28 Chidlom ที่สุดของส่วนผสมคอนโดมิเนียม ลิมิเตด ลักชัวรี่ คอลเลคชั่น จาก เอสซี แอสเสท บนทำเลซูเปอร์ไพร์มของเมืองไทย

ได้ชื่อว่าเป็น ท็อป 5 ซูเปอร์ ไพร์มโลเคชั่นของเมืองไทย ที่หาที่อยู่อาศัยแบบ Freehold (กรรมสิทธิ์ขาด) ยากที่สุดของกรุงเทพฯ สำหรับย่าน "ชิดลม" สุดยอดทำเลดึงดูดโครงการซูเปอร์ไฮเอนด์มารวมไว้บนทำเลเดียวกัน

ครบทุกมิติการใช้ชีวิตมิลเลียนแนร์

ด้วยคุณลักษณะเด่นที่ผสมผสานคุณสมบัติความเป็นศูนย์กลางธุรกิจสำคัญของประเทศ (CBD) และเป็นแหล่งช้อปปิ้งระดับไฮเอนด์ของเมืองไทย จึงเป็นแลนด์มาร์คยอดนิยมของเหล่าเศรษฐีและนักธุรกิจต่างชาติ ที่สำคัญยังเป็นโลเคชั่นไม่ไกลจากปอดคนกรุงอย่างสวนลุมฯ และราชกรีฑาสโมสร อันเป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่เหลือเพียงไม่กี่แห่งใจกลางเมือง ทั้งหมดนี้ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ "ชิดลม" ที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วในกรุงเทพมหานคร

อย่างที่ทราบดีว่า "ชิดลม" เป็นจุดศูนย์กลางความเจริญแถวหน้าของเมืองไทย ซึ่งหากมองให้ลึกในเชิงรายละเอียด ย่านนี้คือ "Super High-End Surrounding" เพราะแวดล้อมด้วยแหล่งช้อปปิ้งระดับหรูและโรงแรม 5 ดาว อันเป็นเครื่องยืนยันความเป็นซูเปอร์พรีเมียมของทำเลนี้ ที่ผ่านมาจึงมักเห็นการพัฒนาโครงการไฮเอนด์ระดับชาติบนแลนด์มาร์กนี้เสมอๆ

ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้าอย่าง เซ็นทรัล ชิดลม ไล่เรียงไปจนถึง เซ็นทรัล เอ็มบาสซี, เซ็นทรัลเวิลด์, เอราวัณ, เกสร วิลเลจ และโรงแรมระดับ 5 ดาว ที่ชื่อว่าเป็นโรงแรมหรูที่สุดในกรุงเทพฯ อย่าง The Okura Prestige Bangkok Hotel, The St. Regis Hotel, Grand Hyatt Erawan Hotel ฯลฯ และล่าสุดกับ Park Hyatt Bangkok ทั้งหมดนี้ก็เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนระดับมิลเลียนแนร์และนักธุรกิจต่างชาติชั้นนำที่หลั่งไหลเข้ามาลงทุนในบ้านเรา

พื้นที่บริเวณโดยรอบ "ถนนชิดลม"

โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวล่าสุด เมื่อ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือรู้จักในชื่อ โรงพยาบาลกรุงเทพ ประกาศการเข้าซื้อที่ดินโครงการปาร์คนายเลิศกว่า 5 ไร่ บนถนนวิทยุ รวมมูลค่ากว่า 12,800 ล้านบาท เพื่อเปิด BDMS Wellness Clinic ศูนย์สุขภาพครบวงจร ให้บริการด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพแบบครบวงจรรายแรกในภูมิภาคเอเชีย นำไปสู่การยกระดับเป็น Medical Hub แห่งใหม่ในประเทศไทย ด้วยองค์ประกอบนี้จึงเป็นการเติมความสมบูรณ์ของการอยู่อาศัยระดับลักชัวรี่ได้ครบทุกมิติให้กับโลเคชั่นนั้น รวมถึงชิดลมด้วย

