การใช้ชีวิตในยุคปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้เลยจริงๆ ค่ะ ว่าบัตรเครดิตได้กลายเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ใช่แค่ต้องมีกันทุกบ้าน แต่ต้องมีกันแทบทุกคน เพราะบัตรเครดิตเป็นสิ่งที่อำนวยความสะดวกให้กับเรา ให้เราไม่ต้องหอบเงินจำนวนมากๆ ออกจากบ้านตลอดเวลา

และที่ยิ่งไปกว่านั้น คือ ในเรื่องของโปรโมชั่น การสะสมคะแนนต่างๆ ของบัตรเครดิตก็ทำให้การใช้ชีวิตของเรานั้นคุ้มค่ามากกว่าเงินสดเสียอีก แม้แต่ Myfinance ก็ใช้โปรบัตรเครดิตดูหนัง ทานข้าว หรือท่องเที่ยว กันเป็นเรื่องธรรมดา

แต่หนึ่งในคำถามที่กูรูหลายท่านมักจะโดนสอบถามบ่อยๆ และเป็นคำถามที่คนเพิ่งจะมีบัตรเครดิตประเภทต่างๆ ครั้งแรกมักจะสงสัย แต่ไม่กล้าถามคนรอบข้างก็คือ รหัส CVV คืออะไร มีไว้ทำไม อยู่ตรงไหน แล้วต่างกับCVC อย่างไร วันนี้ Myfinance จะมาคลี่คลายคำถามนี้ให้กระจ่างชัดกันไปเลยค่ะ

บัตรเครดิต

รหัส CVV คืออะไร ?

คำว่า CVV เป็นคำที่ย่อมาจากคำว่า Card Verification Value ซึ่งก็คือ ตัวเลขหรือรหัสที่ใช้ในการยืนยันความเป็นเจ้าของ ของบัตรเครดิตใบนั้นต่อร้านค้า นั่นเองค่ะ และยังเป็นการป้องกันไม่ให้เราถูกโจรกรรมข้อมูล หรือถูกนำบัตรของเราไปใช้จ่ายได้ง่ายอีกด้วยนะ

โดยรหัสนี้เราจำเป็นต้องใช้ในการซื้อหรือจ่ายเงินทำธุรกรรมออนไลน์ต่างๆ แต่ขอเตือนนิดนึงว่ารหัสดังกล่าวไม่ใช่รหัส PIN (Personal Identification Number) ที่เราใช้ในการกดถอนเงินจากตู้ ATM นะคะ เดี๋ยวจะเข้าใจผิดไปใส่รหัส PIN แทน แบบนี้ทำธุรกรรมออนไลน์ไม่ผ่านแน่นอนค่ะ 

และอีกคำที่มักจะทำให้สับสนกันบ่อย ก็คือ CVC (Card Verification Code) ที่มักจะทำให้สับสนว่า CVV กับCVC ต่างกันยังไง คำตอบก็คือ แทบไม่ต่างกันเลยค่ะ CVC ก็เหมือนกับ CVV นั่นแหละ เพียงแต่ว่า CVV จะเป็นรหัสของบัตรเครดิตวีซ่า แต่ CVC จะเป็นรหัสบัตรเครดิตของมาสเตอร์การ์ด แต่จุดประสงค์ก็ใช้เหมือนกันเลย

นอกจากนี้แล้วยังมีรหัสที่เรียกกันว่า CVV2 อีกด้วย ซึ่งจริงๆ แล้วก็จุดประสงค์เหมือนเดิม เพียงแต่ว่าขั้นตอนการสร้างตัวเลขเหล่านี้ขึ้นมานั้นจะทำให้ได้ตัวเลขที่คาดเดาสุ่มได้ยากขึ้น นำมาสู่ความปลอดภัยที่สูงขึ้นนั่นเองค่ะ

เมื่อเพื่อนๆ ทราบแล้วว่ารหัส CVVคืออะไร อาจจะถามต่อว่า โอเคแล้ว รหัส CVC Code อยู่ตรงไหน ? รหัส CVVสามารถหาได้จากด้านหลังของตัวการ์ดบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตของเรา  

ซึ่งปกติแล้วถ้าใช้บัตรเครดิตของ VISA หรือ Master Card จะมีด้วยกัน 3 ตัวเลข อาจเป็น 3 ตัวเลขขวาสุดที่แยกออกมาจากกลุ่มตัวเลขอื่นๆ อย่างชัดเจน แต่ถ้าใช้บัตรของ American Express ตัวเลขก็จะเพิ่มเป็น 4 ตัวค่ะ เวลาจะใช้จ่ายออนไลน์ ก็ให้ใส่ตัวเลขดังกล่าวลงไปในช่อง CVV ในเว็บไซต์หรือแอปนั้นๆ ได้เลย

รหัส cvv

รหัส CVV แชร์ให้คนอื่นรู้ได้ไหม ?

เคยมีเพื่อนที่ถ่ายบัตรเครดิตตัวเองลง Facebook แล้วโดนนำไปใช้จ่ายออนไลน์เป็นเงินจำนวนมาก ค่าใช้จ่ายตามมาเต็มไปหมดทั้งๆ ที่เขาไม่ได้เป็นคนซื้อ ดังนั้นรหัส CVVจึงเป็นเหมือนด่านประการอีกด่านที่ช่วยป้องกันการถูกโจรกรรมข้อมูลออนไลน์ของเราได้

ซึ่งแน่นอนว่า เราไม่ควรที่จะแชร์ หรือบอกรหัส CVV ของบัตรเครดิตให้ใครรู้เด็ดขาด !

และถ้าเป็นไปได้ไม่ควรถ่ายรูป หรือบอกตัวเลขบนบัตรเครดิตให้ใครเลย เช่นเดียวกันกับรหัส PIN ที่เราใช้กับบัตรเครดิต อย่างน้อยก็คิดซะว่ากันไว้ดีกว่าต้องมานั่งแก้ปัญหาในภายหลังนะคะ

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันจะทำให้การใช้ชีวิตของเราสะดวกสบายและปลอดภัยมากขึ้น แต่เราก็ต้องไม่ลืมที่จะรู้จักป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวเอง ยิ่งเป็นเรื่องเงินๆ ทองๆ ยิ่งต้องใส่ใจเป็นพิเศษ

ซึ่งหากคุณนำเทคนิคหรือคำถามดีๆ เหล่านี้ไปปรับใช้กับตัวเอง Myfinance คิดว่าจะเป็นเกราะป้องกันตัวเองให้กับเพื่อนๆ ได้ในระดับหนึ่งเลยล่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก rabbitfinance.com