เยี่ยมชมโครงการ Unio สุขุมวิท 72 คอนโดใกล้รถไฟฟ้าแบริ่งมอบความคุ้มค่าในราคาไม่ถึงล้าน! ตอบทุกโจทย์ของไลฟ์ไตล์คนเมืองที่ฉลาดใช้เงิน กับคอนเซ็ปต์ Live Unique

"ย่านบางนา" จะกลายเป็นหนึ่งในสุดยอดทำเลที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักธุรกิจ นักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนคนวัยทำงานที่ต้องการที่อยู่อาศัย เพราะไม่เพียงแวดล้อมด้วยอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ศูนย์การค้าสำคัญที่อำนวยความสะดวกประกอบไปด้วยศูนย์การค้าเมกา บางนา, ไบเทคบางนา, เซ็นทรัลบางนา, ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน, บิ๊กซีสำโรง ไปจนถึงโครงการที่มีแผนจะพัฒนาเพิ่มเติมในอนาคต อย่าง เมกะโปรเจ็คระดับชาติ อย่าง เดอะ แบงคอก มอลล์ (The Bangkok Mall) ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 100 ไร่ ของเดอะ มอลล์ กรุ๊ป

จากข้อมูลข้างต้นทำให้เห็นว่าผู้พักอาศัยในย่านนี้แทบไม่ต้องเดินทางไปผจญภัยกับจราจรของกรุงเทพฯ ชั้นในเลยแม้แต่น้อย และหากต้องการเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองไม่ว่าจะเป็น สีลม-สาทร-สุขุมวิท ก็สามารถทำได้โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีโดยรถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งปัจจุบันมีรถไฟฟ้าพาดผ่าน 1 เส้นทาง คือ รถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน ได้พาดผ่านย่านบางนาไปตามถนนสุขุมวิท สิ้นสุดที่สถานีแบริ่ง ดังนั้น ถนนสุขุมวิทตอนปลายที่เชื่อมต่อกับบางนาจึงเป็นทำเลที่ถูกพัฒนาให้กลายเป็นคอนโดมิเนียมสำหรับพักอาศัย ที่เหมาะกับคนทำงานใจกลางเมืองย่านทองหล่อ พร้อมพงษ์ อโศก หรือสยาม ที่ไม่ต้องใช้รถยนต์แต่ยังต้องการความสะดวกสบายในการเดินทาง แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นทำเลที่สามารถใช้รถยนต์ได้สะดวกเมื่อต้องการ ทั้งยังขึ้นทางด่วนได้ 2 ฝั่งคือ ทางด่วนบูรพาวิถี และ วงแหวนรอบนอก และอีกไม่นานจะมี รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (Monorail) ลาดพร้าว-สำโรง พาดผ่านย่านบางนา ซึ่งจะทำให้การเดินทางในย่านนี้สามารถเชื่อมต่อกับอีกหลายเส้นทางในอนาคต

อนันดา ส่งแบรนด์ลูก Unio บุกทำเลบางนา ในราคาเริ่มต้น 9.5 แสนบาท คุ้มค่าไม่เกินล้าน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ Gen C

หลังจาก อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ส่งแบรนด์ลูกบุกเบิกโครงการที่อยู่อาศัยในคอนเซ็ปต์คุ้มค่าในราคาไม่เกินล้าน กับ โครงการ Unio จรัญฯ 3 ซึ่งได้รับผลตอบรับดีเกินคาด ก็ส่งโครงการที่น่าจับตามองและน่าจับจองอย่างยิ่งในย่านสุขุมวิทและบางนาตามมาติดๆ กับ โครงการ Unio สุขุมวิท 72 ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียม Low Rise 8 ชั้น 5 อาคารติดถนนสุขุมวิทสายหลักและอยู่ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีแบริ่ง 600 เมตร ในบรรยากาศเงียบสงบของซอยสุขุมวิท 72 ทำให้โครงการนี้มอบความเป็นส่วนตัวให้ผู้พักอาศัย

