“ราชเทวี” ทำเลใจกลางเมืองที่รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ศูนย์รวมของแหล่งงาน การแพทย์ และการศึกษา ที่มีความสำคัญ ปัจจุบัน “ราชเทวี” เป็นอีกหนึ่งทำเลที่อยู่อาศัยที่น่าสนใจของกลุ่มคนทำงาน นักศึกษา และนักลงทุนที่หลงใหลมนต์สเน่ห์ของคอนโดฯใจกลางเมือง

ทําความรู้จัก “ราชเทวี” Prime Location ศูนย์กลาง Education - Medical hub ใจกลางกรุงเทพฯ 

“ราชเทวี” ทำเลศูนย์กลาง Education - Medical Hub อีกหนึ่งทำเลที่อยู่อาศัยที่หลายคนให้ความสนใจ ด้วยตัวทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางระหว่างทำเล CBD ใจกลางกรุงเทพฯ อย่างสยาม สีลม สาทร กับเขตพระนครชั้นใน ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ – วัฒนธรรม มีชุมชนที่มีเอกลักษณ์พิเศษ เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คการท่องเที่ยวสำคัญของกรุงเทพฯ ที่สามารเดินทางได้ง่ายผ่านเส้นทางคมนาคมทั้งรถยนต์ และรถไฟฟ้าหลายสายที่วิ่งเชื่อมโยงกันทั่วกรุงเทพฯ

และย่านธุรกิจการค้าในโซนถนนพระราม 1 อย่าง “สยาม” ที่ห่างจาก “ราชเทวี” แค่ 1 สถานีรถไฟฟ้าเท่านั้น โดยสยามถือเป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ชั้นนำของกรุงเทพฯ ที่ได้รับความนิยมสูงทั้งจากคนไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะ Siam Paragon แหล่งช้อปปิ้งระดับไฮเอนด์ รวมถึงแหล่งชอปปิ้งสำหรับวัยรุ่น วัยทำงาน และกลุ่มครอบครัว อย่าง Siam Center, Siam Discovery, Central world และสยามสแควร์วัน ทำให้โซนนี้มีความคึกคักตลอดทั้งวัน

 

นอกจากนี้ในทำเล “ราชเทวี” ยังเป็นอีกหนึ่งโซนที่มีสถานที่ราชการ – รัฐวิสาหกิจ ตั้งอยู่จำนวนมาก อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ, กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม, กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, กระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม, สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ, กรมแพทย์ทหารบก, กรมปศุสัตว์ และสัตวแพทยสภาแห่งประเทศไทย

และถ้าดูโดยรอบๆ ทำเลจะพบว่าในโซนนี้ยังเป็นแหล่งที่รวมสถาบันการศึกษา ทั้งโรงเรียน, โรงเรียนแพทย์สถานพยาบาล และโรงพยาบาลจำนวนมาก อาทิ มหาวิทยาลัยมหิดล (พญาไท), คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี, คณะทันตแพทยศาสตร์, โรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี, วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า, วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก, ศูนย์รวมนักศึกษาแบ๊บติสต์,อาคารวรรณสรณ์ แหล่งรวมสถาบันกวดวิชาชั้นนำของกรุงเทพฯที่อยู่ในอาคารนี้ และยังมีโรงเรียนศรีอยุธยา, โรงเรียนอำนวยศิลป์, โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา, โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, โรงเรียนสาธิตมศว. (ปทุมวัน) และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

และบริเวณแยกราชเทวีตอนนี้ยังมีโครงการ มิกซ์ยูส ที่มีทั้งโรงแรม 5 ดาว สกายเลาจน์ พื้นที่รีเทล และอาคารสำนักงานเกรด A แห่งใหม่ 2 โครงการใหญ่ อย่าง Spring Tower ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว และ JRK Tower ซึ่งทั้ง 2 โครงการนี้ก็จะเป็นศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ที่ทันสมัย และดึงดูดคนทำงานทั้งชาวไทย ต่างชาติ ให้เข้าสู่โซนราชเทวี และมีกลุ่มนักท่องเที่ยวเข้ามาพัก เพิ่มความคึกคักให้กับโซนนี้มากขึ้นอย่างแน่นอน 

