หากพูดถึงการหาที่อยู่อาศัยใจกลางเมืองที่ง่ายต่อการเดินทาง หลายคนคงนึกถึงการซื้อคอนโดในเมืองหรือติดรถไฟฟ้า แต่ทั้งนี้หากเป็นครอบครัวที่ไม่อยากอยู่ในห้องเล็กๆ อยากมีพื้นที่สำหรับกิจกรรมในครอบครัวบ้าง การซื้อคอนโดมิเนียมก็คงไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่นักในเรื่องการอยู่อาศัย อีกทั้งหากจะหาบ้านซักหลังใจกลางเมืองก็ไม่ใช่เรื่องง่าย น้อยหลังที่เจ้าของเดิมจะยอมปล่อยขายง่ายๆ แต่ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมานี้เราเริ่มได้เห็นผู้ประกอบการรายใหญ่บางราย หันมาทำตลาดบ้านเดี่ยว-ทาวน์เฮ้าส์ใจกลางเมืองกันมากขึ้น เพราะเป็นดีมานต์ที่มีคุณภาพ ผู้ซื้อเป็นผู้ที่ไม่มีความเสี่ยงในการถูกปฏิเสธสินเชื่อ ซึ่ง TerraBKK Research มองว่าในช่วง 1-2 ปีนี้จะเป็นปีทองของบ้านหรูใจกลางเมือง ที่ผู้ประกอบการเริ่มเห็นช่องว่างของตลาด และหากใครมีที่ดินทำเลทองอยู่ในมือ ก็หันมาทำโครงการแนวราบแทนคอนโดมิเนียม เพื่อกระจายความเสี่ยง และบริหารกระแสเงินสดของบริษัทได้ดียิ่งขึ้น

ทำไมต้องเป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์กลางเมือง?

เมื่อกล่าวถึงโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์ เรามักจะนึกถึงทำเลที่ตั้งที่อยู่ชานเมืองออกไป น้อยนักที่จะได้เห็นโครงการแนวราบในเมือง หากมีที่ดินแปลงสวยซักแปลง สิ่งที่เราจะได้เห็นก็คือพัฒนาคอนโดมิเนียมเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมานี้ เราก็ได้เห็นโครงการแนวราบใจกลางเมืองมากขึ้น ทำให้หลายคนสงสัยว่าทำไมจึงเป็นบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์? หากมองในแง่ของผู้ประกอบการ ปัจจัยหลักที่ผู้ประกอบการหันมาจับตลาดบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์กลางเมืองระดับ High-End คือ

1. "บ้าน" คืออสังหาฯในฝันของหลายคน ทุกคนย่อมอยากจะมีบ้านเป็นของตัวเองซักหลัง ไม่ว่าจะอยู่ในทำเลไหนก็ตาม การได้มีบ้านพร้อมที่ดินคือความฝันในชีวิต ที่คอนโดมิเนียมก็ไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการตรงนี้ได้

2. ดีมานต์สำหรับคอนโด High-End มีอยู่จำกัด ต้องยอมรับว่าโครงการคอนโดมิเนียมที่ขายกันตารางเมตรละ 200,000-300,000 บาท ขนาด 200 ตร.ม.ขึ้นไป มียอดขายที่ค่อนข้างช้า ด้วยดีมานต์ที่มีอยู่อย่างจำกัด ประกอบกับเศรษฐกิจในตอนนี้อยู่ในช่วงขาลง ต่างชาติที่มีอยู่ส่วนใหญ่เป็น expat ไม่ใช่ต่างชาติกระเป๋าหนัก และคนไทยน้อยคนนักที่จะซื้อคอนโดระดับ Super Luxury เก็บเอาไว้ เพราะส่วนใหญ่จะเช่ามากกว่า ผู้ประกอบการจึงหันมาทำโครงการแนวราบแทนคอนโดมิเนียม

3. โครงการสามารถขอสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ในแง่ของผู้ประกอบการที่จะทำโครงการแนวราบระดับ High-End สามารถขอสินเชื่อเพื่อพัฒนาโครงการได้ง่ายกว่าทำคอนโดมิเนียม เพราะสามารถสร้างไปขายไป ทยอยเบิกเงินกู้ และปลอดหนี้ ได้ปลอดภัยกว่า

4. การมุ่งจับลูกค้าตลาดบน ซึ่งเป็นผู้ที่ไม่มีความเสี่ยงในการถูกปฏิเสธสินเชื่อ ทำให้ความเสี่ยงของโครงการน้อยมาก อีกทั้งลูกค้ากลุ่มนี้เป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจน้อยที่สุด ไม่มีปัญหาแม้จะเกิดภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง เพราะลูกค้ากลุ่มนี้เมื่อตัดสินใจซื้อบ้าน ก็ต้องมีเงินสดสำรองอย่างน้อย 3 ล้านบาทนั่นเอง !!แน่นอน เมื่อผู้ซื้อมีเงินชัวร์ แบงค์ก็รีบอ้าแขนรับทันที

นอกจากนี้ คำตอบที่ได้รับจากบรรดาโครงการบ้านหรูกลางเมือง ที่ต่างก็ตอบตรงกันว่า ลูกค้าที่มาซื้อนั้น เป็นผู้ที่มีตำแหน่งหน้าที่การงานในระดับบริหารขึ้นไป และมองหาที่อยู่อาศัยในเมืองเป็นหลัก ส่วนใหญ่เปลี่ยนใจจากคอนโดฯมาเป็นบ้านแทน ด้วยราคาต่อตารางเมตรที่ถูกกว่า คุ้มกว่า นอกจากนี้ยังได้พื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง สามารถรองรับสมาชิกในครอบครัวได้อย่างเพียงพอ เพราะบ้านใจกลางเมืองส่วนใหญ่แล้วมักเป็นบ้าน 3-5 ชั้น ทำให้ได้พื้นที่ใช้สอยมากถึง 200-400 ตร.ม. นอกจากนี้ส่วนกลางที่ถูกจัดไว้อย่างครบครัน พร้อมกับการตกแต่งระดับ Luxury จึงไม่น่าแปลกใจที่หลายคนหันมาให้ความสนใจบ้านใจกลางเมืองแทนคอนโด

โครงการเด่น ในทำเลทอง

สำหรับทำเลที่น่าจับตาที่สุดคงหนีไม่พ้นใจกลางเมืองหรือย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) อย่างสีลม-สาทร-สุขุมวิท ทำเลที่เรียกได้ว่ายากที่สุดที่จะหาที่ดินไว้ปลูกสิ่งก่อสร้างใดๆได้ ซึ่งตอนนี้มีผู้ประกอบการบางรายเริ่มพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยว/ทาวน์เฮ้าส์ ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) เพื่อรองรับความต้องการของผู้มีรายได้สูงและต้องการหาบ้านที่อยู่ในเมือง ซึ่ง TerraBKK Research ได้รวบรวมโครงการบ้านเดี่ยว/ทาวน์เฮ้าส์สุดหรูที่ตั้งอยู่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) ที่ยังเปิดขายอยู่ โดยเรียงลำดับราคาน้อยไปหามาก ดังนี้

M_151117426-1

1. โครงการ อาร์เด้น พระราม 3 (Arden Rama 3)