โครงการ Unio สุขุมวิท 72

โครงการ Unio สุขุมวิท 72 มาใน คอนเซ็ปต์ Live Unique เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของ Gen C ที่มีไลฟ์สไตล์ที่ต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวายของเมืองแต่ยังมีความทันสมัย รักสุขภาพขณะเดียวกันก็อยากใกล้ชิดธรรมชาติ ที่สำคัญคือฉลาดและรู้จักใช้เงิน ดังนั้นคอนเซ็ปต์ดังกล่าวจึงสะท้อนผ่านการออกแบบตัวอาคารที่พยายามให้ทุกห้องสามารถมองเห็นทิวทัศน์ภายนอกได้ทุกองศา ใช้แสงธรรมชาติเพิ่มชีวิตชีวาให้บรรยากาศภายในห้องไม่อึดอัด การใช้สีอาคารที่มีแนวคิดมาจากการไล่สีระดับของเปลือกไม้ ให้สีอาคารเป็นสีอ่อน เพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับสวนซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนกลางในเนื้อที่กว่า 3,800ตร.ม. ที่โครงการมอบให้ ที่นี่จึงให้บรรยากาศเหมือนรีสอร์ทที่เงียบสงบ เหมาะที่จะเป็นที่พักผ่อนหลังจากทำงานหนักมาตลอดสัปดาห์ ในราคาเริ่มต้น 9.5 แสน – 1 ล้านบาท มีมากกว่า 50 ยูนิต ซึ่งราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 1.2 ล้านบาท

โครงการ Unio สุขุมวิท 72 กับแนวคิด Green Breeze

ก่อนจะเจาะไปที่ห้องตัวอย่าง มาชมภาพรวมของโครงการที่การเดินทางจาก สถานีรถไฟฟ้าแบริ่ง ฝั่งถนนสุขุมวิท 72 เข้ามาบรรยากาศส่วนใหญ่เป็นที่พักอาศัยจึงค่อนข้างสงบ เฟสแรกจะมีการสร้าง 5 อาคาร พื้นที่ส่วนกลางอยู่ด้านล่างทั้งหมดจะถูกล้อมไว้ด้วย อาคาร A B C D และ E ในแนวคิด Green Breeze มีพื้นที่สวนและจ๊อกกิ้ง แทรค ที่ล้อไปกับฟอร์มการจัดสวนธรรมชาติ พื้นที่ตรงกลางระหว่างอาคารแบ่งเป็นสระว่ายน้ำฟรีฟอร์ม(Free Form)สระบัว พื้นที่สันทนาการที่เรียกว่า Common Room โดยจะมีทั้งฟิตเนส และห้องพักผ่อน ซึ่งสามารถอ่านหนังสือ จิบกาแฟ มิตติ้ง ได้ท่ามกลางสระว่ายน้ำและสวนสีเขียว ด้านบนจะสามารถนั่งเล่นหรือปาร์ตี้ได้ หากมองจากมุมห้องพักด้านบนเห็นพื้นที่ Common Room จะเห็นเป็นรูปหัวใจ นอกจากนี้ชั้นหนึ่งของแต่ละตึกจะเป็นล็อบบี้ ตู้จดหมาย และกันพื้นที่ให้จอดรถ 30% ไม่รวมซ้อนคันแต่เพิ่มพื้นที่จอดจักรยาน 90 คัน และจักรยานยนต์ 50 คัน หลังจากรีเสิร์ชไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายแล้ว

สิ่งอำนวยความสะดวก โครงการ Unio สุขุมวิท 72

สำหรับห้องพักอาศัยมีทั้งหมด 984 ยูนิต แบ่งเป็น 4 รูปแบบ ประกอบด้วย ห้องสตูดิโอ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 22.44 ตร.ม. และ 27.30 ตร.ม. ซึ่งมีจำนวนยูนิตมากที่สุด, 1 ห้องนอน ขนาด 30.09 ตร.ม. ขนาด 31.62 ตร.ม. และ 36.00 ตร.ม., 2 ห้องนอน ขนาด 40.81 ตร.ม. และ 50.09 ตร.ม. และพิเศษกับห้อง Duplex จำนวน 23 ห้อง ที่มีทางเข้า-ออกทั้งจากชั้น 2 ของอาคาร และสามารถเข้าบ้านซึ่งเป็นส่วนของห้องรับแขกจากสวนหรือสระว่ายน้ำด้านนอกได้ เสมือนหนึ่งเป็นบ้านในต่างประเทศ

ห้องสตูดิโอ ขนาด 22.44 ตร.ม. และ 27.30 ตร.ม. พร้อมชุดตกแต่งดีไซน์บายยูนิโอ ห้องตัวอย่างที่ทางโครงการเปิดให้เข้าชมจะเป็นห้องสตูดิโอ ขนาดพื้นที่ใช้สอย 22.44 ตร.ม. และ 27.30 ตร.ม. ซึ่งคิดเป็น 80% ของโครงการ

ห้องสตูดิโอ ขนาด 22.44 ตร.ม.