ขอบคุณรูปภาพจาก : BDMS

โลเคชั่นเวิลด์คลาส ระดับแรร์ไอเท็ม

เมื่อเป็นทำเลที่ดีที่สุดแล้ว การจับจองเป็นเจ้าของที่ดินจึงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะย่านชิดลมนับวันยิ่งจะหาที่ดินเปล่ายากเต็มที โอกาสเปลี่ยนมือเจ้าของอย่างกรณีสถานทูตอังกฤษก็เกิดขึ้นได้ยากมาก นั่นจึงทำให้โครงการคอนโดมิเนียมในทำเลนี้มีทั้งโครงการ Leasehold (ลีสโฮลด์) คือที่ดินเช่าระยะยาว และ Freehold (ฟรีโฮลด์) กรรมสิทธิ์ขาด ตัวเลือกเหล่านี้จึงเป็นปัจจัยที่ต้องคำนึงเมื่อจะซื้อคอนโดมิเนียมในทำเลนี้ คือ สิทธิ์ความเป็นเจ้าของ ต้องยอมรับว่าโอกาสที่จะมีโครงการคอนโดมิเนียม Freehold เกิดขึ้นในโลเคชั่นนี้ยากมากๆ และทุกครั้งที่มีการเปิดโครงการใหม่ในย่านนี้ จะเห็นว่ามีการตั้งราคาเพิ่มสูงขึ้นเฉลี่ยปีละ 20-30% ซึ่งถือว่าสูงกว่าหลายทำเลที่เป็นทำเลสำคัญๆ การเติบโตแบบก้าวกระโดดนี้แสดงให้เห็นถึงกำลังซื้อที่มีศักยภาพอย่างแท้จริง แม้ว่าแต่ละจะโครงการเปิดตัวด้วยราคาที่ใครๆ ต่างมองว่าสูงเกินเอื้อมนั้น แต่กลับขายหมดอย่างรวดเร็ว แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายว่าโครงการที่เปิดขายอยู่ในเวลานี้มีอยู่แค่ไม่กี่แห่งแทบนับนิ้วได้ไม่เกินมือ เรียกได้ว่าเป็น โลเคชั่นแรร์ไอเท็ม ที่มีเงินก็ใช่ว่าจะเป็นเจ้าของได้ง่ายๆ ต้องรอทั้ง "จังหวะ" และ "โอกาส"

รถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีชิดลม

โครงการ 28 Chidlom (ทเวนตี้เอท ชิดลม)

28 Chidlom สุดยอดลิมิเตด ลักชัวรี่ คอลเลคชั่น มูลค่า 8,000 ล้านบาท

แต่ทว่าล่าสุด บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัทพัฒนาที่อยู่อาศัยคุณภาพทุกระดับราคา สร้างความตื่นเต้นให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ กับการเปิดตัวโครงการ 28 Chidlom (ทเวนตี้เอท ชิดลม) บนแปลงที่ถูกกล่าวขวัญมากสุดในปีที่ผ่านมาและทำเลดีที่สุดแห่งหนึ่งบนถนนชิดลม กับพื้นที่ขนาด 3-0-24 ไร่ มูลค่าโครงการกว่า 8,000 ล้านบาท โดยเป็น 1 ใน 3 โครงการคอนโดมิเนียมในกลุ่ม Limited Luxury Collection by SC ASSET และ กำลัง เปิดพรีเซลล์ใน 25-26 ก.พ. นี้

โครงการ 28 Chidlom (ทเวนตี้เอท ชิดลม)

แน่นอนแล้วว่าความโดดเด่นของโครงการ 28 Chidlom คือ "ทำเล" ที่ตั้งอยู่บนถนนชิดลม จนกล้าพูดได้ว่าเป็น "One of the best location" ด้วยจุดเด่นสำคัญหลัก 3 ประการ ได้แก่

The Walking-distance Neighbourhood

    ระยะห่างเพียง 250 เมตร จากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ชิดลม, 180 เมตร จากเซ็นทรัล ชิดลม
  1. The Location of Everything ใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกชั้นนำครบครันในรัศมีเพียง 2 กม. รอบๆ โครงการ ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น เซ็นทรัล เอ็มบาสซี, เกษร วิลเลจ, เซ็นทรัล เวิล์ด, สยามพารากอน, สยามเซ็นเตอร์ พร้อมด้วยสถานพยาบาลชั้นนำ อย่าง โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ และ BDMS ว่าที่ Medical Hub แห่งใหม่ของเอเชียในอนาคต ตลอดจนอาคารสำนักงาน และโรงแรมระดับ 5 - 6 ดาว อีกทั้งใกล้กับสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียง รวมทั้งโรงเรียนสตรีชั้นนำของประเทศ อย่าง โรงเรียนมาแตร์ เดอี วิทยาลัย และยังใกล้สวนสาธารณะใหญ่ใจกลางกรุงเทพ อย่างสวนลุมพินี
  2. The Rarest Oasis เนื่องจากการหาซื้อที่ดินขนาดใหญ่กว่า 3 ไร่ใจกลางเมืองในทำเลระดับเวิลด์คลาส อย่างโครงการ 28 Chidlom นี้ เป็นเรื่องยากมากในปัจจุบัน ที่สำคัญในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ยังไม่มีโครงการไฮไรส์ที่สามารถถือกรรมสิทธิ์แบบ Freehold และเป็นโครงการที่เปิดตัวใหม่ในรัศมี 500 เมตร รอบสถานีบีทีเอส ชิดลม ได้อีกด้วย

