หากนับนิ้วค่ายอสังหาริมทรัพย์แดนอีสาน ที่มีอายุยาวนานกว่า 30 ปี เชื่อว่าคงมีไม่กี่เจ้า โดยหนึ่งในชื่อที่คนท้องถิ่นคุ้นเคยและเชื่อถือเป็นอันดับต้นๆ ต้องมี พิมาน กรุ๊ป’ ค่ายอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่อยู่คู่กับชาวขอนแก่นมากว่า 38 ปี สร้างสรรค์โครงการอสังหามาแล้วแทบทุกรูปแบบกระจายอยู่ทั่วทั้งขอนแก่นกว่า 100 โครงการ และมีลูกบ้านเป็นครอบครัวเดียวกับพิมานกรุ๊ป กว่า 9,000 ครอบครัว รวมถึงยังมีการขยายโครงการไปยังจังหวัดอื่นๆ เช่น อุดรธานี ร้อยเอ็ด และลำพูน

            แบรนด์ที่พาตัวเองข้ามช่วงเวลามาเกือบถึงเลข 4 แล้ว ถ้าเป็น ‘คน’ ก็ถือว่าผ่านร้อนผ่านหนาว สั่งสมประสบการณ์มาเต็มเปี่ยม ถึงวันนี้มาสู่การบริหารเจเนอเรชั่นสอง ภายใต้วิสัยทัศน์ที่ไม่ได้มองตัวเองเป็นแค่ ‘ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์’ แต่เป็น ‘นักพัฒนาเมือง’ อย่าง ชาญณรงค์ บุริสตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสานพิมานกรุ๊ป ​นักธุรกิจที่ผูกพันและเติบโตมากับเมืองขอนแก่น

 

พิมาน กรุ๊ป โตแบบค่อยเป็นค่อยไปกับขอนแก่น

“พิมานกรุ๊ปของเราค่อยๆ โต โดยเริ่มมาจากคุณพ่อ เราเติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจเมือง เมื่อเมืองเศรษฐกิจดีขึ้น มีการพัฒนาส่วนภูมิภาคเยอะขึ้น ผู้คนจึงเริ่มย้ายเข้ามาอยู่อาศัยมากขึ้น โดยเฉพาะตอนที่พ่อได้รางวัลเสาบัวทอง กรมที่ดิน จากหมู่บ้านพิมานธานี นั่นยิ่งเป็นความภาคภูมิใจที่ทำให้เรามีกำลังใจ ทำเพิ่มและพัฒนาที่อยู่อาศัยตลอดมา”

“ทุกวันนี้ขอนแก่นมีทั้งศูนย์ราชการ ศูนย์บริการด้านสุขภาพ ศูนย์การศึกษา ศูนย์การค้าปลีก-ส่ง ศูนย์การเดินทางไม่ว่าจะเป็นรถ-เครื่องบิน-รถไฟ ไปจนถึงสถาบันการเงินการธนาคารชั้นนำ กลายเป็นเมืองศูนย์กลางของภาคอีสาน”

“ขอนแก่นไม่ได้เป็นเมืองท่องเที่ยวจ้าๆ แต่เป็นเมืองวัฒนธรรมขนาดกลาง เรียบง่าย อยู่สบาย เหมาะกับการใช้ชีวิต มีทุกอย่างเอื้อกับการใช้ชีวิตคุณภาพ เนื่องจากขอนแก่นเป็นเมืองที่มีอาหารการกินที่ดี การเดินทางสะดวก ผู้คนผูกพัน  มีกิจกรรมสันทนาการมากมาย” ชาญณรงค์ปูให้เห็นการเปลี่ยนผ่านของเมืองขอนแก่น

 

รู้ซึ้ง รู้ใจ กลายเป็นผูกพัน

ความเป็นคนพื้นที่ที่อยู่มาถึงสองเจเนอเรชั่น แบรนด์พิมานกรุ๊ปจึงเติบโตมาพร้อมกับขอนแก่น นี่เสมือนเป็นคีย์ซัคเซสของแบรนด์ เพราะ รู้จักจนรู้ซึ้ง ในทำเล โดยเฉพาะ เข้าใจจนรู้ใจ ในความต้องการของผู้อยู่อาศัยกลุ่มเป้าหมาย ประกอบกับริเริ่มโครงการมามากมาย โดยมีแบรนด์เด่นสร้างชื่ออย่าง พิมานบุรี, พิมานเพลส, พิมานชล โคะอิ, คานารี่วิลล์ หนองไผ่, นอร์ทพาร์คอนโด, HYDE CONDO, LAKE SIDE CONDO เป็นต้น จนกล้าพูดได้ว่าทำมาแล้วทุกรูปแบบ ทุกทำเล ทุกกลุ่มลูกค้า ทั้ง บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และคอนโดมิเนียม บนราคาสมเหตุสมผล ทำให้แบรนด์มีพัฒนาการในการสร้างสรรค์ฟังก์ชั่นใหม่ๆ นำมาเติมเต็มความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้อยู่อาศัยอยู่เสมอ

“เราทำหมู่บ้านมานาน ก็เห็นหลายครอบครัว อยู่ตั้งแต่หนุ่มสาวจนเป็นผู้ใหญ่ ตั้งแต่แต่งงานจนลูกโต มาซื้อบ้านอีกหลัง มีเงินเหลือก็มาซื้อคอนโดลงทุนกับเราให้เช่า บางทีก็มีบ้านหลังที่สอง ก็ผูกพันหลายรูปแบบ”

 

“เวลาคนมาซื้อบ้าน แรกๆ จะรายได้น้อยผ่อนเยอะ ช่วงแรกๆ จะลำบาก แต่ผ่อนธนาคารนานๆ ไปหนี้หมด ก็เป็นเจ้าของเงินล้านไม่รู้ตัว บ้านช่วยเก็บเงินไว้ให้ แต่เราก็ไม่อยากให้คนเป็นหนี้เยอะนะ สมัยก่อนซื้อบ้านดาวน์ 30% ผ่อนไม่กี่ปีก็หมด สมัยนี้ไม่ค่อยดาวน์ ผ่อนนาน แต่ยังดี ดอกเบี้ยถูกมาก” ชาญณรงค์ฉายให้เห็นพฤติกรรมคนซื้อบ้านอย่างรู้จริง ที่ท้ายสุดบ้านจะกลายเป็นการออมระยะยาวในหนึ่งช่วงชีวิตคน

จากประสบการณ์ที่ผ่านการสร้างสรรค์โครงการมามากมาย ทำให้พิมาน กรุ๊ป ได้เรียนรู้และเข้าใจลูกค้ามากขึ้น แม้คำขอเล็กๆ น้อยๆ เช่น ขอต่อเติม ขอเปลี่ยนแบบ เปลี่ยนวัสดุ ก็นำไปสู่การพัฒนาในโครงการต่อๆ ไป

“การที่เราได้คลุกคลีกับลูกบ้าน ทำให้เรามีความผูกพันและยังดูแลกัน เหมือนเราอยู่กันเป็นเพื่อนบ้าน เป็นเจ้าของบ้านร่วมกัน เราใส่ใจชุมชนและสังคม เพราะเรามองว่าถ้าจะพัฒนาไม่ได้พัฒนาแค่ของเราคนเดียว สภาพแวดล้อมต้องดีไปด้วยกัน

 

มากกว่าโครงการคุณภาพ ต้องสังคมดี

ด้วยวิสัยทัศน์ของชาญณรงค์ได้พาพิมาน กรุ๊ป ไม่ได้ทำแค่การสร้างบ้าน หรือแค่โครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพ แต่ปรารถนาจะส่งมอบสังคมคุณภาพ ชุมชนน่าอยู่ แนวคิดนี้สะท้อนให้เห็นผ่านการเลือกทำเล การดีไซน์รูปแบบโครงการ การบริการหลังการขาย การดำเนินกิจกรรมซีเอสอาร์และซีอาร์เอ็มที่มาอย่างต่อเนื่อง เน้นกระชับความสัมพันธ์กับลูกบ้าน ส่งเสริมสังคมผู้อายุ เพราะขอนแก่นจัดเป็นจังหวัดที่มีผู้สูงวัยถึง 20% อีกทั้งภาคอีสานมีอัตราผู้สูงอายุค่อนข้างสูง

“การเลือกทำเลของพิมาน กรุ๊ป เราพยายามหาจุดที่พอดีระหว่างต้นทุนกับความพึงพอใจของลูกค้าระหว่างกลุ่มคนที่อยู่เดิมกับกลุ่มที่คาดว่าจะมาอยู่ในอนาคต แต่ประการแรกเลย ต้องมองก่อนว่าตรงนี้จะมีคนไปอยู่ไหม? ดำเนินชีวิตสะดวกไหม? อยู่แล้วมีความสุขไหม? มีสิ่งแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวกหรือเปล่า? ใกล้ชุมชนไหม? อาจจะไม่ต้องติดถนนใหญ่ แต่ต้องเดินทางสะดวก”

