การเปลี่ยนชื่อของ Facebook เป็น Meta นั้นถือว่าเป็นการเปิดฉากยุคใหม่ของ social media โดย Mark Zuckerberg CEO ของ Meta นั้นมองว่า Metaverse คืออนาคตใหม่ของอินเตอร์เนต โดย Metaverse นั้นก็ไม่ใช่ไอเดียใหม่แต่อย่างใด เราก็จะเห็นไอเดียของ Metaverse บ่อยตามภาพยนคร์และนิยายไซไฟต่างๆ ซึ่ง Metaverse ก็คืออินเตอร์เนตที่มีสภาพเป็นโลกเสมือนจริง ซึ่งเป็นหลายๆ โลก 3D ที่เชื่อมโยงถึงกัน ซึ่งคำว่า Metaverse นั้นก็มาจากนิยายเรื่อง Snow Crash ที่เล่าถึงมนุษย์ในยุคอนาคตที่หลีกหนีโลกแห่งความเป็นจริงที่เสื่อมโทรม และมุ่งหน้าใช้ชีวิตอยู่ในโลกเสมือนจริง อย่าง Metaverse แทน

รูปภาพจาก Facebook

สิ่งที่คาดว่าเราจะได้เห็นจาก Meta นั้น คือการที่จะพ่วงเอาอุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่ในเครือของ Meta (หรือของ facebook) เข้าด้วยกัน เช่น แอพต่างๆ อย่าง whatsapp, Instagram, อุปกรณ์เช่น Oculus และ Portal และอุปกรณ์อื่นๆ ที่กำลังอยู่ในการพัฒนา เช่น ชุด headset ใน project Cambria และแว่นตา AR ใน project Nazare โดยมีซอฟแวร์หลักของ Metaverse ชื่อ Horizon เป็นแกนกลาง ซึ่ง Horizon นั้นก็กำลังอยู่ในการพัฒนา สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ และแม้กระทั่งเงินตราก็เป็นสิ่งที่นักวิเคราะห์ให้ความสนใจว่าจะมีรูปแบบอย่างไรใน Metaverse

แต่ก็ยังมีนักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมองว่าการสร้างแบรนด์ Meta ในครั้งนี้นั้นเป็นเจตนาในการฉีกตัวเองของ Mark Zuckerberg ออกจากเรื่องอื้อฉาวต่างๆ และภาพลักษณ์ที่ดูไม่ดีของเฟซบุ้ค  ซึ่งต่อมา Zuckerberg ก็ออกมาปฎิเสธมุมมองนี้ โดยกล่าวว่า ไอเดียนี้มีมาก่อนที่จะมีเรื่องไม่ดีต่างๆ เข้ามาซึ่งทำให้เป็นเวลาที่ไม่เหมาะในการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ แต่เขาก็ยังทำเพื่อแสดงให้เห็นถึงการก้าวเดินไปข้างหน้า ในการให้สัมภาษณ์กับทาง The Verge ตัว Zuckerberg นั้นมองว่าเขาต้องการที่จะบอกให้ทุกคนรู้ว่าบริษัทของเขานั้นทำมากกว่าโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook เขาต้องการเน้นว่าบริษัทของเขาไม่ได้ทำแค่โซเชี่ยลมีเดีย แต่เป็นบริษัทที่สร้างสรรค์เทคโนโลยีเพื่อเชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน และทำให้ผู้คนนั้นสามารถมีปฏิกริยาต่อกันได้     

จากจุดนี้เราก็ต้องจับตาดูความเคลื่อนไหวกันต่อไปว่ารูปร่างของ Metaverse ที่ทาง Meta พัฒนาขึ้นมานั้นจะมีรูปแบบอย่างไร ซึ่ง Zuckerberg มองว่าน่าจะเป็นช่วงครึ่งหลังของทศวรรษนี้ ที่ Metaverse จะกลายเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาก