ใช้จ่าย 7 แบบนี้ มีแต่จะจน

ทุกคนล้วนมีค่าใช้จ่ายของตัวเอง แต่จะวางแผนการใช้เงินอย่างไรให้ไม่เดือดร้อน หมุนเงินครบ ยิ่งพวกค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ควรลดให้โดยเร็วเลยค่ะ เรามาดู 7 การใช้จ่าย ที่จะทำให้เรามีแต่จนกันเลย !

ชา กาแฟ น้ำอัดลม น้ำหวานต่างๆ อะไรก็ตามที่ไม่ใช่น้ำเปล่า ซึ่งหากคุณซื้อเครื่องดื่มเหล่านี้มาดื่มทุกวัน เดือนๆ เสียเงินไปกับของเหล่านี้กี่บาท! เคยลองคำนวณมั้ยคะ ?

• ชาบรรจุขวด ชื่อดัง ราคาขวดละ 20 บาท หากเรารับประทานวันละ 1 ขวด ทุกวัน 20 บาท x 30 วัน = 600 บาท
• กาแฟชื่อดัง 150 บาท ซื้อทาน 5 วันต่อสัปดาห์ 150 บาท x 5 วัน x 4 สัปดาห์ = 3,000 บาท!!!

น้ำเปล่านะคะ ถูกสุดค่ะ ส่วนใหญ่ออฟฟิสก็มีให้ทานฟรี ประหยัดได้อีกด้วยค่ะ

อยากกินนูนนี่นั้น ทั้งๆ ที่อิ่มแล้วก็ตาม พอเจอขนมหรืออาหารที่อยากกิน เป็นต้องซื้อ แล้วพอกินได้ไม่เท่าไร ก็อิ่มจนกินต่อไม่ไหวซะงั้น ให้มันได้อย่างี้สิ!! อาหารที่ซื้อมาก็ไปอยู่ในถังขยะเรียบร้อย นี่ล่ะที่เขาเรียกว่าการใช้เงินฟุ่มเฟือย

คิดถึงคนที่ไม่มีกินแล้วเรากินทิ้งกินขว้างก็สงสารนะคะ ซื้อน้อยๆ ทานไม่หมดเก็บไว้ทานต่อดีกว่าค่ะ ไม่เปลือง ไม่เสียของด้วยค่ะ

รูดมันเข้าไป บัตรเครดิตเนี่ย รูดจนเป็นหนี้หัวโต จ่ายขั้นต่ำก็โดนดอกเบี้ยอีก หากเราไม่มีการวางแผนการใช้บัตรเครดิตให้ดีก็สามารถทำให้เราเป็นหนี้พอกทั้งต้นทั้งดอกจนจ่ายไม่ไหว กลายเป็นได้เงินมาต้องจ่ายแต่หนี้ ไม่มีกินได้นะคะ

ทางที่ดีบัตรเครดิตใช้สำหรับจ่ายค่าสินค้าราคาแพง ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์รายเดือน ดีที่สุดค่ะ อย่างอื่นใช้เงินสดดีกว่าค่ะ อย่าพกเงินสดเยอะ พกน้อย ใช้น้อย จะได้ไม่เปลืองเงินนะคะ

โทรทัศน์ พัดลม ไมโครเวฟ หรือคอมพิวเตอร์ที่ปกติเราชอบเสียบปลั้กทิ้งไว้ตลอดเวลา แม้เราจะปิดสวิตช์เครื่องใช้ไฟฟ้า แต่หากปลั๊กยังคงเสียบคาอยู่ กระแสไฟก็ยังคงวิ่งอยู่นะคะ ไปพร้อมกับตัวเลขบนหน้าปัดมิเตอร์นะค่ะ ซึ่งการถอดปลั๊กเป็นวิธีการประหยัดค่าใช้จ่ายที่ดีทีเดียว

แอปพลิเคชันที่น่าสนใจมีอยู่มากมายบนสมาร์ทโฟน และหลายคนก็ชอบซื้อแอปพลิเคชัน เหล่านั้นอย่างเพลิดเพลิน มารู้ตัวอีกทีก็ตอนบิลค่าบัตรเครดิตส่งมาถึงบ้าน ส่วนใหญ่แอปพลิเคชันที่เลือกซื้อมาก็เหมือนเอามาไว้ประดับเครื่องไว้เฉยๆ ถือเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น หากไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไรก็ลบทิ้งก็ได้นะคะ

หลายคนต้องจ่ายค่ามือถือเดือนนึงมากกว่า 800 บาท ทั้งที่จริงแล้วก็ไม่ค่อยได้ใช้ 3G หรือ 4G จากแพ็กเกจนั้นเท่าไร และค่าโทรคงเหลือใช้ไม่หมดอีกต่างหาก เน้นใช้สัญญาณ Wi-Fi จากที่บ้าน และที่ทำงานมากกว่า แล้วเราจะมาเสียค่าโทรศัพท์รายเดือนที่แพงเกินการใช้งานของเราทำไม จริงไหมค่ะ เปลี่ยนแพ็กเกจให้ต่ำลงให้เหมาะกับการใช้งานดีกว่า เป็นวิธีประหยัดเงินได้ดี

อินเทอร์เน็ตรายเดือนที่ความเร็วยิ่งสูง ราคาก็จะยิ่งสูงขึ้นไปด้วย ซึ่งถ้าว่าไปตามจริงแล้ว หากคุณเป็นแค่คนที่ท่องเว็บวาไรตี้ และดูยูทูบ ก็ไม่จำเป็นต้องเลือกใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงมากจนเกินไป อย่างความเร็ว 30 เมกะไบต์นี่บอกผ่านไปเลยดีกว่า ใช้แค่ความเร็ว 10 เมกะไบต์ก็เกินพอแล้ว แถมยังช่วยตัดรายจ่ายเกินความจำเป็นได้อีกเยอะ เป็นการใช้เงินอย่างคุ้มค่า

วิธีใช้เงินอย่างประหยัดมีแต่ได้กับได้นะคะ มีเงินเก็บ มีเงินใช้ ไม่ขาดมือ มีความสุขสบายใจเฉิบ ขอให้ทุกคนมีเงินมีทอง ร่ำรวยๆ กันนะคะ