TerraBKK Research ได้รวบรวม P/E Ratio (หรือแปลเป็นไทยว่า อัตราส่วนราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเพื่อสะท้อนว่า ราคาหุ้นของบริษัทเมื่อเปรียบเทียบกับกำไรต่อหุ้นที่บริษัททำได้ เราใช้ P/E Ratio เพื่อดูราคาหุ้นว่ามีความเหมาะสมมากน้อยเพียงใด แล้วเราจะนำ P/E Ratio ไปใช้ประโยชน์อย่างไร

จากสูตร เราจะเห็นว่า P/E จะสามารถเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้จาก 2 กรณีคือ 1.ราคาหุ้นเปลี่ยน 2.กำไรต่อหุ้นเปลี่ยน

ถ้า P/E มีค่ามากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น หุ้น P/E จาก 15 เท่า เพิ่มขึ้นเป็น 20 เท่า เป็นไปได้ 2 กรณี

  1. ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น จากการคาดการณ์ของนักลงทุนว่า กำไรของบริษัทในอนาคตต้องเติบโตสูง ทำให้ราคาหุ้นสะท้อนกำไรในอีก 20 ปีข้างหน้าเอาไว้แล้ว นั่นคือ คุณกำลังซื้อบริษัทนี้ในมูลค่าอีก 20 ปีข้างหน้านั่นเอง
  2. กำไรต่อหุ้นปรับตัวลดลง ทำให้ผู้ถือหุ้นต้องใช้เวลาคุ้มทุนเพิ่มขึ้น 5 ปีหรือใช้เวลาถึง 20 ปีจึงจะคุ้มทุน (P/E จาก 15 เท่า เพิ่มขึ้นเป็น 20 เท่า)

ถ้า P/E มีค่าน้อยลง ยกตัวอย่างเช่น หุ้น P/E จาก 15 เท่า ลดลงเป็น 10 เท่า เป็นไปได้ 2 กรณี

  1. ราคาหุ้นปรับตัวลดลง จากการคาดกาณ์ของนักลงทุนว่า กำไรของบริษัทในอนาคตอาจจะลดลง ทำให้ราคาหุ้นถูกเทขายปรับตัวลดลง ถ้าหากกำไรไม่ปรับตัวลดลงตามที่นักลงทุนคาดการณ์ก็จะทำให้นักลงทุนที่เห็นโอกาสสามารถซื้อหุ้นได้ในราคา Discount
  2. กำไรต่อหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ถือหุ้นใช้เวลาคืนทุนจากกิจการลดลง จาก 15 ปี เหลือเพียง 10 ปีเท่านั้น

P/E Ratio เป็นอีกเครื่องมือพื้นฐานหนึ่งที่น่าสนใจเพื่อใช้สำหรับการวัดความเหมาะสมของราคาว่าถูกไปหรือแพงไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับศักยภาพของกิจการในอนาคตด้วย บางบริษัท P/E สูงมาก หลายร้อยเท่าแต่ปีนั้นธุรกิจสามารถทำผลกำไรได้สูงสุดตั้งแต่เคยก่อตั้งมา โดยอาจจะเกิดจากบริษัทนั้นเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจไปทำธุรกิจอื่นหรืออาจจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ทำให้บริษัทประสบความสำเร็จมากจนทำให้กำไรในปีนั้นเติบโตเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว จะทำให้จาก P/E สูงๆปรับตัวลดลงเหลือเพียงไม่ถึง 10 เท่าก็ได้ ดังนั้น การดูเพียง P/E Ratio โดยไม่มีความรู้เกี่ยวกับธุรกิจนั้นๆเลยอาจจะทำให้การตัดสินใจผิดพลาดได้

กรณีพิเศษ สำหรับหลักทรัพย์บางตัวที่มีค่า P/E Ratio สูงจนผิดปกติบางตัวมีค่า P/E Ratio สูงถึงหลักพัน หลักหมื่นเลยทีเดียว ส่วนใหญ่เกิดจากการไล่ราคาหุ้นแบบผิดปกติ โดยในช่วงที่ผ่านมามี “หุ้นร้อน”จำนวนมากที่ถูกปั่นทำให้มีราคาสูงผิดปกติจากพื้นฐานของกิจการ นักลงทุนที่ลงทุนในหุ้นเหล่านี้ต้องพึงระวังเสมอว่าหุ้นที่ท่านกำลังถืออยู่นั้นอาจจะไม่สามารถทำกำไรได้อย่างที่ราคาหุ้นได้สะท้อนออกมา

