ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายปีที่ผ่านมาวงการอาคารสำนักงานเปลี่ยนแปลงไปมากตามเทรนด์การทำงานใหม่ๆ ที่เปลี่ยนไป อาคารสำนักงานที่ดีไม่เพียงแค่ต้องมีพื้นที่ใช้สอยที่ยืดหยุ่น ใช้งานได้คุ้มค่าทุกตารางเมตร ได้มาตรฐานสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังต้องส่งเสริมให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุขในการทำงานอีกด้วย

นั่นจึงทำให้อาคารสำนักงานเกรด A ระดับลักชัวรี่ใหม่ๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2024 ได้รับการจับตามองว่าจะพลิกโฉมตลาดอสังหาฯ

ด้วยแนวคิดการออกแบบและเทคโนโลยีระดับเวิลด์คลาสที่จะทำให้คุณภาพชีวิตการทำงานของคนรุ่นใหม่ดีขึ้นในรูปแบบไหน?

ไม่ว่าจะเป็นโครงการเมกะโปรเจกต์มิกซ์ยูสอย่าง One Bangkok ที่มีแผนจะเปิด “ออฟฟิศ Tower 4” ฝั่งถนนวิทยุเป็นอาคารแรกในช่วงกลางปี 2024 บนพื้นที่ 108 ไร่

หรืออาคารสำนักงาน Central Park Offices ในโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค โครงการมิกซ์ยูสระดับลักชัวรี่ ที่มีแผนจะเปิดไตรมาสสองปี 2025

แม้แต่อาคารสำนักงานพื้นที่ Fringe CBD ยุคสมัยใหม่ ก็ยังมีการยกระดับรูปแบบเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานอาคารที่ดียิ่งกว่า การออกแบบแฟซิลิตี้ที่ครบครัน การจัดเต็มระบบสาธารณูปโภค การสร้างอาคารที่ได้มาตรฐานสีเขียวในระดับสากล เพื่อให้ได้อาคารที่มีศักยภาพสูงไม่แพ้อาคารสำนักงานใจกลาง CBD ซึ่งไม่เพียงส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานที่ดีของพนักงานเท่านั้น แต่ยังรองรับคุณภาพชีวิตที่ดีของคนยุคใหม่ด้วย

อาคารในเมืองที่มีทางเลือกได้มากกว่า หรือ Fringe CBD หลายพื้นที่สามารถเข้าถึงระบบขนส่งมวลชนที่สะดวกสบาย เดินทางเข้าสู่ย่านศูนย์กลางธุรกิจได้อย่างง่ายดาย ขณะเดียวกันก็ใกล้แหล่งซัพพลายเชน มีพื้นที่การทำงานกว้างขวาง ไม่แออัด จึงไม่น่าแปลกใจที่ทำให้เกิดเทรนด์ใหม่สำหรับบริษัทที่มีออฟฟิศใน CBD อยู่แล้ว แต่มองหาออฟฟิศแห่งที่ 2 เพิ่มในย่านใกล้ CBD รวมถึงการย้ายจากอาคารห้องแถวไปใช้อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพ Fringe CBD เพื่อเพิ่มประโยชน์ด้านการสร้างภาพลักษณ์ขององค์กร และสามารถบริหารต้นทุนค่าเช่าอาคารสำนักงานได้ดีกว่า

ปรากฏการณ์เหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงอาคารสำนักงานเกรด A ยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไป เช่นเดียวกับ KingBridge Tower (คิงบริดจ์ ทาวเวอร์) อีกหนึ่งอาคารสำนักงานระดับ Iconic Grade A Office ใจกลางพระราม 3 วิวสะพานภูมิพลและแม่น้ำเจ้าพระยา พัฒนาโดย บริษัท คิงบริดจ์ ทาวเวอร์ บริษัทในเครือสหพัฒน์

KingBridge Tower ความภูมิใจของคนไทย กับ Fitwel มาตรฐานระดับโลกสูงสุด 3 ดาว อาคารแรกในไทยและเอเชีย

KingBridge Tower เป็นอาคารสำนักงานให้เช่า Iconic Grade A สูง 52 ชั้น (255 เมตร) มีพื้นที่ในโครงการกว่า 44,500 ตร.ม. จัดเป็นอาคารสูงที่สุดในย่านพระราม 3 ที่ทางผู้พัฒนาตั้งใจออกแบบมาให้เป็นสถาปัตยกรรมเคียงคู่สะพานภูมิพล จากการร่วมมือของ A49 ทีมออกแบบแถวหน้าของเมืองไทย และ Mott MacDonald บริษัทวิศวกรที่ปรึกษาระดับโลก ที่ปรึกษาร่วมในการออกแบบสะพานภูมิพล เพื่อให้ คิงบริดจ์ ทาวเวอร์ เป็น Iconic building สัญลักษณ์แห่งใหม่ที่โดดเด่นสง่างามด้วยวิวแม่น้ำเจ้าพระยา และสร้างสรรค์ให้ที่นี่เป็น Ultimate Workplace Experience แห่งใหม่ของย่านพระราม 3 ที่มีคุณภาพทัดเทียมกับตึก Grade A ใจกลางเมือง        

ปัจจัยที่ทำให้ KingBridge Tower น่าตื่นเต้นจนกล่าวได้ว่าเป็นการสร้างปรากฏการณ์หน้าใหม่ให้กับอาคารสำนักงานของไทยและเอเชีย นั่นคือ KingBridge Tower เป็นอาคารหลังแรกในไทยและเอเชีย ที่คว้า Fitwel มาตรฐานระดับโลกสูงสุด 3 ดาว ประเภท Multi-Tenant Base Building ซึ่งเป็นเครื่องการันตีว่าอาคารแห่งนี้ส่งเสริมสุขภาวะที่ดีต่อผู้ใช้อาคาร เพื่อให้ทุกคนที่อยู่ที่แห่งนี้มีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดี

ทั้งนี้ Fitwel คือมาตรฐานระดับสากล ก่อตั้งโดยกรมควบคุมโรคสหรัฐอเมริกา (CDC) และดำเนินการโดย Center for Active Design (CfAD) มีเป้าหมายที่จะสร้างสภาพแวดล้อมเพื่อสุขภาวะที่ดีของผู้ใช้งานและชุมชนโดยรอบ ฉะนั้นอาคารที่ได้รับการรับรองมาตรฐานนี้จึงแสดงถึงการให้ความสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตให้ผู้ใช้งานอาคารทั้งในช่วงเวลาทำงานหรือนอกเวลาทำงาน โดยพื้นที่ใช้สอยในอาคารได้รับการออกแบบให้สามารถรองรับการใช้งานที่ยืดหยุ่นและหลากหลาย เพิ่มความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของผู้ใช้อาคาร รวมถึงการเพิ่มพื้นที่สวนเพื่อเชื่อมโยงระหว่างผู้ใช้อาคารกับธรรมชาติ

ไม่เพียงจะคว้า Fitwel มาตรฐานระดับโลกสูงสุด 3 ดาว เท่านั้น อาคาร KingBridge Tower ยังได้รับการรับรองมาตรฐานอาคารสีเขียว LEED Gold รวมถึงได้รับรางวัลชั้นนำที่เกี่ยวกับโครงการอสังหาริมทรัพย์คุณภาพสูงมากมายจากหลายเวทีในระดับประเทศและเอเชียหลากสาขา อาทิ คว้า 4 รางวัลจากเวที Property Awards 2023 ได้แก่ Best Office Development, Best Sustainable Development,  Best Office Architectural Design, Best Office Interior Design รวมถึง Top In Country : Better World Builder of the Year จาก Autodesk Innovation award 2023 และ FIABCI-Thai PRIX D’EXCELLENCE AWARDS 2023 สาขา Office (Commercial Building)

