Major Development บริษัทที่พัฒนาธุรกิจอสังหาฯ ระดับลักชูรีและคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ (Pet-Friendly) มาอย่างยาวนาน กับความมุ่งมั่นสู่การเป็น Lifescape Developer ที่ไม่ใช่แค่พัฒนาโครงการอย่างเดียว แต่เป็นการพัฒนารูปแบบการใช้ชีวิตที่ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคให้ครบทุกมิติ ก้าวต่อไปของพัฒนาอสังหาฯ เดินหน้าขยายพอร์ต ปรับสัดส่วนพัฒนาโครงการแนวราบเต็มอัตรา เตรียมพัฒนาโครงการบนที่ดิน 15 แปลง กับ 15 โครงการคุณภาพ

ซึ่งในปี 2566 นี้นำร่องเปิดตัว 7 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 15,200 ล้านบาท ส่วนอีก 8 โครงการเตรียมพัฒนาในปี 2567-2568 อีกกว่า 16,150 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบ มูลค่า 8,900 ล้านบาท และ คอนโด มูลค่า 7,250 ล้านบาท และมีการร่วมทุนกับ GS E&C ผู้พัฒนาอสังหาฯ อันดับ 1 ของเกาหลีใต้ ร่วมพัฒนาโครงการ Maru Chula คอนโดฯ High Rise ใจกลางจุฬา-สามย่าน ที่จะเปิดตัวในปี 2567 นับว่าเป็นแบรนด์ที่มีโครงการรอการพัฒนาที่สูงมาก แถมในปีนี้ยังมี Backlog รอการรับรู้รายได้อยู่อีกกว่า 2,500 ล้านบาท

7 โครงการที่จะเปิดตัวในปีนี้ มาพร้อม 5 แบรนด์ใหม่ที่เจาะกลุ่มลูกค้าระดับ Middle to High เป็นแนวราบ 5 โครงการ ได้แก่ 10&ONLY Pattanakarn 20 บ้านเดี่ยว Super Luxury Limited Edition, Mayfield Lane Ratchada - Ladprao บ้านเดี่ยวระดับ Luxury ทำเลใจกลางเมือง, Mayfield Pinklao, Mayfield Ramintra-Kubon พรีเมียมทาวน์โฮมระดับไฮเอนด์ และ Milford Ladprao-Ramkhamhaeng แบรนด์ทาวน์โฮมระดับไฮเอนด์ 

คอนโด 2 โครงการ ได้แก่ Muniq Phrom Phong และ Marquis Phayathai แบรนด์คอนโดระดับ Super Luxury ที่มีฟังก์ชันตอบโจทย์ด้านการมีชีวิตที่ดี (Wellness) ซึ่งแต่ละทำเลจะเป็นอย่างไรติดตามได้ในบทความนี้

 

โครงการบ้านและคอนโดหรู บน 7 ทำเลศักยภาพ

 

ทำเลรัชดา-ลาดพร้าว : เชื่อมรถไฟฟ้า 3 สาย ใจกลางลาดพร้าว

หากพูดถึงศูนย์กลางของ โซนรัชดา-ลาดพร้าว ที่แท้จริง ต้องเป็นช่วงจุดตัดของถนนรัชดาภิเษก-ถนนลาดพร้าวเท่านั้น และยังเป็น Interchange สำคัญของรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน โซนรัชดา-ลาดพร้าว นับเป็นโซนเมืองชั้นในที่ศักยภาพสูง ใกล้ศูนย์กลางของกรุงเทพตอนเหนืออย่างห้าแยกลาดพร้าว เชื่อมรถไฟฟ้า 3 สาย (BTS สายสีเขียว / MRT สายสีน้ำเงิน / MRT สายสีเหลือง) แม้จะเป็นโครงการที่อยู่ภายในซอย ก็สามารถเชื่อมต่อถนนเส้นหลักอย่าง ถนนรัชดา ถนนลาดพร้าว และถนนวิภาวดีรังสิตได้ง่าย อีกทั้งยังเป็นทำเลที่มีการเปลี่ยนแปลงสูงนับตั้งแต่เกิด Interchange ของรถไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็น การเกาะกลุ่มของออฟฟิศและแหล่งไลฟ์สไตล์ อาทิ S Oasis, Lumpini Tower หรือ JODD Fair แดนเนรมิต รวมทั้งยังมีเมกะโปรเจ็กต์ที่รอปักหมุดหลายโครงการ ไม่ว่าจะเป็น เซ็นทรัล พหลโยธิน, Bangkok Terminal และ Mochit Complex ทั้งหมดนี้โอบล้อมอยู่รอบเกาะกลางรัชดา-ลาดพร้าว ทำเลอันเป็นที่ตั้งของโครงการ Mayfield Lane Ratchada - Ladprao