จึงไม่น่าแปลกใจที่ “ราชเทวี” จะกลายเป็นย่าน Prime Location ที่อยู่อาศัยยอดนิยมของนักเรียน นิสิต นักศึกษา กลุ่มบุคลลากรทางการแพทย์ และคนวัยทำงาน ที่เข้ามาอาศัยอยู่ในโซนนี้ได้เป็นอย่างดี 

จากปัจจุบัน…สู่อนาคต “ราชเทวี จุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้า 4 สาย” รับไลฟ์สไตล์คนเมือง 

ปัจจุบัน “ราชเทวี” เป็นจุดตัดผ่านของถนนสายสำคัญในกรุงเทพฯ ทำให้คนที่อาศัยในโซนนี้สามารถเลือกการเดินทางได้หลากหลายรูปแบบทั้งทางรถยนต์ ผ่านถนนสายหลัก อาทิ ถนนพญาไท, ถนนเพชรบุรี, ถนนพระราม 1, ถนนศรีอยุธยา และถนนพระราม 6 ซึ่งเป็นถนนสายสำคัญที่เชื่อมต่อการเดินทางใจกลางเมือง สู่บริเวณโดยรอบ อาทิ ถนนดินแดง, ถนนอังรีดูนังค์, ถนนสีลม, ถนนพระราม 4 และถนนสุขุมวิท ฯลฯ  

และยังสามารถเลือกเดินทางได้ด้วยรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว ซึ่งปัจจุบัน “สถานีราชเทวี” จะตั้งอยู่บนถนนพญาไท ใกล้กับแยกราชเทวี ทำให้คนที่อาศัยอยู่บริเวณถนนเพชรบุรี - พญาไท สามารถเดินมาใช้บริการรถไฟฟ้าได้ด้วย โดยรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวเป็นสายสำคัญที่เชื่อมต่อการเดินทางในโซนลาดพร้าว, อารีย์,สยาม, สุขุมวิท, ทองหล่อ, ยาวไปถึงเคหะฯ และมีสายสีเขียวเข้มที่เชื่อมต่อกับโซน CBD อย่างสีลม, สาทร, ยาวไปถึงกรุงธนบุรีที่เชื่อมต่อกับสายสีทองไปไอคอนสยาม

ตอนนี้พอจะเห็นภาพกันแล้วว่าการเดินทางจาก “ราชเทวี” ไปยังโซนต่างๆ ของกรุงเทพฯ ไปไหนมาไหนได้ง่ายแม้จะไม่ใช้รถส่วนตัว แต่ในอนาคต “ราชเทวี” จะยิ่งป๊อปปูล่ามากขึ้น

เพราะการมาของ “รถไฟฟ้าสายสีส้ม” ที่จะพลิกโฉมให้ทำเล “ราชเทวี” โดดเด่นไม่แพ้กับโซนอื่นๆ ของกรุงเทพฯเลยทีเดียว เมื่อดูจากแนวรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่มีระยะทางกว่า 35.4 กม. เป็นรถไฟฟ้าใต้ดิน 20 สถานี และลอยฟ้า 8 สถานี (ไม่รวมสถานีศูนย์วัฒนธรรมฯ) ที่วิ่งจากกรุงเทพฯฝั่งตะวันออก (โซนมีนบุรี) ตัดผ่านใจกลาง New CBD อย่างพระราม 9 – ศูนย์วัฒนธรรมฯ (ปัจจุบันโครงการในระยะที่ 1 อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และมีแผนจะเปิดให้บริการในปี 2568) มาเชื่อมต่อกับฝั่งกรุงเทพฯชั้นใน (ตลิ่งชัน) 

ซึ่งตามแผนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มระยะที่ 2 จะมีแนวเส้นทางจะวิ่งตัดผ่านจากสถานีศูนย์วัฒนธรรมฯ วิ่งจนมาตัดกับแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ที่สถานีราชปรารภ ตัดกับรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวที่สถานีราชเทวี ตัดกับสายสีแดงที่สถานียมราช ตัดกับสายสีม่วงที่สถานีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แล้วผ่านสนามหลวง ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาที่สะพานปิ่นเกล้า โรงพยาบาลศิริราช จนตัดกับสายสีน้ำเงินอีกครั้งที่สถานีบางขุนนนท์ และสิ้นสุดโครงการที่สถานีตลิ่งชัน จุดเชื่อมต่อสถานีสุดท้ายของรถไฟฟ้าสายสีแดง