arden-1

เพิ่งเปิดตัวกันไปไม่นานกับโครงการอาร์เด้น พระราม 3 จากอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ เป็นโครงการทาวน์เฮ้าส์ 3.5-4.5 ชั้น จำนวน 68 ยูนิต ด้วยราคาเริ่มต้น 12.5 ล้านบาท ถือเป็นโครงการแนวราบใจกลางเมืองที่มีระดับราคาสามารถจับต้องได้ ไม่สูงจนเกินไป อีกทั้งยังมีส่วนกลางที่ให้มาอย่างครบครัน ทั้ง Clubhouse, สระว่ายน้ำ ตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี บวกกับการตกแต่งภายใต้คอนเซปต์ Live Imagination ที่เน้นพื้นที่สีเขียวมากเป็นพิเศษ เปรียบเสมือนร่มไม้ที่อยู่ใจกลางเมือง ให้ผู้อยู่อาศัยได้รู้สึกสงบ ร่มรื่น หลบหนีจากความวุ่นวายจากในเมืองเมื่อเข้ามาอยู่ในโครงการ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่กำลังขยายครอบครัวได้เป็นอย่างดี ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่มากเพียงพอสำหรับทุกคนในครอบครัว ซึ่งหาไม่ได้ในคอนโดมิเนียม

จุดเด่น: การออกแบบโครงการที่ทันสมัย และแฝงไปด้วยความเป็นธรรมชาติ โดยมีแรงบันดาลใจมาจากสวน Eden ทำให้เกิดเป็น Art+Eden = Arden โดยผู้อยู่อาศัยจะได้สัมผัสถึงพื้นที่สีเขียวที่รายล้อมโครงการไว้ ซึ่งโครงการจะเน้นปลูกไม้ยืนต้นเป็นส่วนใหญ่ และเดินสายไฟฟ้าผ่านใต้ดินทั้งหมด เพื่อให้ต้นไม้ได้เติบโตอย่างเต็มที่ สามารถให้ความร่มรื่นได้ในระยะยาว

2. โครงการ ทาวน์วิลล่า พระราม 3 (Town Villa Rama3)

Townvilla

ทาวน์เฮ้าส์ High-End จากแอลพีเอ็น ตั้งอยู่ในโครงการเดียวกับคอนโดมิเนียม ลุมพินี พาร์ค ริเวอร์ไซด์ พระราม 3 เป็นทาวน์เฮ้าส์ 4.5 ชั้น จำนวน 20 ยูนิต ด้วยราคาเริ่มต้น 15.6 ล้านบาท ตกแต่งด้วยดีไซน์ Modern Tropical โดดเด่นด้วยทำเลริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถือเป็นทำเลหายากสำหรับโครงการแนวราบทำเลหนึ่ง อีกทั้งพระราม 3 ยังเป็นโซนที่เชื่อมกับย่านธุรกิจอย่างสีลม-สาทรกับฝั่งธนบุรี สะดวกสบายทั้งการเดินทางเข้าสู่ตัวเมือง หรือออกไปยังชานเมือง ทำให้เหมาะที่จะเป็นทั้งที่พักอาศัยเพื่อเดินทางไปทำงาน และเป็นที่พักผ่อนริมแม่น้ำไปพร้อมๆกัน

จุดเด่น: ทำเลที่ตั้งที่อยู่ริมแม่น้ำ เหมาะสำหรับเป็นทั้งที่อยู่อาศัยและที่พักผ่อน อีกทั้งบรรยากาศภายในโครงการที่ร่มเย็นด้วยลมจากแม่น้ำ ทำให้มีความร่มรื่น อยู่สบาย แม้แต่ Facilities ส่วนกลางทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ก็ยังเป็นจุดชมวิวแม่น้ำแบบ panorama เช่นกัน

3. โครงการ พาร์ค พรีว่า (Parc Priva)

Parc-Priva-1

โครงการบ้านเดี่ยวระดับ Super Luxury จากนารายณ์ พร็อพเพอร์ตี้ เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น จำนวน 60 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 34 ล้านบาท โครงการตั้งอยู่ในย่านพระราม 9 ที่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็น New CBD รายล้อมไปด้วยศูนย์การค้าและสำนักงาน ที่เริ่มเปิดตัวกันอย่างคึกคัก สามารถเดินทางเชื่อมต่อสู่ใจกลางเมืองได้ง่าย ตอบโจทย์กลุ่มครอบครัวที่ใช้ชีวิตในเมือง และต้องการความเป็นส่วนตัว

