(กรุงเทพฯ - 25 กุมภาพันธ์ 2562) – ออริจิ้น เปิดผลประกอบการปี 2561 คว้ากำไรสุทธิ 3,338 ล้านบาท เติบโตกว่าภาพรวมทั้งตลาด พร้อมรายได้ 16,638 ล้านบาท เติบโตแข็งแกร่งตามเป้า กวาดยอดขายกว่า 27,500 ล้าน ขึ้นแท่นท็อปธุรกิจอสังหาฯ ปี 62 เร่งสร้างโอกาสใหม่ในธุรกิจแนวราบ-โรงแรม-บริการ พร้อมโชว์แบ็คล็อกคุณภาพกว่า 34,000 ล้าน ทยอยโอนต่อเนื่อง เคาะจ่ายปันผลรอบสิ้นปีหุ้นละ 0.30 บาท

           นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 2561 ถือเป็นอีกปีที่ภาพรวมของทั้งบริษัทเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ตั้งแต่ด้านกำไรสุทธิที่สามารถทำได้ถึง 3,338 ล้านบาท เติบโตจากภาพรวมปี 2560 กว่า 65.2% เติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ระดับ 20.1% ขณะเดียวกัน รายได้ทั้งปี 2561 อยู่ที่ 16,638 ล้านบาท เติบโตจากภาพรวมปี 2560 กว่า 66.6%

           “ในปี 2561 บริษัทเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 25,500 ล้านบาท โดยยอดขายเฉลี่ยในปีที่ผ่านมาอยู่ที 72-75% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดที่ทำได้ราว 40-50% โดยปัจจัยสำคัญมาจากบริษัทมีความเข้าใจความต้องการของลูกค้า และพัฒนาผลิตภันฑ์ออกมาได้ตอบโจทย์ความต้องการ ทำให้ทั้งยอดขายใหม่ และยอดโอนจากแบ็คล็อกคุณภาพ สามารถขายและโอนได้อย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ให้ความไว้วางใจกับคุณภาพสินค้าและบริการของเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้” นายพีระพงศ์ กล่าว

           สำหรับยอดขายในปี 2561 สามารถทำได้ถึง 27,552 ล้านบาท เติบโตจากปี 2560 กว่า 86.7% โดยแบ่งเป็นยอดขายจากธุรกิจคอนโดมิเนียม 26,378 ล้านบาท และยอดขายจากโครงการบ้าน 1,174 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมียอดขายอยู่ในระดับท็อปของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีที่ผ่านมา

 

 

           นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า ในปี 2562 นั้น บริษัทจะยังคงเดินหน้ารักษาเสถียรภาพการเติบโตของธุรกิจคอนโดมิเนียมไว้ในระดับเดิม ควบคู่กับการกระจายการเติบโตไปยังกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ ของบริษัท ทั้งธุรกิจโครงการแนวราบ ธุรกิจที่สร้างรายได้หมุนเวียน เช่น โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ออฟฟิศ คอมมูนิตี้มอลล์ โครงการมิกซ์ยูส และธุรกิจบริการ ผ่านการพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค โดยกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ จะค่อยๆ มีบทบาทมากขึ้นทั้งในระยะสั้นและระยะกลาง-ยาว

 

           เบื้องต้น บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อการขายในปี 2562 กว่า 26,000 ล้านบาท เติบโตจากปี 2561 ซึ่งเปิดตัวที่ 25,500 ล้านบาท โดยตั้งเป้ารายได้รวมไว้ที่ 19,000 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดขายจากทั้งโครงการเก่าและใหม่รวมกันไว้ที่ 28,000 ล้านบาท

 

           “ปัจจุบัน เรามียอดขายรอรับรู้รายได้ หรือ แบ็คล็อกคุณภาพ มูลค่ากว่า 34,271 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ถึงกว่า 11,267 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 66% ของเป้ารายได้จากการขายของปีนี้ ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถทยอยรับรู้รายได้ตามเป้า เนื่องจากแบ็คล็อกส่วนใหญ่ของบริษัทมาจากยอดขายของลูกค้าที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง” นายพีระพงศ์ กล่าว

 

           นายพีระพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติให้จ่ายปันผลสำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทรอบสิ้นปี 2561 ในอัตรา 0.30 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้นไม่เกิน 736,401,343.50 บาท โดยบริษัทจะจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสด โดยกำหนดให้วันที่ พ.ค. 2562 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) และกำหนดจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นภายในวันที่ 24 พ.ค. 2562

 

           สำหรับบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 51 โครงการ เช่น แบรนด์ PARK ORIGIN, KnightsBridge, Notting Hill, Kensington และ Britania รวมมูลค่าโครงการกว่า 84,000 ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้หมุนเวียนต่อเนื่อง (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และยังมีวิสัยทัศน์ในการขยายประเภทธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร

 

ขอบคุณข้อมูลจาก  www.origin.co.th