6 วิธี บริหารสมอง ให้ฟิตราวกับ เข้ายิม

         ใครที่ยังสงวนท่าที มัวแต่ “รักนะแต่ไม่แสดงออก” กับ “สมอง” ถึงเวลาเปลี่ยนพฤติกรรมได้แล้ว เพราะสมัยยังหนุ่มสาวสมองอาจไม่แสดงความอ่อนแอออกมาให้เห็น จะมีบ้างก็แค่รู้สึกล้าบ้างบางคราว จนทำให้หลายคนมองข้าม ทั้งที่จริงๆแล้วสมองก็ต้องการการดูแลไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าอวัยวะส่วนอื่นๆ ของร่างกาย เพราะสมอง ก็เหมือนกับรถยนต์ ถ้าไม่บำรุงรักษา นานวันก็มีแต่ผุพัง ไม่วิ่งฉิ่วเหมือนวันที่เป็นป้ายแดง  

         ไม่สำคัญว่า วันนี้คุณจะใช้งานสมองมานานแค่ไหน เพราะไม่มีคำว่าสายสำหรับเริ่มต้น ไม่ต้องรอพรุ่งนี้ หรือ เดือนหน้า เพราะคุณสามารถเริ่มต้นดูแลสมองได้ตั้งแต่วินาทีนี้ ด้วย 6 วิธีแสนง่ายๆ ที่ค้นพบแล้วว่าคนเมืองเวลาน้อยทำได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาและเงินทองพาสมองไปเข้ายิม

         1.แอโรบิกสมอง หนึ่งในวิธีการออกกำลังกายสมองที่คุ้นหูกันเป็นอย่างดีเรียกว่า “Neurobic exercise” คล้ายๆ กับแอโรบิกที่เราคุ้นเคย เพียงแต่ไม่ต้องลุกขึ้นมาเปิดเพลง ออกสเต็ป แค่หาโอกาสให้สมองได้ยืดเส้นยืดสาย ก็ช่วยเพิ่มจำนวนแขนง/เส้นใยของเซลล์ประสาทในสมองได้แล้ว ใครยังไม่มีไอเดียลองเริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการเปลี่ยนแปลงชีวิตประจำวันบางอย่าง เริ่มจากเรื่องใกล้ตัว เช่น การสลับตารางชีวิตที่คุ้นเคย การเปลี่ยนที่นั่งบนโต๊ะอาหาร เพราะเมื่อเปลี่ยนตำแหน่ง คนที่นั่งข้างเราก็เปลี่ยน ภาพที่มองเห็นในห้องก็เปลี่ยน หรือแม้กระทั่งการเอื้อมไปหยิบเครื่องปรุงก็เปลี่ยน สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้สมองเกิดการตื่นตัวและเรียนรู้

         2.ลองใช้มือข้างที่ไม่ถนัดแปรงฟัน วิธีนี้อาจฟังดูแปลกแต่ได้ผลจริง เพราะมีงานวิจัยที่ศึกษาและพบว่า การใช้มือที่ไม่ถนัดลองทำกิจกรรมที่ต่อให้เราคุ้นเคยเป็นอย่างดี อย่างการแปรงฟัน ซึ่งต้องทำเช้า-เย็น เป็นการเปิดโอกาสให้สมองอีกฝั่งที่ไม่ค่อยถูกใช้งานได้ทำงาน และยังเป็นการฝึกสมองส่วนควบคุมและการประมวลข้อมูลอีกด้วย ถ้าไม่เชื่อ คืนนี้ลองสลับมือที่ใช้ในการแปรงฟันดู  ที่สำคัญอย่าลืมเปลี่ยนมาใช้มือข้างที่ไม่ได้ใช้ประจำบีบยาสีฟันและเปิดก๊อกน้ำด้วย

         3.หลับตาอาบน้ำ อีกหนึ่งวิธีการบริหารสมองง่ายๆ ที่น่าลอง วิธีนี้เป็นการเปิดโอกาสให้ประสาทสัมผัสของคุณได้ทำงานอย่างเต็มที่ แทนที่จะใช้การมองเห็น เพราะตามธรรมชาติของมนุษย์เมื่อใดก็ตามที่ประสาทสัมผัสอย่างใดอย่างหนึ่งไม่สามารถพึ่งพาได้ชั่วคราว สัญชาตญาณของคนเราจะเอาตัวรอดด้วยการใช้งานประสาทสัมผัสที่เหลือมากขึ้น อย่างในกรณีนี้ประสาทสัมผัสจะทำหน้าที่รับรู้แทนตา และส่งข้อความกลับไปหาสมอง ซึ่งถือเป็นการบริหารสมองไปในตัว

         4.เปลี่ยนมุมมองเสียใหม่ ท้าทายประสาทสัมผัสไปแล้ว ลองมาท้าพิสูจน์ความสามารถของการมองเห็นบ้าง ด้วยการลองเปลี่ยนมุมมองสิ่งของรอบตัวที่คุ้นเคย จากที่เคยมองรูปถ่ายครอบครัว นาฬิกาแขวนผนังในแนวเดิมทุกวัน ลองพลิกตะแคงเปลี่ยนไปอีกมุม เพื่อบริหารสมองให้ได้สื่อภาพ และตีความสิ่งที่ตาเห็นในรูปแบบที่ซับซ้อนมากขึ้น วิธีนี้ก็ถือเป็นการบริหารสมองทางอ้อมเช่นกัน

         5.เปิดหน้าต่างขณะนั่งรถ เพราะขณะที่เราเปิดหน้าต่างรับรู้สัมผัสสิ่งต่างๆ รอบตัว จะกระตุ้นให้สมองส่วนที่เรียกว่า  “ฮิปโปแคมปัส” (Hippocampus) ซึ่งเป็นสมองส่วนที่สามารถถูกกระตุ้นได้ด้วยสัมผัสต่างๆ เช่นกลิ่น เสียง และการมองเห็นได้ทำงาน

         6.ลองทำอะไรใหม่ๆ อาหารสมองชั้นดี คือ การเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เรียนรู้ในศาสตร์ที่หลากหลายไม่จำเจ แทนที่จะเอาแต่ก้มหน้าอ่านหนังสือเพื่อเติมความรู้ ยังไม่สามารถทำให้สมองแข็งแรงเท่าการพาตัวเองไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ เช่น ลองไปเรียนภาษาต่างประเทศ หรือ เล่นเครื่องดนตรีที่เคยแต่เป็นผู้ฟัง เพราะกระบวนเหล่านี้จะทำให้คุณได้ลองใช้ทักษะการเรียนรู้ใหม่ๆ ไม่เว้นแม้แต่การเล่นเกม กิจกรรมที่หลายคนมองว่าไร้สาระ แต่จริงๆ แล้วช่วยพัฒนาสมองและเสริมความมั่นใจได้เป็นอย่างดี