แม้รัชดา-ลาดพร้าวจะเป็นทำเลที่มีคอนโดเกิดขึ้นมากมาย แต่ย่านนี้ก็ยังมีการพัฒนาบ้านแนวราบเข้ามาเรื่อยๆ ส่วนใหญ่เป็นโครงการขนาดไม่ใหญ่จำนวนไม่เกิน 20 ยูนิต ปัจจุบันมีบ้านที่ยังเปิดขายอยู่ 5 โครงการ เป็นบ้านเดี่ยว 3 โครงการ ราคาขายเริ่มต้น 39 - 85 ล้านบาท* และทาวน์โฮม 2 โครงการ ราคาขายอยู่ที่ 15.9 - 22 ล้านบาท* Mayfield Ratchada - Ladprao คือโครงการใหม่ที่มีทั้งบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด บนพื้นที่ 1-3-36 ไร่ จำนวน 11 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 34 - 41 ล้านบาท* ซึ่งเป็นช่วงราคาที่เทียบเท่ากับราคาตลาด จุดเด่นของโครงการคือตั้งอยู่ในทำเลเข้าออกได้หลากหลายเส้นทาง อยู่ใกล้ MRT ลาดพร้าว 550 เมตร ไม่ว่าใช้รถยนต์หรือรถสาธารณะก็สะดวกสบายเป็นอย่างมาก

 

ทำเลรามคำแหง เชื่อมรถไฟฟ้าแห่งอนาคต โอบล้อมสิ่งอำนวยความสะดวก

รามคำแหง อีกหนึ่งทำเลสำคัญที่ถูกยกระดับชนิดพลิกฝ่ามือ ด้วยการเข้ามาของรถไฟฟ้าถึง 2 สาย ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีส้มและรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ทำให้รามคำแหงกลายเป็นโซนรองรับการขยายตัวที่สมบูรณ์แบบของกรุงเทพตะวันออก สะท้อนผ่าน ร่างผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 4 พ.ศ... ที่มีการปรับการใช้ประโยชน์ที่ดินในโซนรามคำแหงเป็นที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาง (สีส้ม) ทั้งแถบ 

นอกจากรถไฟฟ้าจะเข้ามาอำนวยความสะดวกในการเดินทางด้วยขนส่งมวลชนแล้ว สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็ง่ายไม่แพ้กัน ด้วยการเชื่อมทางพิเศษฉลองรัชทำให้เข้าสู่ใจกลางสุขุมวิทได้รวดเร็ว โอบล้อมด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์รอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น โซนเลียบด่วนรามอินทรา โซนรามคำแหง หรือโซนลาดพร้าว

Milford Ladprao-Ramkhamhaeng ตั้งอยู่ในซอยรามคำแหง 53 ซึ่งอยู่ในทำเลที่มีการเติบโตของราคาประเมินที่ดินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ที่เริ่มมีการพัฒนารถไฟฟ้า ทำเลนี้ก็เกิดการพัฒนาโครงการต่างๆ มากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณถนนลาดพร้าว จากเดิมที่ราคาประเมินรอบปี 2559-25562 อยู่ที่ 130,000 บาทต่อตร.ว. แต่ในรอบปี 2566-2569 ราคาเติบโตขึ้นเป็น 150,000 - 200,000 บาทต่อตร.ว. บริเวณถนนรามคำแหงและบริเวณถนนประดิษฐ์มนูธรรมก็มีการเติบโตของราคาอย่างต่อเนื่อง ภาพรวมการเติบโตของราคาที่ดินย่านรามคำแหงนี้สูงกว่า 20% ต่อรอบปีการประเมิน สำหรับราคาซื้อขายที่ดินจริงของย่านนี้อยู่ที่ 250,000 บาทต่อตร.ว. สูงกว่าราคาประเมินถึง 25%

 

ทำเลพัฒนาการใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนและสายสีเหลือง

พัฒนาการ เป็นทำเลที่อยู่อาศัยแนวราบระดับ Prime Location ด้วยระยะห่างจาก ทองหล่อ-เอกมัย-เพชรบุรี เพียงชั่วอึดใจ รวมถึงมีทางพิเศษพาดผ่านหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็น ทางพิเศษฉลองรัช หรือ ทางพิเศษศรีรัช ซึ่งล้วนแล้วแต่เชื่อมกับทำเลสำคัญใจกลางเมืองทั้งสิ้น อีกทั้งยังสามารถใช้ตรอกซอยเชื่อมถนนเส้นสำคัญอย่าง ถนนพัฒนาการ ถนนอ่อนนุช ถนนศรีนครินทร์ และถนนพระราม 9 ได้สะดวก ทำเลพัฒนาการ จึงเป็นทำเลที่อยู่ตรงกลางทำเลแม่เหล็กของแหล่งงานและไลฟ์สไตล์ระหว่าง Green Line District (สุขุมวิทตอนปลาย) และ Yellow Line District (ศรีนครินทร์) ก็ว่าได้

พัฒนาการเป็นย่านรวมโครงการบ้านหรูระดับ Super Luxury ทั้งที่เป็นบ้านเดี่ยวและวิลล่าหรู ราคาขายตั้งแต่ 49 - 297 ล้านบาท ขนาดที่ดินเริ่มต้นตั้งแต่ 60 - 219 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 440 - 1,900 ตร.ม. ซึ่งในแต่ละโครงการก็มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นแตกต่างกัน 10&ONLY Pattanakarn 20 โครงการใหม่ล่าสุดบนทำเล เป็นบ้านเดี่ยวหรูระดับ Ultra Luxury 3-4 ชั้น ตั้งอยู่บนพื้นที่ 4-0-63 ไร่ ที่สุดแห่งความเป็นส่วนตัวเพียง 10 ครอบครัว การออกแบบภายใต้แนวคิด Craft & Quality ที่พิถีพิถันในทุกรายละเอียดพร้อมฟังก์ชันพิเศษ Duplex Supercar Lounge บ้านมีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ ขนาดที่ดิน 91 - 144 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 638-962 ตร.ม. จอดรถได้สูงสุด 7 คัน

 

ทำเลปิ่นเกล้า ใจกลางปิ่นเกล้าที่แท้จริง

โครงการแนวราบที่ขึ้นชื่อว่าปิ่นเกล้า ยากที่จะหาโครงการไหนที่อยู่ในปิ่นเกล้าที่แท้จริง แต่ไม่ใช่กับโครงการ Mayfield Pinklao เพราะเป็นโครงการที่ตั้งอยู่บนถนนบรมราชชนนี เยื้องกับเซ็นทรัลปิ่นเกล้าซึ่งนับเป็นศูนย์กลางที่แท้จริงของทำเล เต็มไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ อาทิ เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ ปิ่นเกล้า, เดอะ เซนส์ ปิ่นเกล้า หรือช่างชุ่ย โอบล้อมด้วยขนส่งมวลชน สามารถเดินทางข้ามไปฝั่งพระนครผ่าน 3 สะพาน ได้แก่ สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า, สะพานพระราม8 และสะพานซังฮี้ และที่สำคัญคือ ด้วยความเจริญและความเป็นเมืองที่สูงมากในทำเลนี้ ทำให้ปัจจุบันกลายเป็นทำเลคอนโดที่ยากจะหาโครงการแนวราบได้ 

บริเวณปิ่นเกล้าเป็นทำเลที่เกิดการพัฒนาคอนโดอย่างต่อเนื่อง ด้วยที่ดินที่มีอยู่อย่างจำกัด ประกอบกับราคาที่ดินที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เราจึงไม่ค่อยเห็นการพัฒนาโครงการแนวราบในทำเลนี้เท่าไหร่ Mayfield Pinklao คือทาวน์โฮมหนึ่งเดียวในย่านปิ่นเกล้า นับเป็นทางเลือกใหม่ของคนที่อยากใช้ชีวิตใกล้เมืองกับพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ เป็นโครงการ Private Townhome สูง 3.5 - 4 ชั้น สไตล์ Urban Modern Classic ที่มีเพียง 68 ยูนิต ขนาดที่ดิน 28 - 70 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอย 290 - 395 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 14.5 ล้านบาท* จุดเด่นของโครงการคือพื้นที่ใช้สอยที่ค่อนข้างเยอะ ฟังก์ชัน 3-4 ห้องนอน มีห้องน้ำในตัวทุกห้อง จอดรถได้ 2-3 คัน การออกแบบที่คำนึงถึงผู้อยู่อาศัย เน้นการจัดวางพื้นที่แบบเปิดโล่ง ทุกฟังก์ชันภายในบ้านมีหน้าต่างรับแสงธรรมชาติ พร้อม Double Volume เพื่อให้ภายในบ้านมีความโปร่งโล่ง อยู่สบายไม่อึดอัด

