มักจะมีคำพูดเสมอว่าภายใต้วิกฤติย่อมมีโอกาส ให้คนที่มองเห็นและมีข้อมูลเข้าถึงได้จุดเปลี่ยน ในขณะที่หลายธุรกิจกำลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด 19 นั้น แต่ก็ยังมีอีกหลายธุรกิจที่ต้องเร่งผลิตสินค้าจากความต้องการใช้ และความต้องการบริโภคของประชาชนมากขึ้น วันนี้ TerraBKK จะมาสรุป 6 ธุรกิจที่สินค้ากำลังได้รับความนิยมสูงตอบโจทย์ประชาชนในช่วงที่ไวรัส โควิด 19 ระบาด

 

1. กลุ่มเวชภัณฑ์และยา

         ในช่วงที่ไวรัสกำลังระบาด การแพทย์ เวชภัณฑ์และยาเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ ของการรักษา จากข้อมูลพบว่า อุตสาหกรรมยาและเวชภัณฑ์ ในประเทศไทย มีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง เฉลี่ย 6.2% ต่อปี มีมูลค่ารวมกว่า 177,000 ล้านบาท และในปีนี้คาดว่ามูลค่าของอุตสาหกรรมยาจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า  โดยกว่า 95% ของประมาณการผลิตยาทั้งหมด ถูกใช้ในประเทศ แบ่งเป็น โรงพยาบาลรัฐ 60% โรงพยาบาลเอกชน 20% และร้านขายยา 20%

ขณะที่ยาสมุนไพร อย่าง “ฟ้าทะลายโจร” ที่มีสรรพคุณกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ต้านการอักเสบ และต้านไวรัสที่ทำให้เกิดการติดเชื้อทางเดินหายใจ  ก็เป็นอีกหนึ่งยาสมุนไพรที่ประชาชนให้ความสนใจ ซึ่งภาพรวมคาดว่าปีนี้มูลค่าตลาดสมุนไพรและสารสกัดจากธรรมชาติ จะเติบโตทะลุ 20,000 ล้านบาท จากปี 62 ที่มีมูลค่า 18,000 ล้านบาท

2. กลุ่มอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับอนามัย และความสะอาด

        สินค้าประเภท หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ สบู่ฆ่าเชื้อโรค รวมถึงน้ำยาล้างฆ่าเชื้อโรคหลากหลายประเภท ได้กลายเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วจากประชาชน โดยเฉพาะหน้ากากอนามัย ที่ผลิตไม่ทันความต้องการ แถมยังได้อานิสงค์จากออเดอร์ลูกค้าชาวจีน ที่บางพื้นที่ยังไม่สามารถเดินเครื่องผลิตได้ ทางนายทุนจึงส่งออเดอร์งาน มาผลิตในไทยแทน ซึ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์โรงงานผลิตหน้ากากอนามัย ในไทยบางแห่งไม่ปิดทำการ และยังมีการเพิ่มค่าแรงในช่วงวันหยุดให้พนักงานอีกด้วย

3.ธุรกิจประกันชีวิต

         ต้องยอมรับว่าในช่วงที่ไวรัสโควิด 19 ระบาด ก็กระทบกับช่องทางการขายของธุรกิจประกันชีวิตไปมาก แต่ในวิกฤติยังมีโอกาสเสมอ เพราะบริษัทประกันต่างเร่งออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “ประกันโควิด 19” ออกมารับกับความต้องการของลูกค้าอย่างทันท่วงที โดยเฉพาะประกันโควิด19 ประเภท “เจอจ่ายจบ” ที่คนไทยแห่ซื้อจนเว็บไซต์ล่ม เพราะจ่ายเบี้ยแค่หลักร้อย แต่คุ้มครองหลักแสนทันที เมื่อตรวจพบการติดเชื้อ  บางบริษัทฯมีลูกค้าซื้อมากกว่า 100 รายต่อชั่วโมงเลยทีเดียว   จนทำยอดขายทะลุเป้า หลายแสนกรมธรรม์ และยิ่งสถานการณ์ไวรัสโควิด 19 ยังไม่น่าไว้วางใจแบบนี้ ธุรกิจประกัน จึงเร่งออกแบบประกันใหม่ ที่เน้นค่ารักษาพยาบาลทุนสูง ปรับขึ้นเบี้ย พร้อมปรับเงื่อนไขเจอจ่ายจบเข้มขึ้น

4. ธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่ & Shopping Online

        อีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับอานิสงค์ ที่เกิดจากประชาชนหลีกเลี่ยงการออกไปที่สาธารณะ และใช้เวลาที่บ้านมากขึ้น ซึ่งธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่ ผ่านแอปพลิเคชั่นได้ตอบโจทย์ผู้บริโภคในช่วงนี้ได้เป็นอย่างดี  ปัจจุบันมีผู้ให้บริการที่ได้รับความนิยม 4-5 รายในตลาด โดยธุรกิจนี้ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีการขยายตัวเฉลี่ย 10% ต่อปี และมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง สูงกว่าธุรกิจร้านอาหาร ที่เติบโตเพียง 3-4% ต่อปี เป็นส่วนหนึ่งในการเติบโตของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในไทย คิดเป็นมูลค่า 748,000 ล้านบาท ครองอันดับ 1 ของภูมิภาคอาเซียน จากการคาดการณ์ของสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย

         เช่นเดียวกับการ Shopping Online ถ้าดูข้อมูลจาก JD.com ระบุว่า ในช่วงที่ไวรัส โควิด19 แพร่ระบาดในจีน มียอดการสั่งซื้อข้าวและผลิตภัณฑ์นมเพิ่มขึ้นกว่า 154% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เช่นเดียวกับสินค้าอาหารทะเล และเนื้อวัว ขณะที่ประเทศไทยมีตลาดซูเปอร์มาร์เก็ตช่องทางออนไลน์ โดยมีสัดส่วนประมาณ 2 – 3 % ของยอดขายรวม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่อาศัยในคอนโดฯ 1-2 คน รวมถึงคุณแม่รุ่นใหม่ที่ทำงานและดูแลครอบครัวไปพร้อม ๆ กัน

5. ธุรกิจผลิตพลาสติก บรรจุภัณฑ์อาหาร

         บรรจุภัณฑ์ที่สะอาด และปลอดภัย เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญในช่วงที่ไวรัส โควิด 19 กำลังแพร่ระบาด โดยเฉพาะสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอนามัย ทั้งหน้ากากอนามัย อุปกรณ์ทางการแพทย์ สินค้าที่ต้องสัมผัสโดยตรงกับผู้ป่วย ยารักษาโรค อาหารสด อาหารพร้อมทาน อาหารสำเร็จรูปและอาหารแห้ง ทำให้ธุรกิจผลิตพลาสติกบรรจุภัณฑ์อาหารในประเทศ ได้รับอานิสงค์ จากความต้องการบรรจุภัณฑ์เหล่านี้มากขึ้น มียอดสั่งผลิตเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว ซึ่งกระบวนการผลิต บรรจุ และขนส่ง จำเป็นต้องใช้พลาสติกที่มีคุณภาพสูง ปลอดเชื้อโรค เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าจะได้รับสินค้าที่ปลอดภัยมากที่สุด

6. ธุรกิจดิจิทัล คอนเทนต์

      เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ วิตกกับปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด 19 ยิ่งดูข่าวการแพร่ระบาด ยิ่งทำให้เกิดความเครียดสูง ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันที่หวาดระแวงคนทั่วไปที่ร่วมเดินทางด้วยรถสาธารณะ แต่หลายคนก็สามารถจัดการกับปัญหาความเครียดได้เป็นอย่างดี ด้วยการค้นหากิจกรรมออนไลน์ อาทิ เกมส์ออนไลน์ ออกกำลังกายผ่านแอพพลิเคชั่น และบริการปรึกษาทางการแพทย์ ควบคู่กับการดูคอนเทนส์ ต่าง ๆ อาทิ ภาพยนตร์, รายการ, สารคดี, ละคร ผ่านสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ส่งผลให้ธุรกิจนี้เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ช่วยสร้างความบันเทิง ลดอาการเครียดของประชาชนได้เป็นอย่างดี 