จะเห็นว่าแนวเส้นทางของรถไฟฟ้าสายสีส้มระยะที่ 2 ที่วิ่งพาดผ่านใจกลาง New CBD เข้าสู่กรุงเทพฯชั้นใน มีจุดตัดกับรถไฟฟ้าถึง 5 สาย ทำให้เราจะเห็นภาพในอนาคตว่า “ราชเทวี” จะกลายเป็นสถานี interchange ที่ตัดผ่านระหว่างรถไฟฟ้าสายสีส้ม และรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว ซึ่งเป็นเส้นทางหลักของการเดินทางในกรุงเทพฯ และ “ราชเทวี” จะเป็นสถานีสำคัญที่เชื่อมต่อการเดินทางในระบบรถไฟฟ้าทั่วกรุงเทพฯถึง 4 สาย คือ รถไฟฟ้าสายสีส้ม สถานีราชเทวี (ตลิ่งชัน – มีนบุรี), BTS สายสีเขียว สถานีราชเทวี, BTS สายสีเขียวเข้ม เชื่อมต่อที่สถานีสยาม และแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ (พญาไท – สุวรรณภูมิ) ซึ่งสถานีพญาไท อยู่ห่างกับราชเทวีแค่ 1 สถานีเท่านั้น

โอกาสการลงทุนอสังหาฯ ทําเลใจกลางราชเทวี

หากพูดถึงภาพรวมตลาดคอนโดฯ ในราชเทวีต้องบอกว่าเป็นทำเลที่ไม่ได้มีโครงการหนาแน่นมากนัก เปิดตัวปีละ 1-2 โครงการ และไม่ได้เปิดตัวทุกปี หากย้อนกลับไป 10 ปีแล้ว ช่วงปี 2556 ราคาคอนโดใหม่เฉลี่ยประมาณ 139,000 บาทต่อตารางเมตร ปัจจุบันราคาเฉลี่ยของคอนโดฯ เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจนอยู่ที่ 220,000 บาทต่อตารางเมตรแล้ว เช่นเดียวกับตลาด Resale ของตลาดคอนโดราชเทวีที่ในแต่ละปีก็มีการเติบโตของราคา (Capital Gain) ประมาณ 4% - 8% ต่อปี ราคาขายคอนโดมือสองอยู่ที่ 160,000 - 232,000 บาทต่อตารางเมตร

 

ด้านผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าคอนโดฯ ทำเลราชเทวี สร้าง Rental Yield เฉลี่ยประมาณ 3.8% - 5.6% ต่อปี อัตราค่าเช่ารายเดือนมากน้อยขึ้นอยู่กับสภาพห้องพักและขนาดของห้องพัก โดยห้องแบบ Studio ค่าเช่าอยู่ที่ 14,000 - 18,000 บาทต่อเดือน, 1 Bedroom ค่าเช่าประมาณ 15,000 - 28,000 บาทต่อเดือน, 2 Bedroom อัตราค่าเช่าต่อเดือนอยู่ที่ 28,000 - 60,000 บาท และ 3 Bedroom ค่าเช่าอยู่ที่ 40,000 - 70,000 บาทต่อเดือน

 

“พาร์ค ออริจิ้น ราชเทวี” Exclusive of Living ที่มีแค่ 264 ครอบครัวที่จะได้ครอบครอง

เล่าถึงความน่าสนใจของทำเล “ราชเทวี” กันไปพอสมควรแล้ว สำหรับคนที่อยากจะมีคอนโดฯ อยู่ใน   “ราชเทวี” สักห้อง แต่ยังไม่รู้จะไปเริ่มต้นที่โครงการไหนดี วันนี้เราจะพามาดูที่ โครงการ “พาร์ค ออริจิ้น ราชเทวี” โครงการสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ จาก ORIGIN PROPERTY

“พาร์ค ออริจิ้น ราชเทวี” เป็นคอนโดฯ High Rise 1 อาคาร สูง 41 ชั้น จำนวน 264 ยูนิต และมีร้านค้า 2 ยูนิต บนที่ดินประมาณ 1-2-34.5 ไร่ ตัวโครงการตั้งอยู่ติดกับถนนเพชรบุรี ฝั่งทางไปประตูน้ำ ใกล้กับแยกราชเทวี ห่างจากรถไฟฟ้า BTS สถานีราชเทวี ประมาณ 400 เมตร ซึ่งในอนาคตถ้าดูจากภาพแผนพัฒนารถไฟฟ้าสายสีส้มจะเห็นว่า ตัวทางเข้าสถานีราชเทวี จะตั้งอยู่ใต้ถนนเพชรบุรี บริเวณซอยเพชรบุรี 3-7 เป็นบริเวณที่อยู่ใกล้กับบริเวณทางเข้าของโครงการ “พาร์ค ออริจิ้น ราชเทวี” ซึ่งก็จะทำให้การเดินทางของผู้อาศัยในโครงการสะดวกมากขึ้นด้วย

ห้องในโครงการ “พาร์ค ออริจิ้น ราชเทวี” จะเป็นแบบ Duo Space เพดานสูงทั้งหมด โดยออกแบบในแนวคิด “Private Living Oasis” ให้มีจำนวนยูนิตไม่มาก เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อาศัย 264 ยูนิต ตัวอาคารออกแบบโดยใช้เส้นโค้งต่างๆ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเส้นสายของธรรมชาติ ส่วนรอบๆ โครงการออกแบบให้มีพื้นที่สีเขียวกระจายอยู่ทั่วโครงการเพื่อสร้างบรรยากาศให้การอยู่อาศัยได้ผ่อนคลาย

แบบห้อง แบ่งเป็น

·   1 Bedroom               34.0 – 34.2 ตร.ม.

·   1 Bedroom Plus       34.8 – 58.4 ตร.ม.

·   Penthouse                70.6 – 116.2 ตร.ม.

Extra Space 4.25 ม. เพิ่มพื้นที่พักอาศัยรับวิวกรุงเทพฯ แบบไม่รู้จบ

สำหรับห้องในโครงการ “พาร์ค ออริจิ้น ราชเทวี” จะเป็นแบบ Duo Space เพดานสูงแบบ Extra Space สูงสุดถึง 4.25 เมตร ชั้นพักอาศัยจะอยู่ที่ชั้น 19-38 ทำให้ทุกห้องในอาคารนี้สามารถเปิดรับวิวเมืองได้อย่างเต็มที่ เป็นโครงการเดียวบนย่านราชเทวีที่ทำห้องแบบ Duo Space ทั้งโครงการ

โดยห้องในโครงการนี้ส่วนใหญ่จะเป็นแบบ 1 Bedroom ขนาด 33.9 – 34.2 ตร.ม. และ 1 Bedroom Plus  ขนาด 34.8 – 58.4 ตร.ม. (ตามโฉนด) ซึ่งภายในห้องได้รับการออกแบบมาให้รองรับการอยู่อาศัยของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการพื้นที่ใช้สอย แต่ยังคงตกแต่งห้องในสไตล์ของตัวเองได้

ภายในห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 33.9 – 34.2 ตร.ม. ฟังก์ชั่นจะแบ่งให้พื้นที่ด้านล่าง เป็นโซนสำหรับพื้นที่ทำกิจกรรมร่วมกัน อาทิ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น มุมทานอาหาร และห้องน้ำ ส่วนบริเวณชั้นลอย ดีไซน์ให้เป็นพื้นที่ห้องนอน เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้การพักอาศัย และยังสามารถชมวิวเมืองได้อย่างเต็มที่

ส่วนห้องแบบ 1 Bedroom  ขนาด 34 ตร.ม. ดีไซน์จะมีเพิ่มพื้นที่รองรับการทำงานมากขึ้นโดยปรับฟังก์ชั่นที่ชั้นล่างให้มีความกว้างเพียงรองรับการพักผ่อนให้เป็นห้องนอนแบบมัลติฟังก์ชั่นส่วนบริเวณชั้นลอยทำให้เป็นโซนสำหรับพื้นที่ทำงานหรือพื้นที่ทำกิจกรรมส่วนตัวได้เป็นอย่างดี