พื้นที่บริเวณรอบโครงการ 28 Chidlom

ระดมบริษัทออกแบบชั้นนำ เนรมิตคอนเซ็ปต์ An Urban Oasis

นอกจากจุดเด่นด้านทำเลแล้ว 28 Chidlom ยังถือเป็นผลงานดีไซน์ระดับมาสเตอร์พีซ จากความร่วมมือระหว่างบริษัทออกแบบชั้นนำระดับโลก อย่าง บริษัท Kohn Pederson Fox (KPF) ที่มีชื่อเสียงของเมืองนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา มาเป็นที่ปรึกษาด้านงานออกแบบ โดยร่วมกับ บริษัท Design 103 International สถาปนิกโครงการ ผนึกกำลัง TROP บริษัทออกแบบภูมิสถาปัตยกรรมระดับแนวหน้าของประเทศที่มีผลงานยอมรับทั่วโลก และอีกความร่วมมือจาก BREATHE ผลลัพธ์ที่ได้คือแลนด์มาร์คล้ำดีไซน์แห่งใหม่ใจกลางเมือง

แนวคิดหลักของการสร้างสรรค์ โครงการ 28 Chidlom คือการออกแบบทุกองค์ประกอบ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “An Urban Oasis” ใจกลางเมือง ที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียว ที่มีขนาดใหญ่ถึง 2 ใน 3 ของพื้นที่ชั้นล่างทั้งหมดของโครงการ โดยมีการเชื่อมต่อกันระหว่างพื้นที่สีเขียวทั้งภายนอกและภายในอาคาร (A Series of Courtyard) เพื่อสร้างความรื่นรมย์แบบต่อเนื่องให้กับผู้อยู่อาศัยอย่างลงตัว

การออกแบบ ภายใต้แนวคิด “An Urban Oasis” ใจกลางเมือง ของโครงการ 28 Chidlom เอกลักษณ์สมบูรณ์แบบ ด้วยดีไซน์ Jewel-box Facade

โครงการ 28 Chidlom (ทเวนตี้เอท ชิดลม) ประกอบด้วยอาคารสูง 2 อาคาร จำนวนห้องพักรวม 427 ยูนิต แบ่งเป็น อาคาร The Tower ขนาด 47 ชั้น จำนวน 243 ยูนิต ที่ได้รับการออกแบบ Facade อาคารให้มีลักษณะเสมือน Jewel-box Facade สะท้อนเอกลักษณ์และความแตกต่างอย่างที่สุดจากโครงการอื่นๆ ส่วนอาคาร The Villa ขนาด 20 ชั้น จำนวน 184 ยูนิต

The Jewel-box Facade

สำหรับอาคาร The Tower ประกอบด้วยประเภทห้อง 5 ขนาด ได้แก่ สตูดิโอ 33 ตร.ม., ขนาด 1 ห้องนอน 40-50 ตร.ม., ขนาด 2 ห้องนอน 70-75 ตร.ม., ขนาด 3 ห้องนอน 120-200 ตร.ม. และห้องเพนต์เฮ้าส์ 100-190 ตร.ม. ภายในห้องทุกแบบได้รับการออกแบบโดยคำนึกถึงผ่อนคลายไปพร้อมกับประสบการณ์การอยู่อาศัยระดับพรีเมี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์ให้มีเพดานสูงถึง 3.1 เมตร การยังใช้บานกระจกหน้าต่างเป็น Insulated หนา 2 ชั้น สูงจรดฝ้าเพดาน ซึ่งช่วยป้องกันความร้อนจากแสงอาทิตย์และป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก และ เพื่อเปิดทิวทัศน์ใจกลางเมืองได้อย่างเต็มอิ่ม และมอบความรู้สึกโปร่งโล่ง สัมผัสแสงธรรมชาติได้อย่างเต็มอรรถรส ขณะที่ห้องชุดแบบ 2 และ 3 ห้องนอน คิดค้นให้ทุกยูนิตเป็นห้องหัวมุม เพื่อให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวสูงสุดสำหรับผู้อยู่อาศัย

รูปแบบห้อง 1 BEDROOM ขนาด 46.36 sq.m.

รูปแบบห้อง 2 BEDROOM ขนาด 73.53 sq.m.

ปัจจุบัน โครงการ 28 Chidlom ได้ผ่านการอนุมัติการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมจัดพรีเซลล์และเปิดให้ชมห้องตัวอย่างครั้งแรก ที่ Sales Gallery บนถนนชิดลม ณ ที่ตั้งของโครงการ ระหว่าง 25-26 ก.พ.นี้ โดยจะเปิดขายเพียงอาคาร The Tower ก่อนเท่านั้น ในราคาพิเศษ เริ่มต้นที่ 14 ล้านบาท ล่าสุดจากการเปิดขายในรอบ VVIP ที่ผ่านมา มียอดจองแล้วถึง 50%

ลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษที่ www.28chidlom.com หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 1749

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.28chidlom.com