จากเดิมที่ออฟฟิศซินโดรมได้กลายมาเป็นโรคฮิตของคนเมือง แต่ปัจจุบันมีโรคใหม่แซงหน้าได้แก่ สมาร์ทโฟนซินโดรม ซึ่งเป็นผลพวงของการใช้งานสมาร์ทโฟนติดต่อกันเป็นเวลานาน ความน่ากลัวของโรคนี้คือสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนที่มีโทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะเด็กเล็ก วัยรุ่น คนทำงาน หรือแม้แต่สูงวัย

คนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยรู้ว่าอาการเจ็บ ปวด หน่วง ชา บริเวณคอ หลัง แขน หรือแม้แต่นิ้วมือ เกิดจากพฤติกรรมการใช้มือถือที่ไม่ยอมวาง จนทำให้กล้ามเนื้อคอ บ่า ไหล่ ตึงเกร็ง เพราะต้องแบกรับน้ำหนักของศีรษะที่โน้มมาด้านหน้าจากการก้มดูมือถือ หรือไหล่งุ้ม แขนชา เจ็บข้อมือจี๊ด ๆ จากการถือโทรศัพท์อยู่ในท่าคงค้างเป็นเวลานาน อีกทั้งยังปวดบริเวณโคนนิ้วโป้งเพราะเป็นกล้ามเนื้อส่วนที่ถูกใช้งานซ้ำ ๆ จากการแชท วิธีแก้ได้แก่ ใช้งานมือถือให้น้อยลงและบริหารร่างกายด้วยท่าต่อไปนี้ ทำวันละ 2 ครั้งระหว่างวันและก่อนนอน จะได้ไม่ต้องเสียเงินแพง ๆ ให้กับการทำกายภาพบำบัด


1. ปรับท่าทางใหม่ด้วยการยกมือถือขึ้นมาให้สูงระดับเดียวกับสายตา วิธีนี้จะทำให้ไม่ต้องก้มหน้าแบกรับน้ำหนักของศีรษะ ที่ส่งผลต่อคอและหลัง


2. หาผ้าขนหนูพื้นเล็กมาครองรอบคอ นั่งหลังตรง สองมือจับที่ปลายผ้า ค่อย ๆ เงยศีรษะไปด้านหลัง ออกแรงดึงผ้าสร้างแรงต้าน ค้างไว้ 5 วินาที กลับสู่ท่าเริ่มต้น ทำ 20 ครั้ง


3. ยืนชิดกำแพงจนรู้สึกว่าไหล่ทั้งสองข้างและหลังศีรษะแนบกำแพงมากที่สุด ตั้งแขนขึ้น 90 องศา เงยหน้าขึ้นระดับสายตา จากนั้นให้เลื่อนมือทั้งสองข้างขึ้นจนสุด (หลังมือสัมผัสกำแพงตลอด) หรือสูงระดับที่ทำได้ กลับสู่ท่าเริ่มต้น ทำซ้ำ 20 ครั้ง


4. นั่งบนเก้าอี้ หาหมอนหรือตุ๊กตาขนาดพอเหมาะสอดไว้บริเวณหลัง สองมือประสานไว้หลังศีรษะ เงยศีรษะและเอนตัวไปด้านหลัง จนรู้สึกว่าช่วงอกเปิดออก หลังได้ยืด ทำ 20 ครั้ง


เพราะคนเรามีเวลาเท่ากัน แต่ต่างกันที่การใช้เวลาอย่างไรให้มีคุณค่าของแต่ละคน ใช้โซเชียล เล่นมือถือให้พอเหมาะ  ทำกิจกรรมอย่างอื่นทดแทนบ้าง อยู่กับคนรอบข้างบ้าง ให้ร่ายกายและจิตใจได้พักผ่อน

 

ขอบคุณข้อมูลจาก  www.thaihealth.or.th