และห้องแบบ 1 Bedroom Plus  ขนาด 58.60 ตร.ม. ด้วยขนาดห้องที่กว้างขึ้น ห้องนี้จึงถูกดีไซน์ให้เป็นห้องที่สามารถวางส่วนห้องนอนหลักได้ที่โซนชั้นล่าง ซึ่งก็จะเปิดชมวิวได้เต็มที่ และยังสามารถเพิ่มห้องนอนได้อีก 1 ห้องที่ชั้นลอย ทำให้ห้องนี้จึงเหมาะอยู่อาศัยแบบครอบครัวคนรุ่นใหม่

พื้นที่ส่วนกลางลอยฟ้า สร้างประสบการณ์พักผ่อนให้ใกล้ชิดท้องฟ้ามากขึ้น

นอกจากห้องแบบ Duo Space เพดานสูง 4.25 เมตรแล้ว ในโครงการ “พาร์ค ออริจิ้น ราชเทวี” ยังรังสรรค์พื้นที่ส่วนกลางให้หรูหรา ด้วยพื้นที่ส่วนกลางลอยฟ้า ที่ชั้น 39, 40 ชั้น RoofTop เพื่อสร้างประสบการณ์พักผ่อนให้ลูกบ้านได้ใกล้ชิดท้องฟ้ามากขึ้น

โดยพื้นที่ส่วนกลางจะแบ่งเป็น ชั้น 1 ให้เป็นส่วน The Grand Lobby, Waiting Lounge for automatic parking, Gin cafe, Smart Mailbox, Smart Locker, Garden Yard Pavilion และชั้น 2 เป็น Business Lounge และ Private Meeting Room

สำหรับที่จอดรถทั้งหมด จะเป็นแบบ Auto Parking ซึ่งรองรับได้ทั้งรถ Sedan และ SUV พร้อมมี EV Charger ภายในโครงการ

สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ

·       ชั้น 1

o   The Grand Lobby

o   Waiting Lounge for automatic parking

o   Gin cafe

o   Smart Mailbox

o   Smart Locker

o   Garden Yard Pavilion

·   ชั้น 2

o   Business Lounge

o   Private Meeting Room

·   ชั้น 39

o   Starry Lounge

o   Wine Bar

o   Private Dining Lounge

o   Social Club

o   Sky Private Theater

o   Spa

·   ชั้น 40

o   Panoramic Sky Fitness

o   Yoga Studio

o   Virtual Bike

o   Lava Onsen

o   Sky Pool ระบบเกลือ

o   Endless Pool

o   Sunset Amphitheater

·   ที่จอดรถแบบ Auto Parking คิดเป็น 100%

·       ระบบรักษาความปลอดภัยในโครงการ CCTV / Key Card

·   กล้องวงจร CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง

·   ระบบควบคุมการเข้า-ออกอาคาร(Easy Pass)

·   ระบบความปลอดภัย 24 ชั่วโมง

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางลอยฟ้า ที่ชั้น 39, 40 และชั้น Rooftop จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางหลัก อาทิ ชั้น 39 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางแบบ Indoor ให้ลูกบ้านได้ใช้งานในบรรยากาศผ่อนคลายพร้อมชมวิวเมืองได้กว้าง ถึง 270 องศา

ส่วนชั้น 40 จะเป็นส่วนกลางหลักที่รวมทั้ง Panoramic Sky Fitness, Yoga Studio, Virtual Bike, Lava Onsen, Sky Pool ระบบเกลือ, Endless Pool และ Sunset Amphitheater ซึ่งทุกส่วนของพื้นที่ส่วนกลางก็จะเปิดรับวิวเมืองเช่นเดียวกัน และสุดท้าย Roof Top ที่เดินขึ้นมาได้จากชั้น 40 ด้านบนจะเป็นพื้นที่สวนสีเขียวในบรรยากาศร่มรื่น มีจุดชมวิว Sunset view Point,  Walking Trail และ Sky Communal

“พาร์ค ออริจิ้น ราชเทวี” คอนโดฯหนึ่งเดียวในย่านราชเทวี ที่ทำห้องแบบ Duo Space เพดานสูง Extra Space 4.25 เมตร ทั้งโครงการ พร้อมเปิดให้คุณเป็นเจ้าของแล้ววันนี้