ในยุคนี้จะเห็นได้ว่าคนรุ่นใหม่นั้นมีการเปิดกิจการเป็นของตัวเองกันมากขึ้น สาเหตุก็เพราะว่ามุมมองความคิดเรื่องการทำงานหาเงินนั้นเริ่มเปลี่ยนไป ต้องการอิสระมากขึ้น กล้าเสี่ยงมากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีสิ่งหนึ่งที่ยังคงสืบทอดมาจากคนรุ่นก่อนๆ ก็คือ วิธีการบริหารเงิน ซึ่งหากเราขาด วิธีการบริหารเงิน ที่ดีไปนั้น เราก็แทบจะไม่มีโอกาสที่จะมีกิจการเป็นของตัวเองได้เลย เพราะว่าเราอาจจะไม่ได้รู้จักบริหารรายรับ รายจ่ายของเราให้สมดุลกัน ไม่รู้จักเก็บออม ไม่รู้จักใช้จ่ายตามที่เรามีและใช้เกินตัว อันส่งผลให้เราเป็นหนี้ และเมื่อเป็นหนี้โอกาสในการตั้งตัวเป็นเจ้าของกิจการของเราก็จะลดลงเพราะว่าเราต้องวนเวียนอยู่ในวงจรการหาเงินมาปลดหนี้ ทำให้ไม่มีเงินเก็บไว้ตั้งตัวนั่นเอง

ซึ่งคนรุ่นใหม่สมัยนี้ได้มีการเรียนรู้ถึง หนี้ดี และ หนี้ไม่ดี กันมากขึ้น  ซึ่งเราจะอธิบายเรื่องนี้กันแบบง่ายๆ ก็คือ

  • หนี้ดี คือ หนี้ที่ก่อให้เกิดรายได้ หรือสามารถลดต้นทุนค่าใช้จ่ายของเราลงได้ เช่น กู้เงินมาทำกิจการหรือลงทุนที่ให้ผลตอบแทน หรือ การซื้อรถยนต์มาใช้เพื่อลดต้นทุนในการเดินทาง เป็นต้น
  • หนี้ไม่ดี คือ หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ เพิ่มรายจ่ายของเราให้มากขึ้น เช่น หนี้บัตรเครดิตที่เราผ่อนจ่ายไม่หมดดอกเบี้ยพอกพูน เป็นต้น

นอกจากนี้การที่คนรุ่นใหม่ได้รับการสอนวิธีการบริหารเงินมาจากคนรุ่นก่อนแล้ว บางคนยังมีการพัฒนาต่อยอดเพิ่มไปอีก เพื่อให้ได้สิ่งที่ดีขึ้น และวันนี้ MoneyGuru.co.th ก็จะพาไปดูกันว่า วิธีการบริหารเงินของคนรุ่นใหม่ นั้นเป็นอย่างไรกันบ้าง

วิธีการบริหารเงินของคนรุ่นใหม่

มีการเป้าหมายที่ชัดเจนและรู้จักวางแผน

  • ด้วยการที่สมัยนี้สิ่งต่างๆ ได้เปิดกว้างขึ้น ทำให้คนรุ่นใหม่ค้นพบตัวเองกันมากขึ้น และเมื่อค้นพบตัวเองแล้วก็สามารถจะตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนได้ ทำให้สามารถมุ่งความสนใจไปที่สิ่งที่ต้องทำ ต้องเรียนรู้ ต้องใช้งานมากขึ้น ซึ่งเมื่อมีความชัดเจนก็สามารถวางแผนได้ว่าการที่เราจะไปถึงเป้าหมายนั้น เราต้องทำอย่างไรบ้าง จะต้องบริหารเงินอย่างไรให้มีใช้ และมีเหลือเก็บไว้ลงทุน เท่าไหร่อย่างไร ใช้เวลาโดยประมาณกี่ปี ซึ่งสิ่งเหล่านี้แหล่ะที่จะเป็นแรงผลักดันให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จ และเป็นเหมือนเครื่องเตือนใจให้ต้องรู้จักบริหารเงินเสมอ ไม่อย่างนั้นก็คงไม่สามารถไปถึงเป้าหมายที่หวังไว้ได้

มีวินัยในการเก็บก่อนใช้

  • นอกจากมีเป้าหมายและมีแผนแล้ว การมีวินัยที่จะทำตามแผนก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากไม่มีวินัยที่จะทำตามแผนแล้ว วินัยการเงินก็ย่อมพังไปด้วย ซึ่งคนรุ่นใหม่นั้นค่อนข้างใส่ใจสิ่งนี้มากๆ จึงได้มีการบริหารเงินกันมากขึ้น โดยที่นิยมใช้กันก็คือ วิธีการเก็บก่อนใช้ เมื่อเราได้รับเงินมาให้เรารีบหักส่วนที่จะต้องเก็บออกมาก่อนแล้วที่เหลือจึงค่อยนำไปใช้ ซึ่งวิธีนี้ได้ผลค่อนข้างดี เพราะว่าเราจะได้ไม่ต้องกังวลว่าเราจะเผลอใช้เกินส่วนที่ต้องเก็บ เพราะเราหักเก็บไปแล้วนั่นเอง

สนใจการลงทุน

  • การลงทุนถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะหากการลงทุนเป็นได้ด้วยดี อาจจะทำให้เราร่ำรวยขึ้นมาในเวลาอันรวดเร็วก็ได้ ดังนั้นคนรุ่นใหม่จึงมักมีการบริหารเงินที่ได้รับมา ให้มีแบ่งส่วนไว้สำหรับการลงทุนด้วย เพื่อจะได้เป็นการสร้างรายได้และโอกาสให้กับตัวเองไปอีกทางหนึ่ง นอกเหนือรายได้จากอาชีพหลักของเรา

ไม่สร้างหนี้

  • หากว่าเราต้องการจะไปถึงเป้าหมาย อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ ที่เราต้องห่างไกลให้มากก็คือ “หนี้” เพราะการเป็นหนี้นั่นอาจจะทำให้เราต้องเสียเงินที่เราเก็บออมมาไปกับการใช้หนี้จนหมด ไม่อย่างนั้นดอกเบี้ยก็จะพอกพูนเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ยิ่งทำให้เราห่างไกลเป้าหมายของเราไปทุกที ดังนั้นคนรุ่นใหม่จึงมักมีการบริหารเงินที่มีให้เพียงพอต่อการใช้จ่าย เพื่อไม่ให้หนี้ต้องมาขวางทางการไปถึงเป้าหมายนั่นเอง

หากว่าเรารู้จักบริหารเงินของเราให้ดีแล้ว เป้าหมายไม่ว่าสูงแค่ไหนก็ยังมีโอกาสจะไปถึง แต่หากเราไม่มีการบริหารเงินที่ดีแล้ว แค่เงินจะกินก็อาจจะต้องใช้ความพยายามอย่างมากแล้วก็ได้ MoneyGuru.co.th จึงขอเป็นกำลังใจให้คนรุ่นใหม่ได้ไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้กันทุกคนนะครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก  www.moneyguru.co.th