"รวย" คำๆ นี้ใครๆ ก็อยากมีซักครั้งในชีวิต การลงทุนทางเลือกที่ตอบโจทย์สำหรับคนอยากรวยมักจะเข้ามาในตลาดหุ้นเป็นอันดับแรก ถูกมั้ย? แต่หลังจากที่เข้ามาในตลาดหุ้นที่ใครๆ ต่างก็บอกว่ารวยง่าย รวยเร็ว ไม่เห็นต้องทำอะไรเลย แค่ คลิกๆ กดๆ ก็รวยแล้ว แรงก็ไม่ต้องออก ทำงานในร่ม อยากไปไหนก็ไป คำพูดเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นคำพูดที่ขายฝันทั้งสิ้น ในความเป็นจริงกว่าที่จะถึงจุดนั้นได้ คุณต้องผ่าน "ความผิดพลาด" ต่างนานา มามากพอสมควร คนที่จะประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นจริงๆ เป็นเพียงแค่คนส่วนน้อยเท่านั้น โดยที่คนส่วนใหญ่ยังวนเวียนอยู่กับความผิดพลาดที่ไม่สามารถออกมาได้ อาจจะเป็นเพราะเหตุผลที่ว่า ไม่มีประสบกาณ์มากเพียงพอ หรือคิดว่าตลาดหุ้นง่ายจนพลาดก็มี หรือไม่เคยคิดทบทวนความผิดพลาดของตนเองและนำมาปรับปรุงให้ดีขึ้น ในบทความนี้ TerraBKK จะพาท่านไปพบกับความผิดพลาดที่วนเวียนอยู่ในชีวิตของนักลงทุนผู้ไม่ประสบความสำเร็จ และจะไม่ประสบความสำเร็จไปเรื่อยๆ จนกว่าคนเหล่านี้จะตระหนักถึงปัญหา ความผิดพลาดที่ทาง TerraBKK รวบรวมมามีด้วยกัน 8 ข้อดังต่อไปนี้ (ข้อผิดพลาดนี้สามารถนำไปปรับใช้ได้กับการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่นได้)

 

 

1. ปล่อยให้ขาดทุนต่อไปเรื่อยๆ เป็นปัญหา Classic คือ กลัวการขาดทุน ปล่อยให้ตัวเลขในพอร์ตการลงทุนติดลบไปเรื่อยๆ กลัวที่จะ Realize ตัวเลขออกมา จึงปล่อยให้การขาดทุนนั้นเป็นการขาดทุนทางบัญชี เป็นตัวอย่างหนึ่งของการหลอกตัวเอง เพราะในความเป็นจริงแล้วตัวเลขที่ขาดทุนในบัญชีนั้นเป็นตัวเลขขาดทุนแล้วจริงๆ การปล่อยให้ขาดทุนต่อไปโดยไม่ตัดสินใจที่จะทำอะไรซักอย่างหนึ่งอาจจะทำให้เราพลาดโอกาสอะไรหลายๆอย่าง เช่น ถ้าเราตัดขาดทุนออกมาอย่างน้อยเราก็จะได้มีเงินสด (Cash) ไว้สำหรับโอกาสการลงทุนที่ดีกว่าในอนาคต เพราะหุ้นดีๆ เค้าไม่ขาดทุนกัน แล้วเราจะยังถือหุ้นไม่ดีไว้เต็มพอร์ตเพื่ออะไร?

2. ซื้อสวนแนวโน้มขาลง เป็นลักษณะการลงทุนภายใต้แนวคิดที่ว่าซื้อถูกขายแพง ถูกแล้วต้องซื้อ แต่สุดท้ายถูกแล้วมีถูกยิ่งกว่า หรืออีกแนวคิด คือ ซื้อถัวเฉลี่ยในช่วงขาลง ถัวไปเรื่อยๆ สุดท้ายราคาหุ้นเหล่านั้นไม่เคยกลับเข้ามาที่เดิมเลย ถ้าใครเห็นในช่วงการประมูล 4G ราคาหุ้นกลุ่มสื่อสารตกลงอย่างถล่มทลาย ใครที่ซื้อ ADVANC (AIS) ไว้ที่ 230 บาทแล้วคิดว่า 230 ต่ำแล้ว แต่ต่ำแล้วก็มีตกต่ำกว่าโดยตกลงไป 200, 170, 150, 130 บาท แต่ประเด็นคือถัวมาตั้งแต่ 200 190 สุดท้ายติดดอย ดังนั้น TerraBKK กำลังบอกว่าซื้อถัวเฉลี่ยขาลงไม่ช่วยอะไร

3. ซื้อหุ้นปลายแถว นักลงทุนส่วนใหญ่ที่เข้าไปลงทุนไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าหุ้นที่เราถือนั้นมีพื้นฐานดีหรือไม่ดี ยอดขาย กำไร อัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นเป็นอย่างไร ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่เลือกซื้อหุ้นปลายแถว หุ้นที่เป็นหุ้นร้อน หุ้นปั่น มีการเก็งกำไรมากเกินไป

