การสร้างครอบครัวมีส่วนประกอบอยู่ไม่กี่อย่าง ได้แก่ สมาชิกในครอบครัวและที่อยู่อาศัยร่วมกัน ข้อหลังสำหรับพ่อกับแม่แล้วไม่เป็นปัญหามากนัก เนื่องจากทั้งคู่อยู่ในวัยที่ตัดสินใจเองได้ จึงสามารถเลือกสิ่งที่ชอบหรือเหมาะสมให้กับตนเองได้ แต่สำหรับเด็กแล้วยังไม่อยู่ในวัยที่จะเลือกอะไรแบบนั้นได้ จึงเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ที่จะต้องเป็นผู้เลือกให้             ห้องเด็กหรือห้องลูก ไม่ได้แตกต่างจากห้องผู้ใหญ่แค่ใช้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็กกว่าเท่านั้น แต่ยังต้องจัดห้องโดยคำนึงถึง 2 สิ่งเป็นสำคัญ คือความปลอดภัย และพัฒนาการที่ดี การจึงมีข้อควรปฏิบัติและข้อควรระวังดังนี้             สีสันสดใส ช่วยเสริมจินตนาการ ห้องเด็กควรมีสีที่สดใสหรือสว่างๆ ไว้ก่อน เพราะสภาพแวดล้อมมีอิทธิพลต่อสมาธิ และช่วยมีผลต่อสติปัญยา สีอ่อนจะช่วยให้สมองปลอดโปร่ง เหมาะกับการอ่านหนังสือมากกว่าสีเข้ม             ตั้งโต๊ะเขียนหนังสือในจุดที่มีแสงสว่างเพียงพอ เพื่อสุขภาพสายตาที่ดีและแสงแดดในตอนเช้ายังมีวิตามินดี ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมอีกด้วย             ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ไม่มีขอบหรือเหลี่ยมคม เพราะเด็กคือวัยที่กำลังซน ชอบปีนป่าย ท้าทายหาประสบการณ์ จึงเป็นวัยที่เสี่ยงต่ออุบัติเหตุทั้งเล็กน้อยและใหญ่ๆ ได้ง่าย             จัดเป็นพื้นที่ปลอดภัย ไม่มีกระจก สวิตช์ไฟ ปลั๊ก หรือของมีคมในระยะเอื้อมถึง เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้             เฟอร์นิเจอร์ทำความสะอาดง่าย เพราะเด็กๆ เป็นวัยที่กำลังสนุกกับชีวิต จึงไม่มาระวังเรื่องเลอะเทอะ อาจทำให้เฟอร์นิเจอร์ในห้องดูสกปรกได้             วัสดุปลอดสารพิษ เราต่างทราบกันดีว่าเด็กเป็นวัยที่บอบบาง และมีภูมิคุ้มกันต่อสารพิษน้อยกว่าผู้ใหญ่ จึงควรเลือกใช้วัสดุก่อสร้างเช่นสี ผนัง พื้น ที่ปลอดสารพิษ

            พ่อแม่เป็นคนสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการลูก ความใส่ใจเลือกสรรจากครอบครัว ย่อมทำให้เด็กเติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพ