับรู้ข่าวสาร ไม่ใช่แค่การสไลด์ฟีดผ่านตาเฉยๆ เวลาที่บล็อกของคุณไปโชว์ตามช่องทางออนไลน์ต่างๆ

          5.แชร์อย่าให้ขาด ต่อให้บทความที่เขียนออกมาจะเลอค่าแค่ไหนก็คงไม่มีประโยชน์ ถ้าไม่มีใครคลิกเข้ามาเชยชม วิธีง่ายๆ ที่จะทำให้บล็อกของคุณมีโอกาสพิชิตใจคนอ่านมากขึ้นคือ การแชร์ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ อย่างน้อย 2-3 ช่องทาง ไม่ต้องไปกลัวว่าคนอ่านจะเอียน เพราะแต่ละช่องทางก็มีแฟนประจำที่ต่างกัน

          6.สร้างเสน่ห์ให้บล็อก ต่อให้โลกจะก้าวไปข้างหน้าแค่ไหน แต่สุดท้ายมนุษย์ก็ยังเป็นสัตว์สังคมที่ต้องการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันไม่ใช่การสื่อสารกับเอไอ เพราะฉะนั้นหนึ่งในเสน่ห์ที่จะทำให้บล็อกของคุณเป็นที่ประทับใจคือ ใช้ความเป็นมนุษย์โลกที่มีเลือดเนื้อจิตใจให้เป็นประโยชน์ สร้างสัมพันธ์กับแฟนๆผ่านการตอบคอมเมนต์ แชร์เรื่องราวของคุณผ่านโซเชียลมีเดียส่วนตัว เพื่อเผยตัวตนโชว์ให้เห็นไลฟ์สไตล์ของคุณ