ประเทศไทยเป็นเมืองร้อนแถบเส้นศูนย์สูตรที่หลายคนให้คำนิยามว่า ที่นี่มี 3 ฤดู ร้อน ร้อนมาก และร้อนที่สุด แม้เราจะมีนวัตกรรมที่ใช้เพื่อต่อสู้กับความร้อน เช่นฉนวนกันความร้อน เครื่องปรับอากาศ แต่สิ่งของเหล่านี้มีวันชำรุดซึ่งเป็นที่มาของค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น การทำที่อยู่อาศัยให้ได้รับลมที่เพียงพออยู่เสมอจึงเป็นการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนกว่า
เลือกตำแหน่งจากทิศทางลม การสร้างบ้านใหม่ให้มีอากาศถ่ายเทเสมอไม่ใช่เรื่องยาก เพียงรู้ทิศทางลมและจัดแปลนให้สัมพันธ์กันก็จะช่วยให้บ้านทั้งหลังเป็นบ้านที่เย็นสบายได้ โดยลมที่่พัดผ่านประเทศไทย มีทิศทางซึ่งสัมพันธ์กับช่วงเวลา ดังต่อไปนี้
ตุลาคม - มกราคม ลมมรสุมสุมฤดูหนาว
      ผัดผ่านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
กุมภาพันธ์ - มิถุนายน ลมมรสุมฤดูร้อน
      พัดผ่านทิศใต้และตะวันออกเฉียงใต้
กรกฎาคม - กันยายน ลมฝน
    พัดผ่านทิศใต้และทิศตะวันตกเฉียงใต้
จากจุดนี้ เราจะเห็นได้ว่าทิศที่ได้รับลมมากที่สุดคือทิศใต้ ซึ่งจะได้รับลมถึง 8 เดือน ส่วนทิศเหนือ จะได้รับลมเพียง 4 เดือน เท่านั้น ดังนั้นทิศที่เหมาะที่สุดที่ควรหันหน้าบ้านไป คือ ทิศใต้

รูปทรงเป็นสิ่งสำคัญ แปลนบ้านที่เหมาะกับการรับลมที่สุดควรเป็นบ้านที่มีรูปทรงเป็น 4 เหลี่ยมผืนผ้า ทอดตัวจากหน้าบ้านทิศใต้ สู่หลังบ้านที่อยู่ทิศเหนือ หากสัดส่วนของบ้านเป็น 1 : 3 ได้จะดีที่สุด แต่ถ้ามีข้อจำกัดด้านที่ตั้ง ควรแก้ไขด้วยการจัดให้มีหน้าต่างหรือช่องระบายอากาศในทิศเหนือและทิศใต้ให้มากที่สุด
หน้าต่าง สิ่งที่ช่วยให้ลมเข้ามาในบ้านได้มากที่สุดคือหน้าต่าง หน้าต่างเป็นช่องรับและะบายลมที่ะดวกที่สุด หน้าต่างที่ดีควรอยู่ในทิศเหนือและใต้ซึ่งเป็นทิศที่ได้รับลมเย็น ควรหลีกเลี่ยงหน้าต่างในทิศตะวันออกและทิศตะวันตก เพราะเป็นทิศที่ได้รับความร้อนจากแสงแดดในปริมาณมากทั้งวัน เป็นการสะสมแดดโดยไม่รู้ตัว
หน้าต่างที่รับลมดีที่สุดคือหน้าต่างแบบบานพับ ซึ่งจะเปิดโล่งกว่าแบบบานเกล็ด

หลังคา เป็นส่วนที่ได้รับความร้อนมากที่สุดทั้งวันและทุกวัน ควรทำเพดานให้สูงโปร่ง เพื่อให้ความร้อนจากหลังคาไม่ลงมาที่ผู้อยู่อาศัย หากเป็นไปได้ควรติดฉนวนกันความร้อนไว้ใต้หลังคา หลังคาทรงจั่ว จะช่วยสะท้อนความร้อนได้ดีกว่าหลังคาทรงแบน เช่นหลังคาดาดฟ้าเป็นต้น
สิ่งแวดล้อม แม้ทิศใต้จะเป็นทิศที่ดีที่สุดสำหรับการหันหน้าบ้านเพื่อรับลม แต่ในปัจจุบันข้อจำกัดในการสร้างบ้านมีมากมาย เพราะบ้านจะจัดวางตามถนนเป็นหลัก ทำให้บางหลังต้องหันหน้าไปในทิศที่ไม่เหมาะกับทางลม หรือแม้จะได้หันไปในทิศที่ดี แต่ถ้ารอบๆ มีอาคารสูงบังทิศทางลม มีแม่น้ำผ่านด้านหลัง การวางแปลนที่เหมาะสมในการสร้างบ้านเพื่อรับลมก็จะต้องเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมนั้นๆ ด้วย

ปลูกต้นไม้ช่วยได้เยอะ ต้นไม้คือที่มาของออกซิเจน และความร่มเย็นแบบไม่ต้องลงทุนมาก บ้านไหนปลูกต้นไม้ช่วยบังแดด บ้านนั้นก็จะอยู่สบายหายใจคล่องกว่าบ้านที่ตั้งอยู่ในที่โ,่ง แต่การปลูกต้นไม้ก็มีข้อควรระวังคือ อย่าปลุกในทิศทางที่ังลม เพราะนอกจากจะทำให้บ้านร้อนขึ้นแล้ว ยังเสี่ยงต่อการล้มทับบ้านอีกด้วย
เมื่อสร้างบ้านให้รับลมได้อย่างเหมาะเจาะแล้ว ย่อมทำให้บ้านทั้งหลังเย็นฉ่ำไม่ง้อเครื่องปรับอากาศ

บทความโดย : TerraBKK.com