ซึ่งส่วนใหญ่เป็นห้องรอบนอกของอาคารหน้ากว้างประมาณ 5 เมตร อาจจะไม่เห็นมุมของส่วนกลางมากนัก โครงการก็เน้นไปที่การออกแบบเน้นฟังก์ชั่นการใช้งานพื้นที่การใช้งานที่สามารถใกล้ชิดกับธรรมชาติ และฟังก์ชั่นการใช้งานไม่แตกต่างจากห้องขนาดใหญ่กว่าแต่อย่างใด ด้านหน้าเป็นส่วน Livingที่ดีไซน์จากไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ใช้โซนพักผ่อนในการทำกิจกรรมหลากหลาย ทั้งการดูหนัง ฟังเพลง กินข้าว และทำงาน ไว้ในพื้นที่เดียวกัน การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีฟังก์ชั่นหลากหลายจึงสำคัญสำหรับโซนนี้ ถัดมาเป็นโซนห้องนอนที่ห้องตัวอย่างจัดไว้จะเห็นว่าสามารถกั้นพื้นที่ห้องด้วยกระจกบานสไลด์ หรือพาทิชั่นได้ ปลายเตียงสามารถวางตู้เสื้อผ้าแบบลอยตัว หรือจะบิ้วด์อินตู้แบบเปิด ก็สามารถเหลือพื้นที่ได้โดยเหลือพื้นที่อีก 65 ซม.ส่วนกระจกเกือบ Full Height คือสูงจากพื้นเกือบถึง เพดานเป็นกระจกกรอบอะลูมิเนียมแบบเปิดออกด้านนอก 2 บาน เพิ่มให้แสงธรรมชาติเข้ามาได้เต็มที่ และสามารถมองเห็นวิวด้านนอกได้ทุกมุมมองไม่ว่าจะนั่งหรือนอน

ส่วนโซนด้านขวามือจะเป็นส่วนของเพนทรีห้องครัวซึ่งเป็นส่วนที่โครงการบิ้วด์อินมาให้ ดีไซน์บายยูนิโอ ความสูงจากพื้นถึงเพดานส่วนนี้จะสูง 2.40 เมตร โครงการจะมอบอ่างล้างจานของ Teka ให้ มีตู้บน ตู้ด้านล่างวัสดุทำจากเมลามีนเคลือบผิวซึ่งมีข้อดีคือไม่พองน้ำ และท็อปหินแท้ที่ไม่เสี่ยงต่อการเกิดรอยเมื่อผ่านการใช้งานไปนานๆ อย่างไรก็ตาม ทางโครงการไม่ได้เครื่องดูดควันและเตาไฟฟ้ามาให้ เนื่องจากศึกษาพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายมาแล้วที่มีพฤติกรรมทานอาหารนอกบ้าน และรับประทานอาหารสำเร็จรูปมากกว่าประกอบอาหารเอง โครงการจึงเน้นออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งานส่วนที่จำเป็นมากกว่า พื้นที่ต่อมาคือส่วนเชื่อมต่อกับระเบียงกว้างประมาณ 1 เมตร ซึ่งโครงการจำลองการวางเครื่องซักผ้าและท่อระบายน้ำไว้ให้ ส่วนต่อมาเป็นห้องน้ำออกแบบมาเหมาะสมกับการใช้งานจริงไม่ใหญ่เกินไปและไม่เล็กเกินไป พื้นห้องน้ำแบ่งเป็นสองระดับ เท่ากับแยกโซนเปียกและโซนแห้งชัดเจน แต่ถ้าหากผู้พักอาศัยอยากกั้นสัดส่วนด้วยกระจกหรือผ้ากั้นก็ทำได้

ตัวอย่างการตกแต่งภายในห้องสตูดิโอ แบบ A ขนาด 22.44 ตร.ม. โครงการ Unio สุขุมวิท 72

ห้องสตูดิโอ ขนาด 27.30 ตร.ม.

เป็นห้องที่อยู่ด้านใน ให้มุมมองของสวนและสระเต็มๆ โดยเพิ่มกระจกเข้ามุม (Bay Window)ให้เป็นพิเศษ เพื่อให้ผู้อาศัยได้สัมผัสกับพื้นที่สีเขียวส่วนกลางได้ทั้งจากมุมมอง โดยสามารถตกแต่งเป็นพื้นที่ใช้งานเล็กๆ ไม่ว่าจะสำหรับนั่งทำงาน หรือเพื่อพักผ่อน เมื่อเปิดประตูจะสามารถมองทะลุไปยังสวนหรือสระว่ายน้ำได้ ให้ความรู้สึกกว้างกว่าด้วยระยะจากพื้นถึงเพดานที่สูง 2.63 เมตร โครงการจะให้ห้องเปล่ามาให้ พื้นเป็นลามิเนตระดับเรียบเสมอกัน บิ้วด์อินชุดครัว สุขภัณฑ์ในห้องน้ำAmerican Standard หรือ Cotto หรือเทียบเท่าโคมไฟแบบซาลาเปา หลอดไฟแอลอีดี (LED) และมอบเครื่องปรับอากาศให้ ซึ่งลูกค้าสามารถจัดสรรพื้นที่และใส่ไอเดียการตกแต่งของตัวเองลงไปในห้องได้เต็มที่ แต่โครงการจัดวางไว้เป็นไอเดียประกอบด้วยโซนแรกที่โครงการจัดวางไว้ในห้องนี้ก็คือส่วนของ Living Room ซึ่งให้พื้นที่กว้างขวาง กว้าง 3.50 เมตรสามารถวางโซฟาเบดได้โดยไม่ทำให้ห้องอึดอัด แต่โครงการวางโซฟารูปตัวแอล(L) ให้เป็นไอเดีย สามารถประยุกต์โต๊ะกินข้าวให้เป็นโต๊ะทำงานได้โดยเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งานที่เลื่อนเก็บได้ ใช้งานพื้นที่ได้หลายอย่าง ส่วนชั้นวางทีวีด้านซ้ายมือโครงการบิ้วด์อินมาให้ดูเป็นตัวอย่าง