จุดเด่น:การออกแบบที่เน้นการชมสวนรอบบ้าน ด้วยการออกแบบเป็น L-Shape เพื่อให้สามารถชมวิวสวนได้ทุกห้อง โดยบ้านทุกแบบจะมี Private Courtyard อยู่ทางด้านหลังของบ้าน และไม่ตรงกับหน้าต่างของเพื่อนบ้าน เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัยมากขึ้น

4. โครงการ Quarter 39

Quarter39

โครงการทาวน์เฮ้าส์สุดหรูจาก NYE Estate บริษัทในเครือนารายณ์ พร็อพเพอร์ตี้ ที่เน้นโครงการระดับ Super Luxury เป็นหลัก หนึ่งในโครงการ QUARTER Collection Residences in Sukhumvit โดยโครงการ Quarter 39 เป็นทาวน์เฮ้าส์ 4 ชั้น ด้วยจำนวนจำกัดเพียง 15 ยูนิตเท่านั้น ราคาเริ่มต้น 38 ล้านบาท ตั้งอยู่ใน Prime area สุขุมวิท 39 เรียกได้ว่าเป็นใจกลางเมือง ที่สะดวกสบายทุกเส้นทาง พร้อมด้วยการออกแบบร่มรื่นเน้นพื้นที่สีเขียว ให้ความสงบร่มรื่นเมื่ออยู่ภายในโครงการ

จุดเด่น:ทำเลที่ตั้งอยู่ใน Prime area ใจกลางสุขุมวิท เชื่อมต่อได้หลายเส้นทางทั้งอโศก สุขุมวิท ทองหล่อ และเพชรบุรี อยู่ท่ามกลางศูนย์การค้าชั้นนำหลายแห่ง ทั้งดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์ และ ดิ เอ็มสเฟียร์

5. โครงการ Quarter 31

Quarter31

โครงการล่าสุดจาก NYE Estate หนึ่งในโครงการ QUARTER Collection Residences in Sukhumvitเช่นกัน โดยโครงการ Quarter 31 เป็นทาวน์เฮ้าส์ 3.5 ชั้น จำนวน 20 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 44.3 ล้านบาท แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดมาก แต่ก็เมื่อพิจารณาจากทำเลที่ตั้งแล้ว จะเห็นได้ว่าเป็นโครงการที่อยู่ในทำเลที่ดีที่สุดในบรรดา Collection Quarter โดยตั้งอยู่ช่วงกลางซอยสุขุมวิท 31 ที่ถือว่าไม่ไกลจากถนนสุขุมวิทมากนัก

จุดเด่น: ถือเป็นโครงการที่ตั้งอยู่ในสุดยอดทำเล ใกล้ถนนสุขุมวิทที่ถือเป็นถนนสายหลักในย่านใจกลางเมือง และอยู่ท่ามกลางศูนย์การค้าชั้นนำอย่างดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์ และ ดิ เอ็มสเฟียร์

6. โครงการ Quarter ทองหล่อ

Quarter-Thonglor

อีกหนึ่งโครงการใน QUARTER Collection Residences in Sukhumvitซึ่งเป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ราคาเริ่มต้น 58.8 ล้านบาท และ Exclusive สุดๆเพราะมีเพียง 8 ยูนิตเท่านั้น เป็นสุดยอดโครงการบ้านเดี่ยวที่อยู่ในทำเลทองหล่อ ที่ยากจะพัฒนาเป็นโครงการแนวราบได้อีก ซึ่งพื้นที่โดยรอบถูกพัฒนาจนเต็มพื้นที่แล้ว โครงการนี้จึงถือว่าเป็นสินค้าหายากในปัจจุบัน หากมองในแง่การลงทุน การซื้อโครงการ Quarter ทองหล่อที่ได้ทั้งบ้านพร้อมที่ดิน ก็จะสามารถเพิ่มมูลค่าที่ดินได้อย่างสูงมากในอนาคต