มากกว่าพื้นที่ทำงาน คือแพลตฟอร์มที่จะเติบโตและมีความสุขไปด้วยกัน

         หากมาวิเคราะห์ในรายละเอียด จะเห็นว่าการที่ KingBridge Tower ได้รับการยอมรับในวงการอสังหาริมทรัพย์จนคว้ารางวัลชั้นนำในอุตสาหกรรมอาคารคุณภาพสูงมามากมาย เกิดจากปัจจัยหลายประการ เริ่มตั้งแต่การให้ความสำคัญกับจุดเริ่มต้นของการสร้างอาคารแห่งนี้ที่ต้องการให้เป็น “ต้นแบบสะท้อนคุณค่าชีวิตการทํางาน” ภายใต้แนวคิด “The Spirit of Synergy” ส่งเสริมให้บริษัทและพนักงานทำงานอย่างมีความสุขในทุกวัน พร้อมเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน โดยให้อาคารแห่งนี้เป็น Smart & sustainable building for well-being work-lifestyle ขับเคลื่อน Circular Economy in Construction Industry (CECI) เพื่อสร้างบรรทัดฐานใหม่ของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาพลังงานและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนในอนาคต

         การให้ความสำคัญกับคุณภาพความเป็นอยู่ของพนักงานในอาคาร คือ หัวใจสำคัญของ KingBridge Tower ในแบบที่ว่า “พนักงานอยู่แล้วยิ้ม บริษัทเข้ามาอยู่แล้วเติบโต” โดยการให้ความสำคัญในทุกรายละเอียด เพื่อให้บริษัทและพนักงานที่ใช้อาคารสำนักงานแห่งนี้ ทำงานได้อย่างมีความสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีประสิทธิภาพ ประกอบไปด้วย

  • ความได้เปรียบด้านโลเคชั่นในใจกลางย่านพระราม 3 บนทำเล THE CENTER OF BUSINESS CONNECTIVITY ที่เชื่อมโยงสู่ใจกลางเมืองและย่านอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ของประเทศ ได้ในเวลาอันรวดเร็วเพียง 10 นาที ด้วยที่ตั้งที่ใกล้จุดตัดทางด่วนถึง 3 เส้นทาง ติดถนนพระราม 3 - รัชดาภิเษก อีกทั้งเดินทางไปยังแหล่งอุตสาหกรรมรอบนอกก็ง่าย

ลองนึกภาพดูว่าถ้าคุณเป็นกลุ่มคนหนึ่งที่ทำธุรกิจติดต่อกับลูกค้าที่มีโกดังหรือออฟฟิศอยู่ในโซนเหล่านี้ การที่คุณมีออฟฟิศอยู่ในย่านพระราม 3 จะทำให้คุณเดินทางไปหาลูกค้าสะดวกขึ้น ไม่ต้องฝ่ารถติดจากใจกลางเมืองเพื่อเดินทางมาหาลูกค้าอีกต่อไป แถมไม่ต้องกังวลเรื่องการจราจรแออัด เพราะย่านพระราม 3 ถือว่าการจราจรไม่หนาแน่นมากเมื่อเทียบกับถนนพระราม 4 หรือสุขุมวิทตอนกลาง โดยเป็นถนนที่ไม่เคยติดท็อป 100 บนดัชนีชี้วัดสภาพความติดขัดของท้องถนนของกรุงเทพมหานคร (longdo traffic index) จึงช่วยให้พนักงานประหยัดเวลาเดินทาง เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้มากขึ้น

  • KingBridge Tower มีพื้นที่ Business Facilities ระดับพรีเมียม ทั้งห้องประชุมส่วนกลางที่เพียบพร้อม รองรับการจัดงานตั้งแต่งานแถลงข่าว งานสัมมนา งานเปิดตัวสินค้า อบรม ไปจนถึงการประชุมผู้ถือหุ้น และประชุมภายในองค์กร ได้อย่างครบครัน ช่วยลดต้นทุนการก่อสร้าง การเช่าสถานที่การจัดงาน ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและความน่าเชื่อถือให้องค์กร
  • Healthy Canteen ที่เลือกพื้นที่ Canteen ให้สามารถชมวิวสะพานภูมิพลและแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมทั้งแนวคิด Healthy Concept ตั้งแต่การออกแบบพื้นที่ ร้านอาหาร ตลอดจนเครื่อง Vending Machine จำหน่ายอาหารเพื่อสุขภาพ เพื่อให้พนักงานที่ทำงานที่นี่ได้ใช้เวลาพักกลางวันอย่างมีคุณภาพ
  •  Sky Garden เต็มพื้นที่ 1 ชั้น เพื่อให้พนักงานและผู้ใช้อาคารสามารถขึ้นมาพักผ่อน พูดคุย ออกกำลังกาย ทำกิจกรรมร่วมกันได้ โดยมีบริการน้ำดื่มสะอาดฟรี เพื่อให้พนักงานมี Quality Time ในสภาพแวดล้อมที่ดี
  • ตัวอาคารสามารถชมวิวแม่น้ำ สะพานภูมิพล และวิวเมือง ได้ 360 องศา ทำให้พนักงานสามารถนั่งทำงานมองวิวทั้งวันได้อย่างมีความสุข และไม่ร้อน เนื่องจากการก่อสร้างมีฟินออกมาเป็นร่มกันแดด ตลอดจนการใช้กระจกกรองแสงสามชั้น ช่วยกรองแสงธรรมชาติ ลดความร้อนเข้าสู่อาคาร
  • ตัวอาคารจัดเต็มพื้นที่รีเทลทั้ง 4 ชั้น ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง ทั้งคาเฟ่, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านอาหาร, สตรีทฟู้ด เพื่ออำนวยความสะดวก
  • Sky Lounge & Sky Dining ชั้นดาดฟ้า เพื่อมอบประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟให้ทั้งคนในตึก ผู้คนย่านพระราม 3 และคนทั่วไป

Smart Building ผสานแนวคิดสีเขียว ยกระดับคุณภาพชีวิตพนักงาน

         ไม่เพียงหลากหลายปัจจัยที่กล่าวมาเท่านั้น KingBridge Tower ยังเป็นอาคารต้นแบบแห่งแรกที่ก่อสร้างตามหลักการ Circular Economy ของเครือข่าย CECI (Circular Economy in Construction Industry) ที่มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าที่สุดในกระบวนการก่อสร้าง ลดการทำลายสิ่งแวดล้อม ที่มีความใส่ใจตั้งแต่เริ่มออกแบบ การเลือกใช้วัสดุก่อสร้าง กระบวนการก่อสร้างที่ลดขยะให้ได้มากที่สุด รวมถึงแผนการดำเนินการ หลังจากอาคารเปิดใช้งานเพื่อให้เกิดความยั่งยืนอีกทั้งยังเป็นอาคาร Smart Building ด้วยการนำนวัตกรรมออฟฟิศล้ำสมัยมายกระดับคุณภาพชีวิตการทำงานของพนักงาน ไม่ใช่แค่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน หรือสร้างความสะดวก ปลอดภัยในที่ทำงานเท่านั้น แต่ยังทำให้ทุกวันของการทำงานในอาคารแห่งนี้เต็มไปด้วยช่วงเวลาคุณภาพที่มีความสุขไปกับการทำงาน

ไม่ว่าจะเป็นการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยจัดการการเข้าออกอาคารด้วยระบบ Hologram, ลิฟต์ระบบ Destination System ที่มีแอปพลิเคชั่นช่วยจัดการด้าน Tenant Service ตลอดจน Smart Dashboard ที่ช่วยมอนิเตอร์การใช้พลังงานต่างๆ ในตึก และ Smart EV Charger & Parking เต็มรูปแบบ

ตลอดจนการผสมผสานเทคโนโลยีที่มาควบคุมคุณภาพน้ำ, อากาศ, ไฟส่องสว่าง เพื่อมาเติมเต็มสุขภาวะในอาคารให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ระบบกรองอากาศ ที่สามารถกรองฝุ่น PM 2.5 ได้ถึง 90%, การเลือกใช้วัสดุก่อสร้าง Green Choice ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (Volatile Organic Compounds) ในระดับต่ำ, การติดตั้งเครื่องปล่อยรังสี UVC เพื่อทำหน้าที่ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และลดการแพร่ของเชื้อโรคทางอากาศ ไปจนถึงการติดตั้งเครื่องกดน้ำดื่มระบบ Reverse Osmosis ในอาคาร, การติดตั้งกระจก 3 ชั้น Insulated glass panel & Low E กรองแสงแดด รังสี UV และกรองเสียงเพื่อลดแสงจ้า ถนอมสายตา

ปัจจุบัน KingBridge Tower ก่อสร้างไปแล้ว 65 % และเตรียมเปิดในช่วงปลายปี 2567 สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ www.kingbridgetower.com หรือ โทร. 087-585-8888