ในยุคที่เทรนด์ตลาดงานเปลี่ยนไป ทุกองค์กรไม่จำกัดกรอบในการมองหาทรัพยากรคุณภาพที่มีทาเลนต์มาแสดงฝีไม้ลายมือ โลกอนาคตจึงถือเป็นยุคทองของฟรีแลนซ์ก็ว่าได้ ขอแค่มั่นใจว่าเป็นมีของ ไม่ต้องกลัวว่างานจะไม่วิ่งเข้าหา

          อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางตลาดฟรีแลนซ์ที่มีการแข่งขันสูงขึ้นจากดีมานด์ของตลาดงาน ถ้าไม่อยากเป็นฟรีแลนซ์ที่โลกลืม แต่อยากอัพเลเวลเป็นฟรีแลนซ์เนื้อหอมที่ใครๆ ก็อยากคว้าตัวมาร่วมงาน เตรียมพร้อมรับมือกับ 3 เทรนด์ใหม่ที่จะมาแรงนี้ให้ดี...

          1.โลกอนาคตจะเป็นฮับของฟรีแลนซ์ จากผลการวิจัยตลาดฟรีแลนซ์ของอังกฤษ โดย PeoplePerHour พบว่า 67% ของธุรกิจในอังกฤษจะหันมาใช้ฟรีแลนซ์จากอังกฤษและยุโรปมากขึ้น โดยจะให้รับงานไปทำเป็นโปรเจกต์ เพื่อให้องค์กรมีความยืดหยุ่นในการทำงาน และจ้างพนักงานประจำในบางตำแหน่งที่จำเป็น เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการดูแลพนักงานประจำ และสวัสดิการต่างๆ นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มว่าภายในปี 2027 แรงงานส่วนใหญ่ในตลาดจะพลิกโฉมไปสู่การใช้พนักงานฟรีแลนซ์ แทนที่พนักงานประจำแบบเดิมๆ

            2.บล็อกเชน จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตฟรีแลนซ์ ต้องเข้าใจก่อนว่า บล็อกเชน (Blockchain) ไม่ได้จำกัดกรอบอยู่เฉพาะฟินเทค หรือ สกุลเงินบิทคอยน์ แต่เป็นหนึ่งในรูปแบบการเก็บข้อมูลที่ทำให้ข้อมูล Digital transaction ของแต่ละคนสามารถแชร์ไปยังทุกๆ คนได้ เป็นเสมือนห่วงโซ่ โดยที่ยังรู้ว่าใครที่เป็นเจ้าของและมีสิทธิในข้อมูลนั้นจริงๆ  

          จุดแข็งของบล็อกเชนนี้เองก่อให้เกิด Smart Contract หรือ สัญญาอัจฉริยะขึ้น ซึ่งเป็นการนำข้อตกลงต่างๆ ฝังไว้ในโค้ดคอมพิวเตอร์ และโค้ดนั้นจะจัดการตามข้อตกลงโดยอัตโนมัติเมื่อเกิดเหตุการณ์ตามเงื่อนไขในสัญญา เปรียบเทียบการทำงานของ Smart Contract ให้เห็นภาพตามง่ายๆว่า เหมือนตู้กดน้ำ เราใส่เงินไปจำนวนหนึ่งที่เพียงพอกับราคาของน้ำที่เราจะต้องการจะซื้อ ตู้กดน้ำก็จะปล่อยเครื่องดื่มนั้นออกมาให้เรา ถ้าเงินนั้นเกิน ก็ทอนกลับมาให้เรา หรือถ้าเราใส่เงินยังไม่พอ ตู้น้ำก็จะยังไม่ให้สินค้ากับเรา และเรายังเลือกที่จะขอเงินคืนได้โดยการกดปุ่ม

          ข้อดีของ Smart contracts คือ ช่วยให้ฟรีแลนซ์ไม่ต้องปวดหัวกับปัญหาเรื่องการทำธุรกรรมหรือสัญญาต่างๆ พอกันทีกับปัญหาส่งงานแล้ว แต่ค่าเหนื่อยไม่ตามมา เพราะด้วย Smart Contracts เมื่องานเสร็จระบบจะทำการเก็บเงินโดยอัตโนมัติ ที่สำคัญ กระบวนการทำงานทุกอย่างจะถูกบันทึกไว้อย่างเป็นระบบ เพราะฉะนั้นฟรีแลนซ์ที่อยากทำงานแบบมือโปร และ โลดแล่นในโลกอนาคตรีบทำการบ้านเรื่องบล็อกเชนด่วน

            3.เกมเปลี่ยน ฟรีแลนซ์ต้องพร้อมทำงานแบบไร้พรมแดน โลกใบเดิมถูกย่อให้เล็กลง องค์กรยุคใหม่ไม่ได้ถูกจำกัดโดยลักษณะทางภูมิประเทศ แต่ทำงานแบบไร้พรมแดน สามารถสร้างเครือข่าย ดึงฟรีแลนซ์เก่งๆ มาร่วมทีมได้ โดยไม่เกี่ยงโลเคชั่นอีกอีกต่อไป เพราะฉะนั้น ฟรีแลนซ์ยุคใหม่ต้องพร้อมทำงานจากที่ไหนก็ได้ที่พร้อมก่อให้เกิดประสิทธิผลต่อการทำงานที่สูงสุด โดยใช้เทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ให้ประชุมงานกับคนที่อยู่กันคนละซีกโลกได้ราวกับนั่งประชุมอยู่ในห้องเดียวกัน  

            4.ฟรีแลนซ์ยุคใหม่ทำงานแบบฉลาด ไม่ใช่ทำงานหนัก ใครที่ยังติดภาพฟรีแลนซ์ที่ทำงานถวายชีวิตจากภาพยนตร์เรื่องดัง “ฟรีแลนซ์ ห้ามป่วย ห้ามพัก ห้ามรักหมอ” เห็นทีต้องเปลี่ยนมายด์เซ็ทใหม่ เพราะฟรีแลนซ์ยุคใหม่ก็ไม่ต่างจากมนุษย์เงินเดือนที่ต้องการมีชีวิตที่สมดุล ทั้งทำงานและได้ใช้ชีวิตไปพร้อมกัน โดยอาศัยเทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวช่วยในการจัดระเบียบการทำงานให้เข้าที่เข้าทาง วันหยุดอาจเลือกเปิดรับเฉพาะสายสำคัญหรืออีเมลสำคัญเท่านั้น เป็นต้น  

ขอบคุณที่มา www.forbes.com, https://medium.com และhttp://tfk.desinian.co.uk