จุดเด่น: โครงการแนวราบหนึ่งเดียวที่ตั้งอยู่ในทำเลทองย่านทองหล่อ แวดล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อีกทั้งที่ดินที่มีอยู่อย่างจำกัด ยากที่จะพัฒนาเป็นโครงการแนวราบได้อย่าง Quarter ทองหล่อได้อีก

7. โครงการ 749 Residence

749

เป็นอีกโครงการที่ยังเกาะอยู่ตามแนวเส้นถนนสุขุมวิทกับโครงการ 749 Residence ทาวน์เฮ้าส์ 5 ชั้น พร้อมชั้นลอยและสวนดาดฟ้า ตกแต่งในสไตล์ French Art Nouveau ราคาเริ่มต้น 65 ล้านบาท ที่มีเพียง 7 ยูนิตเท่านั้น ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 49 ที่ถือว่าเป็นใจกลางสุขุมวิท สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย แวดล้อมไปด้วยศูนย์การค้าชั้นนำมากมาย

จุดเด่น: ทำเลที่ตั้งอันโดดเด่นอยู่ในซอยสุขุมวิท 49/1 ซึ่งห่างจากถนนสุขุมวิทสายหลักเพียง 750 เมตร นอกจากนี้การที่โครงการตั้งอยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 47 และ 49 ทำให้สามารถออกได้ 2 ทาง สามารถเดินทางออกมายังถนนสุขุมวิทได้ง่ายขึ้น

8. โครงการ มิวส์ เย็นอากาศ (Mews Yen Akat)

mews-1

โครงการบ้านเดี่ยวระดับ Super Luxury ใจกลางเมืองแห่งแรกของไรมอน แลนด์ เป็นบ้านเดี่ยว 4ชั้น ในราคาเริ่มต้น 75 ล้านบาท ด้วยจำนวนเพียง 9 ยูนิต ตั้งอยู่ในซอยเย็นอากาศ ใกล้กับถนนพระราม 3 ตกแต่งด้วยดีไซน์แบบทรอปิคอล ผสานกับการออกแบบภายใน ไม่ว่าจะเป็น พื้นที่ Loft Space ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบ สระว่ายน้ำส่วนตัว และสวนธรรมชาติทั้งด้านล่าง และดาดฟ้า

จุดเด่น: ทำเลเย็นอากาศถือเป็นย่านที่พักแสนสงบที่น่าอยู่ที่สุด ด้วยความเป็นชุมชนพักอาศัย เงียบสงบ อากาศดี และไม่พลุกพล่านจนเกินไป สมชื่อกับคำว่า "เย็นอากาศ" อีกทั้งการคมนาคมที่สามารถเข้าสู่สีลม-สาทรได้อย่างง่ายดาย ทำให้ย่านนี้น่าอยู่ที่สุดสำหรับเศรษฐีกระเป๋าหนัก

จากทั้ง 8 โครงการนี้ TerraBKK Research ขอสรุปมาเป็นตารางด้านล่าง ดังนี้

Data_Segment_housing

เปิดบ้านระดับ High-End ราคามากกว่า 50 ล้านบาท แม้เศรษฐกิจในปีที่ผ่านมาไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่นัก หลายธุรกิจเริ่มปิดตัวลงไป แต่ในปี 2558 ผู้ประกอบการบางรายยังคงขยายตลาดไปยังบ้านแพงอยู่ เหตุผลเนื่องจากบ้านเดี่ยว High-End (ราคามากกว่า 50 ล้านบาท) ไม่อ่อนไหวไปตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ แม้จะมี Demand ที่ไม่มากนัก แต่ลูกค้าที่มาซื้อก็เป็น real demand ไม่ได้เป็นการซื้อเพื่อเก็งกำไร

บทความโดย : TerraBKK คลังความรู้

TerraBkk ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก