ย้อนไปเกือบ 10 ปีก่อน ชื่อของ “ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้” อาจไม่ใช่ชื่อที่คุ้นหูของทั้งบรรดานักธุรกิจและผู้กำลังมองหาที่อยู่อาศัยเท่าใดนัก แต่ในปัจจุบัน บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI สามารถก้าวขึ้นมาจนกลายเป็นหนึ่งใน “บิ๊กอสังหาฯ” ที่มีผลประกอบการทั้งด้านยอดขาย รายได้ และกำไร อยู่ในระดับท็อปของกลุ่มอสังหาฯ มีโครงการที่อยู่อาศัยครองใจตลาด ครอบคลุมทุกเซ็กเมนท์

          ภายใต้การนำของประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งอย่าง พีระพงศ์ จรูญเอก วันนี้ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ กำลังจะมีอายุครบ 10 ปี

 

 

ก่อตั้ง ปีสู่การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

          พีระพงศ์ เล่าว่า ปลายปี 2552 เขาและอารดา จรูญเอก ภรรยา ได้ร่วมกันจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ขึ้น จากนั้นในปี 2553 ได้ใช้ประสบการณ์ในแวดวงอสังหาริมทรัพย์กว่า 10 ปีของทั้งคู่ พัฒนาคอนโดมิเนียมโครงการแรกขึ้นภายใต้ชื่อ Sense of London เป็นโครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ ชั้น ในซอยสุขุมวิท 109 มูลค่าโครงการ 199 ล้านบาท

 

          ในปี 2554-2555 บริษัทยังคงพัฒนาคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ปีละ 1-2 โครงการ โดยใช้แบรนด์หลากหลาย จนเริ่มพัฒนาโครงการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและชัดเจนในปี 2556-2558 มูลค่าโครงการประมาณ 2,800-7,000ล้านบาทต่อปี ด้วยจุดมุ่งหมายในการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แม้จะเปิดตัวโครงการใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังได้รับกระแสตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง เพราะออริจิ้นมีความเข้าใจในตัวลูกค้า จึงพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ผนวกกับการเน้นการเจาะเรียลดีมานด์ ในทำเลเกาะแนวรถไฟฟ้าที่ยังเป็น Blue Ocean จึงทำให้ออริจิ้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก

 

 

          ความสำเร็จที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ออริจิ้นใช้เวลาเพียงไม่ถึง ปีนับตั้งแต่วันก่อตั้ง ก็สามารถนำหุ้น ORI เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ อย่างเป็นทางการวันแรกได้ในวันที่ ต.ค. 2558

 

 

ดึงซุปตาร์ชั้นนำ ณเดชน์-ซันนี่ สร้างแบรนด์ก้าวกระโดด

          ปี 2560 ถือเป็นปีสำคัญที่ทำให้ออริจิ้นมีชื่อเสียงโด่งดังแบบ “ติดสปริง” เริ่มต้นจากการดึงซูเปอร์สตาร์แถวหน้าของเมืองไทยอย่าง ณเดชน์ คูกิมิยะ มารับตำแหน่งเป็นแบรนด์ แอมบาสเดอร์ เป็นเวลา ปีเต็ม พร้อมทุ่มงบโฆษณาลงบนทุกแพลทฟอร์ม ทั้งสื่อทีวี สื่อออนไลน์ สื่อบนรถไฟฟ้า ไปจนกระทั่งป้ายบิลบอร์ด ภาพของณเดชน์และแบรนด์คอนโดมิเนียมในเครือออริจิ้น ถูกสะท้อนไปเป็นภาพจำของผู้บริโภคโดยในปัจจุบัน ได้ปล่อย “หมัดเด็ด” เปิดตัว ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ และกำลังจะมีแคมเปญโฆษณาชุดใหม่ออกสู่ตลาดอีกหลายชุดเร็วๆ นี้

กวาด “ตัวจริง” ร่วมสร้าง New S Curve

          นอกจากจะขึ้นชื่อเป็นบริษัทที่โดดเด่นเรื่อง New Gen ค่าเฉลี่ยอายุพนักงานอยู่ที่เพียง 28-29 ปี จนสามารถพัฒนาโครงการได้ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่แล้ว ตลอดช่วงปี 2560-2562 ถือเป็นช่วงที่ออริจิ้น ได้เฟ้นหา “ตัวจริง” ในแวดวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ มาร่วมสร้าง New S Curve ขยายประเภทธุรกิจใหม่ๆ ให้กับออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ อย่างต่อเนื่อง

 

 

          จากเดิมที่แกนหลักของธุรกิจคือผู้พัฒนาคอนโดมิเนียมเจาะตลาดกลาง วันนี้ ORI กลายเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร มีคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ภายใต้แบรนด์พาร์ค ออริจิ้น (PARK ORIGIN) มีธุรกิจบ้านจัดสรรภายใต้แบรนด์บริทาเนีย (BRITANIA) มีธุรกิจโรงแรมภายใต้บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด บริหารและใช้แบรนด์ของเครือโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล (IHG) มีความร่วมมือกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นอย่าง โนมูระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ ทำให้โครงการเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติมากยิ่งขึ้น และมีธุรกิจบริการด้านอสังหาฯครบวงจร ทั้งบริการแม่บ้าน บริการรับฝากปล่อยเช่า บริหารนิติบุคคล ตัวแทนขาย ภายใต้ชื่อกลุ่มบริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด

          เรียกได้ว่า เป็นบริษัทที่มีประเภทธุรกิจหลากหลาย ครอบคลุม และสมบูรณ์มากที่สุดอีกบริษัทหนึ่งของธุรกิจอสังหาฯ ขณะนี้

 

 

เดินหน้าสู่เป้ารายได้ หมื่นล้าน

          จากปี 2553 ที่เปิดโครงการที่อยู่อาศัยมูลค่า 199 ล้านบาท ในปี 2562 ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ มีแผนเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรร รวมมูลค่าโครงการกว่า 27,300 ล้านบาท เน้นแบรนด์หลัก แบรนด์ ได้แก่ 1.พาร์ค ออริจิ้น (PARK ORIGIN) 2. ดิ ออริจิ้น (The Origin) และ 3. บริทาเนีย (BRITANIA) ทำให้ภายในสิ้นปีนี้ ออริจิ้นจะมีมูลค่าโครงการที่เปิดสะสมแตะหลักแสนล้านบาท

 

          สำหรับเป้ายอดขายในปี 2562 อยู่ที่ 28,000 ล้านบาท เป้ารายได้รวมอยู่ที่ 19,000 ล้านบาท และด้วยแผนการสร้างพอร์ตให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ออริจิ้นตั้งเป้าจะมีรายได้จากทุกกลุ่มธุรกิจแตะ 30,000 ล้านบาทภายในปี 2565

          หลังจากขึ้นแท่นบิ๊กอสังหาฯที่มีพอร์ตธุรกิจครบวงจร ต้องจับตาดูต่อไปว่า เส้นทางหลัง 10 ปีของบิ๊กอสังหาฯดาวรุ่งรายนี้ จะสร้าง New S Curve อะไรต่อไป

 

ขอบคุณข้อมูลจาก origin.co.th