เลย์เอาท์ของห้องขนาด 27.30 ตร.ม.จะกั้นพื้นที่ส่วนปลายเตียงสำหรับวางพื้นที่ตู้เสื้อผ้าประมาณ 65เซนติเมตร การวางหัวเตียงสามารถมองออกมาจากห้องนอนแล้วสามารถดูทีวีจากห้องนั่งเล่นได้ ส่วนพื้นที่กระจกเข้ามุม (Bay Window) เป็นแบบ Full Height ซึ่งเป็นจุดเด่นของห้องขนาดนี้ ผู้พักอาศัยสามารถจัดสรรพื้นที่ส่วนนี้ได้ตามใจชอบ เพื่อให้สามารถมองเห็นวิวของสวนส่วนกลางและสระว่ายน้ำได้จากห้องนอน เป็นมุมพักผ่อนที่โครงการนำเสนอให้เป็นจุดขาย ซึ่งการแบ่งพื้นที่ค่อนข้างครบกับฟังก์ชั่นการใช้งาน ปลายเตียงเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งที่จัดสรรเป็นตัวอย่างให้ชม ถัดมาด้านซ้ายจะเป็นห้องครัวและห้องน้ำขนาดและฟังก์ชั่นใกล้เคียงกับห้องขนาด 22.44 ตร.ม.

ตัวอย่างการตกแต่งภายในห้องสตูดิโอ แบบ B ขนาด 27.30 ตร.ม. โครงการ Unio สุขุมวิท 72

โครงการ Unioสุขุมวิท 72 เฟสแรก จะตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 11 ไร่ เริ่มก่อสร้างเดือนตุลาคม 2559 คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี 2560 ซึ่งจะเปิด Pre-Sales สำหรับลูกค้าเก่าของอนันดา ในวันที่ 9 กรกฎาคม นี้ ส่วนลูกค้าทั่วไปเปิดให้จองและรับสิทธิพิเศษในงาน Pre-Sales ในวันที่ 30-31 กรกฎาคม นี้

**เงื่อนไข**
  • ค่าบำรุงรักษาส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน ชำระล่วงหน้า 1 ปี ณ วันโอนกรรมสิทธิ์
  • เงินกองทุนส่วนกลาง 400 บาท/ตร.ม. ชำระ ณ วันโอนกรรมสิทธิ์
  • ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ (ผู้ซื้อและผู้ขายแบ่งชำระคนละครึ่ง)
  • ค่าธรรมเนียมในการจดจำนอง 1% (กรณีผู้ซื้อขอสินเชื่อกับธนาคาร)
**รับโปรโมชั่นสูงสุด 6 ต่อ รวมแล้วกว่า 1.2 แสนบาท**
  • ต่อที่ 1 ส่วนลดหน้าสัญญาฯ 5,000 บาท เมื่อลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.ananda.co.th
  • ต่อที่ 2 ส่วนลด ณ วันโอนฯ 50,000 -120,000 บาท แล้วแต่ประเภทห้อง
  • ต่อที่ 3 ชำระเงินจอง พร้อมทำสัญญา รับบัตรกำนัลเซ็นทรัล มูลค่า 5,000 บาท
  • ต่อที่ 4 ผ่อนชำระเงินจองพร้อมสัญญา รับโปรโมชั่นผ่อน 0% นาน 6 เดือน โดยบัตร KTC, กสิกรไทย
  • ต่อที่ 5 ฟรี! ชุดครัว และเครื่องปรับอากาศ ส่งมอบให้ภายในวันโอน
  • ต่อที่ 6 ลูกค้า AMC แนะนำเพื่อนจอง สำหรับผู้แนะนำรับ Cash back Studio -1 bed รับ 5,000บาท / 2 bed –Duplex รับ 10,000 บาท

ลงทะเบียน คลิก

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.ananda.co.th