4. ไม่เคยพิจารณาสิ่งที่ตนเองทำอยู่ สิ่งหนึ่งที่สำคัญ คือ การพิจารณาตัวเอง คนส่วนใหญ่มักจะเล่นหุ้นแบบวันต่อวัน ไม่เคยมองถึงความผิดพลาดในการตัดสินใจของตนเองในอดีต ทำให้กระบวนการคิด รวมถึงระเบียบวินัยในการเทรดไม่ได้รับการพัฒนา เทรดมานานเท่าไร ผิดพลาดมากเท่าไร ไม่เคยถูกแก้ไข การขาดการพัฒนาตรงนี้จะเป็นตัวฉุดรั้งความสามารถและเป็นการสร้างข้อจำกัดทางด้านความคิดและการพัฒนาของตนเอง

5. ซื้อได้แต่ขายไม่เป็น ปัญหาใหญ่ของเหล่าแมงเม่า คือ กำไรไม่ขาย ขาดทุนแล้วจะขาย สิ่งเหล่านี้เกิดจากไม่มีแผนมาตั้งแต่ต้นที่ทำการซื้อขายขึ้นอยู่กับอารมณ์ความโลภและความกลัว และการที่เราไม่เข้าใจลักษณะของหุ้นแต่ละตัวที่เราเข้าซื้อตั้งแต่ตอนแรกว่า สภาวะตอนไหนแบบไหนที่ควรจะขายออกมา ทำให้ตรงจุดนี้กลายเป็นความผิดพลาดสำคัญที่ทำให้เกิดการวนเวียนกับ "กำไรไม่ขาย ขายเมื่อขาดทุน"

6. ซื้อหุ้นตามข่าวลือ คนส่วนใหญ่มักเต็มใจให้คนอื่นหลอก มักเต็มใจให้คนอื่นปั่นหัวเล่น และถูกชักจูงให้ลงทุนด้วยลมปาก โดยไม่ใส่ใจที่จะเรียนรู้ เพื่อที่จะใช้ความรู้ที่มีอยู่ หาข้อมูลเอาไว้ใช้สำหรับการลงทุนของตนเอง สุดท้ายแล้วคนเหล่านี้มักเสียเงินจำนวนมากที่พวกเขาหามาด้วยความยากลำบากไปกับคำพูดจากผู้เชี่ยวชาญที่เป็นได้แค่พนักงานทำงานในบริษัท

7. ลงทุนในบริษัทเดิมๆ ที่รู้จัก บริษัทเดิมๆ มักเป็นบริษัทที่โตช้าและส่วนใหญ่จะเข้าอยู่ในกลุ่มหุ้นโตช้า ด้วยขนาดธุรกิจที่ขยายมาเป็นเวลานานทำให้การจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเหมือนในอดีตเป็นไปได้ยาก แต่ธุรกิจใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมักจะเป็นบริษัทเติบโตและสร้างผลตอบแทนได้เป็นอย่างดีเสมอ อีกทั้งการลงทุนในหุ้นที่ทำธุรกิจใหม่ เราจะมีโอกาสได้เรียนรู้ และค้นพบได้ก่อนที่มันจะกลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง

8. ขายตัวกำไร ถือตัวขาดทุน อีกข้อผิดพลาดหนึ่งจากที่ไม่ขายไม่ขาดทุนแล้ว ยังมีแนวคิดที่ว่ากำไรนิดๆ หน่อยๆ ขายไปก่อน ขาดทุนก็ถือๆ ไปเดี๋ยวมันก็กลับมาที่เดิม ถ้าคุณมีแนวคิดนี้สุดท้ายคุณจะมีแต่หุ้นขาดทุนอยู่เต็มพอร์ตและไม่มีหุ้นที่สามารถสร้างกำไรแบบมหาศาล หรือแบบหุ้นหลายเด้งได้ สิ่งที่คุณควรทำ คือ ทำตรงข้าม ขายให้ไวกับหุ้นที่ขาดทุนแล้วถือไปนานๆกับหุ้นที่กำไร แต่สุดท้ายถ้าขายหุ้นที่กำไรไม่เป็น ก็จะเข้ามาในวังวนที่ว่า "ซื้อได้แต่ขายไม่เป็น"

ความผิดพลาดทั้ง 8 ข้อ คงจะทำให้หลายคนๆ กลับมามองดูการลงทุนของตนเองบ้างแล้วว่าเราผิดพลาดอะไรตรงไหนบ้าง แล้วเราจะวางแผนเพื่อที่จะปรับแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร

บทความโดย : TerraBKK คลังความรู้

TerraBKK ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก