ปัจจุบันนี้ คนส่วนใหญ่เริ่มหันมาให้ความสนใจกับการออกแบบบ้านด้วยตนเอง ทั้งนี้ก็เพราะว่า หากคุณออกแบบบ้านด้วยตนเอง คุณก็จะได้ในสิ่งที่ชอบ ที่ใช่ อีกทั้งยังได้ดูในเรื่องของทิศทาง แสงแดด และลมด้วย

          ซึ่งแน่นอนว่า ทิศทาง แสงแดด และลม ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้บ้านของคุณอยู่สบาย อีกทั้งยังช่วยประหยัดพลังงานได้อีกมากด้วยล่ะ

ออกแบบบ้านทั้งที ก็ต้องดูทิศที่ดีกับบ้านด้วย

          หากคุณคิดว่า “บ้านหันไปทางทิศไหนๆ ก็เหมือนกัน” นั่นคือความคิดที่ผิดมหันต์ เพราะหากคุณหันบ้านไปในทิศทางที่ถูกที่ควรแล้วล่ะก็ ความสุขก็จะเกิดได้ไม่ยากค่ะ

          ฉะนั้น เรามาดูกันดีกว่าว่า แต่ละทิศมีข้อดี ข้อเสียอย่างไร เพื่อเอาไปปรับใช้กับบ้านสุดรักสุดหวงของคุณ

  • ทิศเหนือ

          ทิศเหนือ เป็นทิศที่มีกระแสลมในช่วงเดือนตุลาคม-เดือนมกราคม อีกทั้งยังมีจุดเด่นในด้านร่มเงาอีกด้วย

          เนื่องด้วยลักษณะการโครจรของพระอาทิตย์ ที่จะขึ้นในทิศตะวันออก และจะอ้อมไปทางทิศใต้เพื่อลับขอบฟ้า

          ดังนั้น ทิศเหนือจึงเหมาะกับการใช้เป็นห้องนอน ห้องทำงาน หรือห้องที่อยู่อาศัยมากที่สุด ซึ่งการออกแบบห้องต่างๆ ในทางทิศเหนือ ควรออกแบบให้ห้องมีความปลอดโปร่ง โล่งสบาย เพื่อให้แสงสว่างเข้าถึง เพราะหากปิดทึบด้วยผนังปูนจะทำให้ห้องดูมืดจนเกินไป
          ส่วนข้อเสียของทิศเหนือ ก็คือ ลักษณะเงา เพราะลักษณะเงาจะทำให้แสงสว่างเข้าไม่ถึง อาจก่อให้เกิดความอับชื้นได้

          สรุปแล้ว การออกแบบห้องในทางทิศเหนือ ควรใช้หน้าต่างบานกว้าง หรือเลือกใช้วัสดุที่ช่วยให้แสงจากภายนอกเข้าถึงได้ง่าย อาทิ วัสดุกระจก เป็นต้น

          อีกทั้งกระแสลมที่จะเข้ามาทางทิศเหนือในช่วงปลายปีนั้น ตรงกับช่วงฤดูหนาวพอดี ทิศเหนือจึงไม่เหมาะกับการวางบ่อน้ำ สระน้ำ เพราะจะทำให้เกิดความหนาวเย็นมากเกินไป และเกิดตะไคร่น้ำได้ง่ายค่ะ

  • ทิศตะวันออก

          ทิศตะวันออก เป็นทิศที่ให้แสงแดดอ่อนๆ ในยามเช้า ให้ร่มเงาในยามเย็น ซึ่งลักษณะแดดยามเช้า จะให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย เป็นแดดที่ร่างกายต้องการ ช่วยให้รู้สึกกระชุ่มกระชวย

          ดังนั้น ทิศตะวันออกจึงเหมาะกับการใช้เป็นห้องนอน ห้องทำงาน ระเบียงนั่งเล่น หรือมุมสวนนอกบ้าน เพราะโดยรวมแล้วเป็นทิศที่มีลักษณะดี เหมาะสมกับการอยู่อาศัยตลอดทั้งวัน

          ส่วนข้อเสียของทิศตะวันออก คือ ด้านทิศตะวันออกเป็นด้านที่ไม่มีลมเข้า ทำให้ลักษณะการอยู่อาศัยอาจรู้สึกอบอ้าวไปนิด การออกแบบจึงควรเลือกใช้วัสดุที่ช่วยให้ห้องปลอดโปร่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวกค่ะ

  • ทิศตะวันตก

          ทิศตะวันตก เป็นทิศที่มีแสงแดดในช่วงบ่าย ซึ่งเป็นแดดที่ช่วยฆ่าเชื้อโรค และลดกลิ่นอับภายในบ้าน

          ดังนั้น ทิศตะวันตกจึงเหมาะกับการใช้เป็นห้องน้ำ ห้องซักล้าง ห้องครัว โถงบันได และโรงจอดรถ

          แต่ทั้งนี้ แสงแดดที่แรงเกินไปย่อมส่งผลให้บ้านได้รับความร้อน ผนังด้านทิศตะวันตกจึงควรเน้นผนังหนา โดยอาจก่ออิฐสองชั้น หรือติดตั้งวัสดุอื่นๆ เสริม เพื่อเป็นเกราะป้องกันแสงแดดให้มีอุณหภูมิต่ำลง

          อาทิ ระแนงบังแดด ชายคาบ้าน หรือเฉลียง เป็นต้น นอกจากนี้แสงแดดที่สาดส่องลงพื้น ยังเป็นเหตุให้เกิดแสงกระทบเข้าสู่ตัวบ้าน ดังนั้น พื้นภายนอกควรเลือกวัสดุที่ไม่ดูดความร้อนมากนัก อาทิ สนามหญ้า อิฐบล็อก ตัวหนอน เป็นต้น

  • ทิศใต้

          ทิศใต้ เป็นทิศที่มีกระแสลมในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เดือนตุลาคม ซึ่งจะตรงกับฤดูร้อน และฤดูฝน

          ดังนั้น ทิศใต้จึงเหมาะกับการใช้เป็นห้องน้ำ ห้องครัว หรือห้องซักล้าง เป็นต้น และสำหรับใครที่ต้องการทำสระน้ำ บ่อน้ำ จะเหมาะอย่างยิ่งหากจัดวางไว้ทางทิศใต้ เนื่องด้วยกระแสลมในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เดือนพฤษภาคม เป็นลมฤดูร้อน หากลมได้พัดผ่านกระแสน้ำจะช่วยให้บ้านเย็นขึ้นได้ค่ะ

          ส่วนข้อเสียของทิศใต้ คือ ช่วงฤดูฝนประมาณเดือนมิถุนายน-เดือนตุลาคม ลมจะพัดพาฝนเข้าสู่ทางทิศใต้ เพราะฉะนั้นควรออกแบบให้มีชายคาบังฝน และติดตั้งกันสาดบริเวณหน้าต่างห้อง เพื่อช่วยป้องกันฝนสาดเข้าสู่ตัวบ้าน
          ทั้งหมดทั้งมวลนี้ คือ วิธีการออกแบบบ้านให้สอดคล้องกับธรรมชาติ เพื่อความสุขแบบยั่งยืนค่ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก  www.rabbitfinance.com