คืนที่เรานอนไม่หลับมักจะเป็นคืนที่แสนยาวนานนนนน นอนกลิ้งซ้ายขวาจนม้วนตัวก็แล้ว นับแกะไปทั้งฟาร์มก็แล้ว มันก็ยังนอนไม่หลับอยู่ดี บางคนอาจจะบอกว่า ก็กินยานอนหลับสิ ตอบโจทย์ รวดเร็ว หืม! แล้วถ้าเป็นบ่อยเป็นถี่ล่ะ ยานอนหลับมันคือทางออกจริงๆ เหรอ ถ้างั้นลองมาใช้ทางแก้ของเราดีมั้ย แก้อาการนอนไม่หลับแบบออร์แกนิค ด้วยวิธีพื้นฐานธรรมชาติที่ดีต่อสุขภาพร่างกายของเรา

1. เวลาเข้านอน เวลาตื่นนอน ที่สม่ำเสมอ

ความสม่ำเสมอของเวลาทั้งการตื่นนอน และ การเข้านอน ก็เป็นเรื่องสำคัญที่เราควรทำให้เป็นนิสัย อย่างปกติเราเข้านอนตอน 3 ทุ่ม ตื่น 7 โมงเช้า ในวันทำงาน พอถึงวันหยุดก็ควรจะเป็นเวลาเดียวกันไม่ใช่ว่าเสาร์-อาทิตย์ ขอตื่นสายนิดนึงเป็น 10 โมง ไปเที่ยวกับเพื่อนวันเสาร์ขอนอนดึกหน่อยเป็นเที่ยงคืน อันนี้ไม่โอเคนะจ๊ะ เพราะร่างกายเราก็ต้องการรูทีนเช่นกัน   

2. ลดเครื่องดื่มคาเฟอีน

อย่าเพิ่งจับน่าอกตกใจว่าติดชากาแฟขนาดนี้ ให้ลดละเลิกแล้วช้านจะถ่างตาอยู่ได้ทั้งวันยังไงดี ใจเย็นๆ มันไม่ได้ถึงขนาดนั้น เพียงแต่ว่าหลังอาหารกลางวันหรือตั้งแต่บ่ายไป เราควรลดชากาแฟลงสำหรับคนที่ดื่มวันละ 2-3 แก้ว หากเป็นไปได้ก็ควรหลีกเลี่ยงเสียดีกว่าในช่วงบ่าย เพื่อการนอนหลับที่ดีขึ้น

3. น้ำมันสกัดจากดอกลาเวนเดอร์

สรรพคุณของดอกลาเวนเดอร์คือ ช่วยในระบบประสาท มีกลิ่นหอมที่ทำให้จิดใจสงบ หากใครเคยสังเกตโลชั่นของเด็กจะมีกลิ่นของดอกลาเวนเดอร์สำหรับทาก่อนนอน เพราะจะช่วยให้เด็กสงบและหลับง่ายขึ้น สำหรับผู้ใหญ่อย่างเราๆ ก็จุดน้ำมันสกัดจากดอกลาเวนเดอร์ทิ้งไว้ก่อนเข้านอนซัก 15-30 นาทีแล้วดับ จะช่วยให้หลับสบายขึ้น

4. ห้องนอนที่มืดและเงียบช่วยให้การนอนหลับง่ายขึ้น

การเปิดไฟนอนหรือเปิดเพลงนอนเป็นเพื่อน ไม่ได้ช่วยให้สุขลักษณะของการนอนนั้นถูกต้อง เพราะการหลับๆ ตื่นๆ ดังนั้นห้องนอนที่ดีควรมืดและเงียบ เราจะได้นอนหลับสนิทตลอดคืน แต่หากใครที่กลัวความมืด จะให้นอนหลับในห้องที่ไม่มีแสงเลยก็คงทำใจไม่ได้ งั้นเราแนะนำให้ติดโคมไฟเล็กๆ แสงสีส้มวัตต์น้อยๆ ไว้ที่มุมห้องก็ได้

5. ล้มตัวลงนอนแล้วแต่ "ไม่หลับ" ต้องทำแบบนี้

ภายหลังจากประมาณ 15 นาที ที่ล้มตัวลงนอน แต่ก็ยังนอนไม่หลับ แนะนำให้ลุกขึ้นมาหยิบหนังสืออ่าน เน้นนะว่า "หนังสือ" ไม่ใช่ "มือถือ" เพราะเวลาที่เราเริ่มอ่านหนังสือไปซักพัก ส่วนมากก็จะเริ่มมีอาการง่วงนอนเกินขึ้น พอร่างกายเริ่มส่งสัญญาณก็ควรปิดไฟและล้มตัวลงนอนทันที อย่าเพลินหรือฝืนอ่านต่อหากเราทำเช่นนั้นก็ยังคงนอนไม่หลับต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก www.girldaily.com