บสย. เปิดแผน 61 มุ่งหนุน SMEs เข้าถึงสินเชื่อ ตั้งเป้าค้ำประกัน 1.1 แสนล้านบาท

         นายนิธิศ มนุญพร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เผยถึง นโยบายและแผนดำเนินงาน บสย. ปี2561 โดยวาง 4 ยุทธศาสตร์  ช่วยผู้ประกอบการ SMEs ทุกมิติ  ครอบคลุมด้านการค้ำประกันสินเชื่อ ช่วยผู้ประกอบการ SMEs ทุกกลุ่มเข้าถึงสินเชื่อ  รวมถึงการให้คำปรึกษาทางการเงิน 

โดยตั้งเป้าค้ำประกันสินเชื่อปีนี้ 110,000 ล้านบาท ช่วยผู้ประกอบการใหม่ให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อ 99,306 ราย  และตั้งเป้าส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อย (Micro SMEs) เข้าถึงสินเชื่อและค้ำประกันสินเชื่อ ไม่น้อยกว่า 73% ของจำนวนการค้ำประกัน (LG) ทั้งหมด

          นอกจากนี้ปีนี้ บสย. จะเร่งผลักดัน โครงการค้ำประกันสินเชื่อ Micro Entrepreneurs ต่อเนื่องระยะที่ 3  วงเงิน 15,000 ล้านบาท ให้ทันภายในไตรมาส 2  พร้อมดำเนินการ ผลักดันโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS7  ควบคู่กัน เพราะเป็นโครงการต่อเนื่องตามนโยบายรัฐบาล โดยจะเร่งนำเสนอกระทรวงการคลัง และครม.พิจารณา  ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวได้ภายในไตรมาสที่ 3   โดยทั้ง 2 โครงการมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับประเทศ  เฉพาะอย่างยิ่งโครงการค้ำประกันสินเชื่อ SMEs รายย่อย ซึ่งให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนผู้ประกอบการระดับฐานรากที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในปี 2560  มีจำนวนผู้ได้รับสินเชื่อและค้ำประกันสินเชื่อสูงสุด ณ  31 ธ.ค. 2560 มากกว่า 1 แสนราย

นอกจากนี้ ยังได้ตั้งเป้าสัดส่วนการค้ำประกันสินเชื่อกลุ่ม Micro ไม่น้อยกว่าร้อยละ 73  ของจำนวนรายการทั้งหมด เพื่อรองรับความต้องการที่ขยายตัวของสินเชื่อรายย่อยและการค้ำประกันสินเชื่อรายย่อย  สามารถกระจายความช่วยเหลือได้ทั่วถึง สอดคล้องกับจำนวนผู้ประกอบการ SMEs ทั่วประเทศที่เพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านรายในปัจจุบัน

      โดยล่าสุด  บสย. ได้ประกาศหลักเกณฑ์ Single Guarantee Limit สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ที่เข้าร่วมโครงการ  Micro Entrepreneurs (SGL Micro) กำหนดกรอบวงเงินค้ำประกันสินเชื่อผู้ประกอบการ SMEs  ต่อราย รวมทุกโครงการค้ำประกันสินเชื่อ Micro Entrepreneurs  รวมทุกสถาบันการเงิน ไม่เกิน 500,000 บาทต่อราย เพื่อให้วงเงินค้ำประกันกระจายไปสู่ผู้ประกอบการรายย่อยให้มากที่สุด

ส่วนโครงการค้ำประกันสินเชื่อกลุ่ม Non Bank ซึ่งเป็นพอร์ตค้ำประกันสินเชื่อใหม่ ขณะนี้มีความคืบหน้ามากโดยเฉพาะการศึกษาโมเดลที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดประโยชน์กับผู้ประกอบการ SMEs และธนาคารพันธมิตรที่จะเข้าร่วมโครงการ คาดว่าจะสามารถเปิดโครงการได้ภายในปีนี้ 

เปิด “ศูนย์ให้คำแนะนำ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุน”

        นโยบายสำคัญในปีนี้ยังมุ่งเน้นการทำงานเชิงรุกมากขึ้น โดยจะใช้ศักยภาพของสำนักงานสาขาให้เกิดประโยชน์สูงสุด ยกระดับสำนักงานสาขาทั้ง 11 สาขา ให้เป็น “ศูนย์ให้คำแนะนำ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุน”

 โดยได้เตรียมเจ้าหน้าที่ บสย.  ที่มีประสบการณ์ในแต่ละพื้นที่ ซึ่งเป็นผู้ที่ความเชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษาการเข้าถึงแหล่งสินเชื่อ ตลอดจนความรู้ด้านการเตรียมตัวขอสินเชื่อกับธนาคารที่เข้าร่วมโครงการค้ำประกันสินเชื่อกับ บสย.  โดย  “ศูนย์ให้คำแนะนำ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุน” จะเป็นพี่เลี้ยงทางการเงินให้กับผู้ประกอบการ SMEs ที่ต้องการขอสินเชื่อจากธนาคาร ซึ่งปัจจุบัน บสย. มีพันธมิตรที่เข้าร่วมโครงการค้ำประกันสินเชื่อกับ บสย. รวม 19 ธนาคาร

        สำหรับการขยายบทบาทสาขาเป็น “ศูนย์ให้คำแนะนำ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุน” นี้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการ SMEs ที่สอบถามเข้ามายังสำนักงานสาขา ช่องทางออนไลน์ และในช่องทางโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขการขอสินเชื่อที่เข้าร่วมโครงการค้ำประกันสินเชื่อกับ บสย. จึงเป็นที่มาของการขยายบทบาทสาขา เพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs ได้เข้ามาใช้บริการก่อนเพื่อเข้ารับการแนะนำก่อนขอสินเชื่อจากธนาคาร  บสย. คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในไตรมาส 2 พร้อมเตรียมกิจกรรมสร้างการรับรู้ โดยการจัดงาน Open House  ในเดือนมีนาคมนี้   

        ในปีนี้ บสย. ยังได้ยกระดับการจัดกิจกรรมใหญ่ประจำปี 2561 “มหกรรมเข้าถึงแหล่งเงินทุนแฟร์”  ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดต่อเนื่องทุกปี และได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการ SMEs กลุ่มองค์กรพันธมิตร หน่วยงานภาครัฐ ธนาคารพันธมิตรที่ร่วมโครงการค้ำประกันสินเชื่อ ซึ่งปีนี้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงาน  โดยเชิญลูกค้าที่ได้รับการค้ำประกันสินเชื่อจาก   บสย.จากทุกพื้นที่เข้าร่วมแสดงสินค้าของแต่ละท้องถิ่น  เพื่อโชว์ผลงานภายในงาน  โดยจะเริ่มเปิดตัวโครงการตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป