ส่องกลยุทธ์การลงทุนในเดือนสิงหาคม 2563 ที่นักลงทุนต้องพิจารณาหลายปัจจัยที่น่าจับตา ไม่ว่าจะเป็น บริษัทต่างๆ จะเริ่มรายงานผลประกอบการในไตรมาส 2 รวมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด และความคืบหน้าวัคซีนโควิด-19

สวัสดีครับท่านนักลงทุนกลับมาพบกันอีกครั้ง เพื่อมาคุยกันเรื่องกลยุทธ์การลงทุนในเดือนส.ค. เพื่อให้ทราบว่า ท่านนักลงทุนต้องเตรียมกำหนดกลยุทธ์ ในเดือนส.ค.นี้ คาดว่า SET Index จะแกว่งตัว Sideways ถึง Sideways Up ในกรอบ 1,300-1,350 จุด ปัจจัยที่นักลงทุนต้องตามคือจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายวัน ว่ามีตัวเลข New High หรือไม่

อีกเรื่องที่ต้องตามคือ FED จะมีมาตรการอะไรใหม่ๆ ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ หลังจากเศรษฐกิจของสหรัฐถูกไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) เล่นงานอย่างรุนแรง โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP หดตัวถึง 32.9 % ในไตรมาส 2 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ว่า GDP สหรัฐจะหดตัวถึง 35 %

ส่วนปัจจัยในประเทศให้จับตาดูผลประกอบการ ไตรมาส 2 ฝั่ง Real Sector ว่ามีหุ้นตัวไหนที่มีผลประกอบการดีเกินคาดบ้าง แบบนี้น่าติดตาม แต่ถ้าหุ้นตัวไหนผลประกอบการออกมาแย่กว่าคาด หุ้นแบบนี้หลีกหนีให้ไกล โดยรวมระยะสั้นจึงยังเน้นให้เลือกเก็งกำไรหุ้นที่คาดว่าจะมีผลประกอบการออกมาแข็งแกร่ง เช่น กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ที่อยู่อาศัย โรงไฟฟ้า เป็นต้น และหากว่าดัชนีหุ้นมีจังหวะปรับตัวลง ยังมองว่าเป็นโอกาสในการทยอยสะสมหุ้น

ในช่วง 2 สัปดาห์แรกของเดือน ส.ค. งบ Real Sector จะทยอยออกมา ถ้าออกมาแย่กว่าที่คาด ตลาดหุ้นก็มีโอกาสพักฐานในระยะสั้นได้ ดังนั้นถ้านักลงทุนจะเข้าเก็งกำไรหุ้นในช่วงนี้ ต้องเข้าเก็งกำไรในหุ้นที่ถูกคาดหมายว่าผลประกอบการไตรมาส 2 จะออกมาแข็งแกร่ง

แต่ขอเตือนนักลงทุนอีกเรื่องว่าให้ระวัง Sell On Fact ในหุ้นที่ผลประกอบการประกาศออกมา และเป็นไปตามคาด

แต่ถ้าหุ้นที่เราเข้าเก็งกำไรแล้ว ประกาศผลประกอบการออกมาดีเกินคาด หุ้นแบบนี้ถือต่อได้ มีโอกาสที่นักวิเคราะห์จะปรับราคาพื้นฐานขึ้นได้

อีกปัจจัยที่ต้องตามอย่างใกล้ชิดคือข่าวเชิงบวกของวัคซีนเฟส 3 เพราะถ้ามีวัคซีนออกมา นักลงทุนต้องเปลี่ยนกลุ่มเล่นจาก Domestic Play ไปเป็น Global Play ทันที

ถ้าย้อนกลับไปเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทย เปิดทำการซื้อขายวันแรกของเดือนที่ดัชนี 1,345.86 จุด ขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 1,391.77 จุด ทำจุดต่ำสุดของเดือนที่ 1,303.25 จุด และลงมาปิดที่ 1,328.53 จุด จะเห็นว่าดัชนีหุ้นลงมา 17 จุด นับจากวันแรกของเดือน แต่ถ้าดูจากจุดต่ำสุดของเดือนที่ 1,303.25 จุด ดัชนีหุ้นลงมาแล้ว 42 จุด จะเห็นว่าดัชนีหุ้นในเดือน ก.ค. เป็นตลาดหุ้นขาลง

ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสคุยกับนักลงทุนหลายท่าน เจอคำถามว่า กลยุทธ์การลงทุนตอนนี้คืออะไร ผมบอกนักลงทุนไปว่า การเทรดดิ้ง เหมาะสมกับสภาวะตอนนี้มากที่สุด นั่นคือเมื่อดัชนีตลาดหุ้นลงมา 1,300 จุด ก็ให้เข้าช้อนซื้อ พอขึ้นมาเหนือ 1,350 จุด ทยอยโปรยขาย ระยะสั้นจึงเน้นการลงทุนในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ที่อยู่อาศัย โรงไฟฟ้า เป็นต้น

ด้านจังหวะเข้าซื้อหุ้น เลือกวันที่ตลาดหุ้นลบ น่าจะดี โดยเตือนว่าไม่ต้องรีบร้อนไล่ซื้อหุ้น ในกรณียังไม่มีข่าวดีเรื่องวัคซีน

สำหรับการซื้อขายแยกตามกลุ่มนักลงทุน เดือน ก.ค.2563 (ข้อมูลวันที่ 1-30 ก.ค.2563) นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 11,309.29 ล้านบาท สถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 5,365.01 ล้านบาท พอร์ตโบรกเกอร์ ซื้อสุทธิ 1,222.45 ล้านบาท และรายย่อยซื้อสุทธิ 15,451.85 ล้านบาท

ในเดือนนี้ตลาดหุ้นมีแนวรับอยู่ที่ 1,280 และ 1,300 จุด และมีแนวต้านอยู่ที่ 1,350 และ 1,370 จุด ก่อนจากกันเช่นทุกครั้ง ต้องบอกกันว่า การลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุนทุกครั้ง พบกันใหม่เดือนหน้า สวัสดีครับ

SOURCE : www.bangkokbiznews.com