จาก 6 ธุรกิจดาวเด่น ในช่วงไวรัสโควิด 19 ระบาดที่กล่าวไปข้างต้น  ลองมาดูกันว่าในแง่ของโลกการลงทุนอย่างใน “ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย” แล้ว ยังมองเห็นกลุ่มธุรกิจใดสอดคล้องเกี่ยวข้องกับกลุ่มอุตสาหกรรมที่กล่าวไปข้างต้นกันบ้าง ?   (ข้อมูล ณ. วันที่ 19 มีนาคม 2563)

  1. กลุ่มพลาสติก บรรจุภัณฑ์อาหาร มีประมาณ 7 บริษัท มีมูลค่าตามราคาตลาดโดยรวมของหลักทรัพย์จดทะเบียน ประมาณ 56 พันล้านบาท
  2. กลุ่มเวชภัณฑ์ การแพทย์ มีประมาณ 25 บริษัท มีมูลค่าตามราคาตลาดโดยรวมของหลักทรัพย์จดทะเบียน ประมาณ 12 แสนล้านบาท
  3. กลุ่มสินค้าอาหาร, อาหารเดลิเวอรี่, อาหารพร้อมทาน, อาหารกระป๋อง และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มีประมาณ 11 บริษัท มีมูลค่าตามราคาตลาดโดยรวมของหลักทรัพย์จดทะเบียน ประมาณ 95 แสนล้านบาท
  4. กลุ่มประกัน มีประมาณ 17 บริษัท มีมูลค่าตามราคาตลาดโดยรวมของหลักทรัพย์จดทะเบียน ประมาณ 24 แสนล้านบาท
  5. กลุ่มเครื่องดื่ม และ กลุ่มจัดการทรัพยากรน้ำ มีประมาณ 12 บริษัท มีมูลค่าตามราคาตลาดโดยรวมของหลักทรัพย์จดทะเบียน ประมาณ 52 แสนล้านบาท
  6. กลุ่มสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอนามัยและความสะอาด มีประมาณ 2 บริษัท มีมูลค่าตามราคาตลาดโดยรวมของหลักทรัพย์จดทะเบียน ประมาณ 68 หมื่นล้านบาท

        แน่นอนว่าช่วงเวลาของความผันผวนในโลกการลงทุน  แม้ว่าบางกลุ่มอุตสาหกรรมดูเหมือนจะได้รับประโยชน์จากสถานการณ์ในครั้งนี้ แต่ใช่ว่าทุกบริษัทของกลุ่มอุตสาหกรรมนั้นจะดีขึ้นจริงไปเสียหมด  ดังนั้น นักลงทุนจำเป็นต้องศึกษาวิเคราะห์ธุรกิจอย่างถี่ถ้วนก่อนการตัดสินใจลงทุน

"การทำธุรกิจภายใต้สถานการณ์ที่ไม่แน่นอนแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย และจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ให้นักธุรกิจ เจ้าของกิจการ ได้ปรับวิธีคิดบริหารงานใหม่ โดยเฉพาะภาคธุรกิจอสังหาฯที่ตอนนี้ได้รับผลกระทบโดยตรง ต้องกลับมาทบทวนแผนงานให้รองรับสถานการณ์ฉุกเฉินให้ได้ในอนาคต พร้อมทำสินค้าบนทำเลใหม่ เจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ในอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากไวรัส โควิด 19 ในราคาที่จับต้องได้รองรับกลุ่มลูกค้าหลายเซ็กเม้นท์ ไม่จับกลุ่มเฉพาะลูกค้าที่อยู่ในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่"