จากข้อมูล ณ วันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2558 TerraBKK Research ได้รวบรวมหุ้นที่มี P/E Ratio สูงที่สุดในช่วงตลาดร้อนแรงที่ผ่านๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นหุ้นที่วิ่งเกินกว่าพื้นฐานแทบทั้งสิ้นบางกิจการกำไรต่อหุ้นลดลงแต่ราคากลับสูงขึ้นซึ่งจะผลักดันให้ P/E Ratio สูงขึ้นไปอีก หุ้นเหล่านั้นอะไรบ้าง มีดังต่อไปนี้

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)

1.GENCO : GENERAL ENVIRONMENTAL CONSERVATION บริษัทและบริษัทย่อยดำเนินธุรกิจในการให้บริการจัดการบำบัดและกำจัดกากอุตสาหกรรมจากกิจการอุตสาหกรรมต่าง ๆ

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)

2.EE : ETERNAL ENERGY PUBLIC COMPANY LIMITED ประกอบธุรกิจพลังงานทดแทน คือผลิตเอทานอลใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)

3.CHOTI : KIANG HUAT SEA GULL TRADING FROZEN FOOD ผู้ผลิตและส่งออกกุ้งแช่แข็ง

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)

4.WORK : WORKPOINT ENTERTAINMENT ผลิตรายการโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ ตัดต่อภาพ Animation ภาพยนตร์ ละครเวทีและคอนเสิร์ต และรับจ้างจัดงาน

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)

5.IEC : THE INTERNATIONAL ENGINEERING จำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และผลิตภัณฑ์วิศวกรรม และบริการติดตั้งและพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)

6.NWR : NAWARAT PATANAKARN ประกอบธุรกิจหลักรับเหมาก่อสร้างงานวิศวกรรมโยธาทุกประเภท และผลิตเสาเข็มคอนกรีตอัดแรง และผลิตภัณฑ์คอนกรีตอื่น รวมทั้งผลิตเหล็กแปรรูป ใช้เป็นวัสดุในธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และจำหน่ายให้กับลูกค้าภายนอก

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)

7.RCI : THE ROYAL CERAMIC INDUSTRY ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องเซรามิคปูพื้น กระเบื้องบุผนังชนิดต่าง ๆ จำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)

8.IFEC : INTER FAR EAST ENGINEERING จำหน่าย/ให้เช่า เครื่องใช้สำนักงานอิเล็กทรอนิกส์ ,ผลิตและจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า ,ธุรกิจกำจัดขยะ

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)

9.PRINC : PRINCIPAL CAPITAL พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ให้เช่าอาคารที่พักอาศัย บริหารอาคารสำนักงานแบบครบวงจร ให้บริการติดตั้ง และบำรุงรักษา ระบบสารสนเทศ

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)

10.MONO : MONO TECHNOLOGY บริษัทและบริษัทย่อยแบ่งการประกอบธุรกิจออกเป็น 2 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ กลุ่มธุรกิจสื่อและการให้บริการข้อมูล ประกอบด้วยธุรกิจบริการเสริมบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ ธุรกิจสื่ออินเทอร์เน็ต ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ ธุรกิจสื่อทีวี ธุรกิจสื่อวิทยุ และกลุ่มธุรกิจการให้บริการด้านบันเทิง ประกอบด้วยธุรกิจเพลง และธุรกิจภาพยนตร์

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)

11.VARO : VAROPAKORN ดำเนินธุรกิจอุตสาหกรรมอลูมิเนียมด้วยการนำเข้าอลูมิเนียมแท่ง (Ingot) มาเข้ากระบวนผลิตและแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อลูมิเนียมประเภทแผ่นและม้วนชนิด ต่าง ๆ จำหน่ายให้กับผู้ผลิตอื่น ซึ่งจะนำไปผลิตสินค้าต่อ หรือเป็นส่วนประกอบในการผลิตสินค้าประเภทอื่น ๆ ต่อไป โดยบริษัทฯ ผ่านการรับรองมาตรฐาน ISO 9001:2008 , ISO 14001:2004