            เพราะใส่ใจความเป็นอยู่ของลูกบ้านแม้เรื่องเล็กๆ บ่อยครั้งหลายโครงการในเครือพิมาน กรุ๊ป ไม่ได้พัฒนาโครงการแค่จากจากประตูถึงป้อมยามตามสไตล์ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั่วไป แต่ดูแลไปจนถึงระบบสาธารณูปโภคจากป้อมยามถึงถนนใหญ่เลยทีเดียว เช่น ติดตั้งระบบน้ำ ติดตั้งไฟนำทาง ไปจนถึงปรับพื้นถนน เพื่อให้ลูกบ้านได้รับความสะดวกปลอดภัยและได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี

            “เราให้ความสำคัญกับชุมชนดี ส่งเสริมสังคมผู้สูงวัย วัฒนธรรมของผู้คนที่นี่ถ้าอยู่ในวัยแอคทีฟจะไปมาหาสู่กันอยู่แล้ว แต่เมื่อเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เราต้องคิดพื้นที่แอคทีฟลิฟวิ่งในโครงการมากขึ้น ส่งเสริมกิจกรรมสุขภาพ การออกกำลังกาย มีกิจกรรมทางสังคมมากขึ้นเพื่อให้มีพื้นที่ได้พบปะพักผ่อนหย่อนใจมากขึ้น สร้างสถานที่ใหม่ๆ เพื่อรองรับสังคมตรงนี้”

“ธรรมชาติของคนกลุ่มลูกค้าของเรา มาจากพื้นฐานของคนรู้จักกัน หรือมีอะไรคล้ายๆ กัน หมู่บ้าของเรายังมีบรรยากาศเพื่อนบ้านซื้อของฝากกัน มีน้ำใจช่วยเหลือกัน ผมว่าอาจเป็นพื้นฐานนิสัยของผู้คนที่นี่ ที่รักความสนุกสนาน”

 

ยกระดับสู่บทบาทการพัฒนาเมือง

บนความเข้าใจลูกค้าและยึดมั่นในแนวทางสร้างโครงการคุณภาพ ชาญณรงค์ เผยว่าเนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนพื้นที่และเป็นคนในภูมิภาคนี้ ที่มีพื้นฐานเรียบง่าย ซิกเนเจอร์ดีไซน์ของโครงการในเครือพิมาน กรุ๊ป จึงเน้นการออกแบบไม่ซับซ้อน ดูแลรักษาง่าย สะดวกสบาย คุณภาพดี พื้นที่ใช้สอยลงตัว บางโครงการมีเน้นเรื่อง Universal Design เพื่อรองรับสังคมผู้สูงวัยด้วย

และเพื่อต่อยอดวิสัยทัศน์ของชาญณรงค์และแบรนด์พิมาน กรุ๊ป ที่ต้องการยกระดับชุมชนให้เป็นสังคมคุณภาพ หลายโปรเจคต์ของพิมาน กรุ๊ป จึงมักเข้าไปมีส่วนร่วมภาคส่วนต่างๆ ในการจัดกิจกรรมเพื่อสังคม

รวมถึงการขยายบทบาทของชาญณรงค์ ในฐานะกรรมการขอนแก่นพัฒนาเมืองและนายกกิตติมศักดิ์สมาคมอสังหาริมทรัพย์ขอนแก่น เพื่อผลักดันโครงสร้างพื้นฐานที่จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของเมือง ไม่ว่าจะเป็น ระบบขนส่งมวลชน ศูนย์ประชุมต่าง การจัดการรูปแบบแผนผังเมือง การวางแผนพัฒนาพื้นที่เมือง หรือแม้กระทั่งโครงการด้านสิ่งแวดล้อม

“เรามองว่าถ้าเมืองดี เศรษฐกิจดี ลูกค้าและพนักงานก็จะได้สิ่งดีๆ ไปด้วย ธุรกิจเราก็จะดีตาม ธุรกิจกับสังคมมันต้องไปพร้อมกัน ส่วนไหนที่ยังขาดอยู่และอยู่ในวิสัยที่เราสามารถทำได้ ก็ช่วยเหลือ ช่วยทำ บางงานทำคนเดียวไม่ได้ ก็ต้องไปชวนเพื่อนมาช่วยกัน อาจจะเป็นองค์กรหอการค้า หรืออย่างขอนแก่นพัฒนาเมือง เพื่อยกระดับเศรษฐกิจขอนแก่น เพื่อให้เราเติบโตไปด้วยกัน”

ด้วยแนวทาง “โตไปด้วยกัน” เป้าหมายต่อไปของพิมานกรุ๊ป จึงยังคงอยู่ที่พัฒนาตัวเองไปพร้อมกับลูกค้า ไปพร้อมกับเมือง ยึดความสุขของผู้อยู่อาศัยเป็นหลัก

เพราะความภูมิใจของแบรนด์ คือ เมื่อผู้บริโภคเข้ามาอยู่ในโครงการของเราแล้วมีความสุข’ 

ชมโครงการ : https://pimangroup.com/