 

ทำเลรามอินทรา - คู้บอน เชื่อมวงแหวนตะวันออก

ทำเลรามอินทรา-คู้บอน เป็นทำเลยอดนิยมของที่อยู่อาศัยแนวราบมาอย่างยาวนาน ด้วยความสะดวกสบายด้านการเดินทางเพราะมีถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนตะวันออก) ที่สามารถเชื่อมทางพิเศษฉลองรัชและมอเตอร์เวย์กรุงเทพ-ชลบุรีได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งถนนคู้บอนยังเป็นถนนหลักที่สามารถเชื่อมถนนหทัยราษฎร์และถนนรามอินทราได้หลายเส้นทาง ทำให้ตลอดแนวถนนคู้บอนจึงเป็นโซนที่มีการเติบโตของที่อยู่อาศัยสูง โดยแม่เหล็กสำคัญของทำเลรามอินทรา-คู้บอน อยู่บริเวณศูนย์การค้า เดอะ พรอมานาด และ แฟชันไอส์แลนด์ ซึ่งนอกจากจะเป็นแหล่งไลฟ์สไตล์หลักในทำเลแล้ว ยังเป็น Node ที่สำคัญ เพราะเชื่อมด้วยถนนหลายเส้น ได้แก่ ถนนรามอินทรา, ถนนรัชดา-รามอินทรา, ถนนนวมินทร์ และถนนกาญจนาภิเษก

Mayfield Ramintra-Kubon ทาวน์โฮมบนทำเลรามอินทรา เป็นย่านที่มีการเติบโตของราคาประเมินที่ดินเฉลี่ย 7% ต่อปี ราคาประเมินปัจจุบันอยู่ที่ 125,000 บาทต่อตร.ว เพิ่มขึ้นจากรอบปีประเมินก่อน ที่มีราคาอยู่ 95,000 - 100,000 บาทต่อตร.ว. การเติบโตอย่างของราคาประเมินที่ดินเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่บ่งบอกถึงศักยภาพของรามอินทรา ด้านราคาที่ดินจริงในตลาด ซื้อขายกันอยู่ที่ 150,000 - 230,000 บาทต่อตร.ว. สูงกว่าราคาประเมินเกือบเท่าตัวเลยก็ว่าได้

 

ทำเลพร้อมพงษ์ หัวใจของสุขุมวิท 

เนิ่นนานที่ทำเลพร้อมพงษ์ได้รับการยอมรับโดยทั่วไปว่าเป็น Luxury Location ของใจกลางกรุงเทพ ด้วยทำเลที่อยู่สุขุมวิทตอนกลางสามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกใจกลางเมืองบนเส้นสุขุมวิทได้ง่ายดาย โดยเฉพาะ Luxury Lifestyle เพราะโอบล้อมด้วยศูนย์การค้าหรู อาทิ Emporium, EmQautier, Central Embassy และ Terminal21 ใกล้ย่านออฟฟิศเพลินจิต-อโศก ที่เต็มไปด้วยออฟฟิศ Grade A และ Talent อย่าง One City Centre, Park Venture หรือ Exchange Tower อีกทั้งพร้อมพงษ์ยังเป็นทำเลที่ลัดเลาะสู่ถนนพระราม4 ซึ่งเป็นโซนที่เกิดเมกะโปรเจ็กต์หลายโครงการ อาทิ One Bangkok, Dusit Central Park, The PARQ, FYI Center หรือศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ รวมถึงแฮงก์เอ้าท์ในย่านที่คึกคักที่สุดอย่างทองหล่อ-เอกมัยได้ง่าย ทำให้พร้อมพงษ์ไม่ต่างอะไรกับเป็นทำเลหัวใจที่เข้าถึงได้ทุกสีสันของสุขุมวิท

ศักยภาพของทำเลพร้อมพงษ์กับความเป็น Luxury Location สะท้อนได้จากราคาที่ดินซื้อขายจริงในตลาด ที่ล่าสุดซื้อขายกันอยู่ที่ 2.6 ล้านบาทต่อตร.ว. มูลค่าที่ดินเติบโตเฉลี่ย 7% ต่อปี เมื่อเทียบกับ 10 ปีที่แล้วที่มีการซื้อขายที่ดินในราคา 1.5 ล้านบาทต่อตร.ว.

Muniq Phrom Phong โครงการใหม่ที่จะเปิดตัวในทำเลนี้ อยู่ริมถนนสุขุมวิท อยู่ติดกับ BTS พร้อมพงษ์และ EmQautier แบบเดินไม่กี่ก้าวถึง คอนโด Luxury บนทำเล Luxury Lifestyle ในราคาเปิดตัวเริ่มต้น 310,000 บาทต่อตร.ม.*

 

ทำเลพญาไท โซนมาแรงแห่งกรุงเทพชั้นใน

พญาไท นับเป็นอีกหนึ่งทำเลที่ไม่สามารถมองข้ามในเรื่องความร้อนแรงได้ จากเดิมที่พญาไทเป็นเมืองชั้นในที่ร้างราการเปลี่ยนแปลงมาหลายปี จากภาพจำของพญาไทที่มีอาคารออฟฟิศ ใกล้รถไฟฟ้าและแอร์พอร์ตเรลลิงก์ และสถาบันทางการแพทย์ แต่ในช่วง 4-5 ปีมานี้ ทำเลพญาไทก็ได้กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากถูกวางให้เป็น Medical Hub ของกรุงเทพภายใต้โครงการ ย่านนวัตกรรมการแพทย์โยธี (YMID) ที่จะเป็นศูนย์กลางแห่งวิทยาการทางการแพทย์สมัยใหม่ ดึงดูดบุคลากรทางการแพทย์มากกว่า 25,000 คน รวมถึงมีโครงการมิกซ์ยูสเกิดใหม่หลายโครงการ อาทิ Spring Tower, Unicorn และ JRK Tower พื้นที่รวม 95,355 ตารางเมตร ดึงดูดบุคลากรใหม่กว่า 9,500 คน

ความร้อนแรงของพญาไทสะท้อนได้จากมูลค่าของราคาประเมินที่ดินทำเลพญาไทที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เติบโตเฉลี่ยกว่า 10% ต่อปีเลยทีเดียว การเข้ามาอย่างต่อเนื่องของอาคารสำนักงาน โครงการมิกซ์ยูส และสถาบันทางการแพทย์ ล้วนส่งเสริมให้มูลค่าที่ดินของทำเลนี้เพิ่มขึ้นในอนาคต

Marquis Phayathai คอนโดใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ Super Luxury Wellness โครงการอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานีอนุสาวรีย์ฯ เพียง 270 ม.* และ BTS พญาไท เพียง 450 ม.* ราคาเปิดตัวเฉลี่ยเริ่มต้นที่ 265,000 บาทต่อตร.ม.*

 

ทั้งหมดนี้ก็คือ 7 โครงการที่ทางเมเจอร์ฯ ตั้งใจพัฒนาเพื่อส่งมอบที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ทุกโครงการล้วนตั้งอยู่บนทำเลที่มีความสะดวกสบายในการเดินทาง รายล้อมไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยและเป็นทำเลที่มีศักยภาพพร้อมเติบโตในอนาคต

นอกจาก 7 โครงการที่ยกมาไฮไลต์ เมเจอร์ฯ ยังมีที่ดินเตรียมพัฒนาอีก 8 แปลง กระจายอยู่ทั่วกรุงเทพทั้งโซนอารีย์ จุฬา เจริญกรุง กรุงเทพกรีฑา เป็นต้น รวมทั้งหมด 15 โครงการที่อยู่ใน Pipeline มูลค่ารวมกว่า 30,000 ล้านบาท เป็นเส้นทางที่จะทำให้ MJD เกิดการเปลี่ยนแปลงได้แบบก้าวกระโดด ถือว่าเป็นอีกหนึ่ง Developer ที่น่าจับตามองเลยทีเดียว