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)

12.LRH : LAGUNA RESORTS & HOTELS ธุรกิจหลักของบริษัทฯ และบริษัทย่อย คือ ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ บริษัทย่อยยังประกอบธุรกิจสนามกอล์ฟ ธุรกิจร้านขายสินค้า ธุรกิจให้เช่าพื้นที่อาคารสำนักงานและรีสอร์ท และธุรกิจขายสิทธิการพักในที่พักตากอากาศ

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)

13.BROCK : BAAN ROCK GARDEN พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านจัดสรรเพื่อจำหน่าย ในกรุงเทพมหานคร ภูเก็ตและสมุทรปราการ

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)

14.SOLAR : SOLARTRON ผลิตและจำหน่ายแผงเซลล์แสงอาทิตย์แบบต่าง ๆ และให้บริการออกแบบและติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์ทุกรูปแบบ ทั้งในและต่างประเทศ

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)

15.TRUE : TRUE CORPORATION กลุ่มทรู แบ่งกลุ่มธุรกิจหลักเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย (1) ธุรกิจออนไลน์ ภายใต้ทรูออนไลน์ ประกอบด้วย บริการโทรศัพท์พื้นฐานและบริการเสริมต่างๆ บริการโครงข่ายข้อมูล บริการอินเทอร์เน็ต และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง หรือบริการบรอดแบนด์สำหรับลูกค้าทั่วไป บริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย (WiFi) และบริการ WE PCT (บริการโทรศัพท์พื้นฐานใช้นอกสถานที่) (2) ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ภายใต้กลุ่มทรูโมบาย ให้บริการระบบ 2G 3G และ 4G LTE ภายใต้แบรนด์ ทรูมูฟ และทรูมูฟ เอช โดยบริการ CDMA ถูกปิดอย่างเป็นทางการเมื่อเมษายน 2556 (3) ธุรกิจโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก ภายใต้ชื่อ ทรูวิชั่นส์ทั้งนี้ สำหรับผลประกอบการด้านการเงินของธุรกิจคอนเวอร์เจนซ์และอื่น ๆ ซึ่งรวมธุรกิจค้าปลีกสำหรับแพ็กเกจที่รวมผลิตภัณฑ์ภายในกลุ่มทรูเข้าด้วยกัน จะถูกรวมอยู่ในกลุ่มธุรกิจของทรูออนไลน์

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)

16.KC : K.C. PROPERTY พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในลักษณะ โครงการบ้านเดี่ยวทาวน์เฮ้าส์ และรับจ้างก่อสร้างบ้าน ในระดับราคาปานกลาง โดยเน้นทำเลด้านตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงเทพฯ

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)

17.AI : ASIAN INSULATORS ผลิตและจำหน่ายลูกถ้วยไฟฟ้าเพื่อใช้ในกิจการไฟฟ้าและพลังงาน โดยมีบริษัทย่อย 3 บริษัท ดำเนินธุรกิจให้บริการท่าเรือและคลังสินค้า ขนส่งสินค้าทางบกและทางทะเล ผลิตและจำหน่ายพลังงานทดแทน

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)

18.SFP : SIAM FOOD PRODUCTS ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์สับปะรดบรรจุกระป๋อง ผลไม้รวมบรรจุกระป๋อง นำสับปะรดเข้มข้นบรรจุในถุงปลอดเชื้อ

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)

19.CGD : COUNTRY GROUP DEVELOPMENT พัฒนาอสังหาริมทรัพย์

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)

20.TGPRO : THAI-GERMAN PRODUCTS ผลิตและจำหน่ายท่อสแตนเลส แผ่นสแตนเลส เพลาสแตนเลส และอุปกรณ์สแตนเลสภายใต้เครื่องหมายการค้า TGPRO เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตทั่วไป เช่น อุตสาหกรรมน้ำตาล อาหาร ยาและเคมีภัณฑ์ และใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้างในส่วนของการตบแต่งอาคารและเฟอร์นิเจอร์ - เทอร์ร่า บีเคเค

(คลิ๊กที่ภาพเพื่อขยาย)

บทความโดย : TerraBKK คลังความรู้

TerraBKK ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก