ในหลายๆ ครั้งที่เราจะเลือกที่อยู่อาศัย เราก็มักจะคำนึกถึงเรื่อง ความสะดวกสบายของสิ่งอำนวยความสะดวกที่อยู่บริเวณรอบๆ ทำเลนั้น รวมถึงความสะดวกสบายในการเดินทางเป็นหลัก จนบางครั้งเรื่อง “ภูมิอากาศ” ของตำแหน่งที่เราจะเลือกเป็นที่อยู่อาศัยถูกละเลยอยู่เป็นประจำ แต่อย่าลืมว่าที่อยู่อาศัยที่ท่านเลือก ท่านต้องอยู่กับมันไปอีกหลายสิบปี ในปี 2559 นี้หลายคนคงเข้าใจประเด็นเรื่องภูมิอากาศมากขึ้น จากอากาศที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์คงทำให้หลายคนถึงกับอดไม่ไหวที่จะบ่นว่า “ทำไมถึงร้อนได้ขนาดนี้” ปัญหานี้จะถูกแก้ไขและช่วยบรรเทาลงได้หากเราเลือกตำแหน่งที่ตั้งของที่อยู่อาศัยของเราได้อย่างถูกต้อง อีกทั้งยังช่วยดึงศักยภาพให้กับทำเลของเราให้สามารถใช้ประโยชน์ได้ถึงขีดสุด TerraBKK รวบรวมรายละเอียดเอาไว้ดังนี้

ปัจจัยและทางป้องกันที่เกี่ยวกับภูมิอากาศที่เราต้องคำนึงถึงทุกครั้งก่อนตัดสินใจเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ ได้แก่

1. ความร้อน ถ้าถามว่าใครชอบอากาศร้อนบ้างคงไม่มีใครตอบว่าชอบอย่างแน่นอน อากาศร้อนไม่เพียงจะทำให้เรารู้สึกอึดอัด แต่ยังทำให้ข้าวของเครื่องใช้ของเราเสียเร็วขึ้นอีกด้วย สำหรับวิธีการป้องกันความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ตัวอาคารสามารถทำได้โดย การจัดวางผังบ้านหรือการเลือกตำแหน่งห้องในคอนโดมิเนียมต้องคำนึงถึงทิศที่ดวงอาทิตย์ขึ้นและตกด้วย โดยตัวห้องควรรับแสงเช้าทางทิศตะวันออกและควรเลี่ยงทิศตะวันตกให้มากที่สุด สำหรับบ้านที่มีพื้นที่ว่างอาจจะใช้การปลูกต้นไม้ช่วยบังความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ตัวบ้านได้ และอีกส่วนที่ห้ามลืม ก็คือ ส่วนของหลังคา เพราะส่วนนี้เป็นส่วนที่รับความร้อนมากที่สุด วิธีการแก้สามารถใช้ฉนวนกันความร้อนช่วยในการมุงหลังคาเพื่อป้องกันความร้อนจากด้านบนไหลเวียนเข้าสู่ตัวอาคาร

(ภาพจาก : www.scgbuildingmaterials.com)

2. ทิศทางลม ปัจจัยนี้จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาในข้อแรกคือเรื่องของความร้อน ลมเป็นตัวช่วยพัดพาเอาความเย็นมาทดแทนความร้อนและช่วยไล่ความชื้นออกจากตัวอาคาร ทำให้ห้องไม่อับชื้น ความชื้นจะเป็นสาเหตุของเชื้อราที่เกิดขึ้นภายในบ้าน สำหรับวิธีทำให้ลมไหลผ่านภายในบ้านได้ดีมีวิธีคือ การเปิดช่องอากาศให้อยู่ในทิศทางเดี่ยวกับลม หรือไม่ก็อาจจะใช้พัดลมดูดอากาศช่วยเสริมให้อากาศถ่ายเทภายในบ้านมากขึ้น

3. ปริมาณแสง กระแสการประหยัดพลังงานกำลังมาแรงในยุคที่ทรัพยากรธรรมชาติเริ่มไม่เพียงพอต่อการบริโภค ทำให้ประเด็นเรื่องอาคารประหยัดพลังงานเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในชีวิตของเรามากขึ้น ทำให้เรื่องของ “แสง” เข้ามามีส่วนสำคัญ อาคารที่ดีควรจะต้องมีแสงธรรมชาติที่ส่องถึงในปริมาณที่พอเหมาะไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป เพื่อทำให้ผู้อยู่อาศัยภายในอาคารรู้สึกสบาย ในขณะเดียวกันก็สามารถลดประมาณการใช้แสงสว่างจากเครื่องใช้ไฟฟ้าได้อีกทางหนึ่ง

4. ความชื้น ปัจจัยความชื้นส่วนใหญ่แล้วจะเป็นปัญหาที่เกิดในช่วงฤดูฝน เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงที่มีปริมาณน้ำมากที่สุดซึ่งเป็นบ่อเกิดของความชื้น ความชื้นนำมาซึ่งปัญหาหลายๆ อย่างได้แก่ ปัญหาเชื้อรา ปัญหาข้าวของเครื่องใช้ขึ้นสนิม ปัญหาความชื้นใต้ดินจากฝนตกหนักเป็นเวลานานทำให้ปริมาณความชื้นภายในบ้านมีมากเกินไปซึ่งไม่ใช่เรื่องดีสำหรับการอยู่อาศัย นอกจากนั้นถ้าภายในอาคารมีการถ่ายเทของอากาศได้ไม่ดีอาจจะทำให้เกิดกลิ่นอับชื้นเข้ามารบกวนการอยู่อาศัยได้ สำหรับวิธีการแก้ปัญหาความชื้นภายในบ้านคือ พยายามทำให้บ้านมีช่องระบายอากาศเพื่อไล่ความชื้นภายในบ้านให้ไหลเวียนออกสู่ภายนอก สำหรับบ้านที่มีน้ำท่วมขังอาจจะต้องยกใต้ถุนบ้านให้สูงขึ้นเพื่อทำให้อากาศสามารถถ่ายเทได้ดียิ่งขึ้น ช่วยลดปัญหาความอับชื้นได้อีกทางหนึ่ง

5. อุณหภูมิ จากที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าประเทศไทยอยู่ในแถบอากาศร้อนชื้น ทำให้อากาศในประเทศเราค่อนข้างจะมีอุณหภูมิสูง การเลือกที่อยู่อาศัยในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าค่าเฉี่ยมย่อมได้เปรียบทั้งในเรื่องความสุขในการอยู่อาศัยและช่วยประหยัดพลังงานจากเครื่องปรับอากาศและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความเย็น โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ที่อากาศดี อุณหภูมิต่ำส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ที่อากาศถ่ายเทได้ดี

ปัจจัยด้านภูมิอากาศทั้ง 5 ประการ TerraBKK อยากให้ผู้อ่านได้คำนึงถึงปัญหาเหล่านี้ด้วย เพราะเห็นหลายๆ คนมักจะให้ความสนใจกับปัจจัยอื่นๆ จนละเลยปัจจัยใกล้ตัวเหล่านี้ซึ่งสำคัญมากสำหรับการอยู่อาศัย

บทความโดย : TerraBKK คลังความรู้ TerraBKK ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก