Omise สตาร์ทอัพไทยที่เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของการให้บริการ Online Payment หรือ Payment Gateway ที่ทันสมัยนำเสนอโปรดักซ์ที่ใช้งานง่ายและมีฟีเจอร์ที่หลากหลายเมื่อเทียบกับคู่แข่งในธุรกิจนี้ที่ให้บริการกันมาอย่างยาวนานอย่างธนาคารต่างๆของเมืองไทย บริการที่ทาง Omise ให้บริการกับลูกค้าในเมืองไทยหลายรายอย่าง True  Corporation, Minor International, Kaidee, Weloveshopping aCommerce เป็นต้น

โครงสร้างของบริษัท Omise เริ่มต้นในปี 2013 โดยแบ่งธุรกิจออกเป็น 2 ส่วนคือตั้งเป็น SME ประเภท Enterprise Software & Digital Content มีทุนจดทะเบียนเริ่มต้นอยู่ที่ 10 ล้านบาท และยังได้รับเงินสนับสนุนหมุนเวียนจากกลุ่มนักลงทุนไทยในการพัฒนาระบบอีกราว $1.22M หรือราว 42,795,000 บาท โดยเน้นรับงานพัฒนาระบบชำระเงินให้กับบริษัทใหญ่อย่าง True Corporation ในส่วนที่สองคือเป็น Startup ออกแบบ Payment Product ของตัวเองออกสู่ตลาด โดยได้นำเสนอโครงการต่อผู้นักลงทุนต่างชาติเพื่อขอเงินสนับสนุนหรือเรียกว่าการ Pitching ซึ่งในส่วนนี้ทาง Omise ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ในช่วงปี 2014-2015 แบ่งเป็น Total Equity Funding 4 รอบจากผู้ลงทุน 11 ราย(บางรายไม่เปิดเผยข้อมูล) รวมมูลค่าสูงถึง $20.4M หรือราว 710,939,959 บาท

และเมื่อเดือนกรกฏาคม 2016 ก็ได้เป็นข่าวใหญ่ในวงการ Startup เมื่อ Omise ได้รับการสนับสนุนเงินในระดับ Series B ด้วยมูลค่าสูงถึง $17.5M หรือราว 580,303,605 บาทถือว่าสูงที่สุดในกลุ่ม Startup ในแถบเอเชียตะวันออกที่ระดมเงินทุนได้มากขนาดนี้มาก่อนด้วย

มาวันนี้ Omise ก็กลับมาเป็นข่าวดังอีกครั้งเมื่อพวกเขาสามารถทำให้มูลค่าบริษัทของพวกแตะหลัก $1,000 ล้านเหรียญได้สำเร็จเป็นรายแรกของเมืองไทย ด้วยการเปิดระดมเงินทุนรอบใหม่จากนักลงทุนทั่วโลกในแบบ Initial Coin Offering (ICO) ผ่านบริการของตัวเองที่เรียกว่า OmiseGO ซึ่งประกาศเป็นสกุลเงินดิจิตอลหรือที่เรียกว่า Cryptocurrency (หรือ Crypto currency) ซึ่งนักลงทุนที่เข้าร่วมระดมทุนก็จะได้สิ่งตอบแทนเป็นหุ้นดิจิตอลที่ชื่อ OmiseGO หรือ OMG ตัวอย่างสกุลเงินดิจิตอลแบบนี้หลายคนคงรู้จักกันดีก็อย่างเช่นสกุลเงิน Bitcoin นั่นเอง การเปิดระดมทุนของ Omise ในครั้งนี้จะเป็นการซื้อขายสกุลเงิน OmiseGO ที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain ภายใต้การออกแบบของกลุ่มเทคโนโลยี Blockchain ที่เรียกว่า Ethereum ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับสองรองจาก Bitcoin หุ้นดิจิตอลที่ชื่อ OmiseGO นี้สามารถนำมาซื้อขายในตลาดรองของ Digital Asset ได้ในลักษณะไม่ต่างจากตลาดซื้อขายหุ่น SET ของบ้านเรา

มูลค่าการเปิดซื้อขาย OmiseGO วันนี้จากข้อมูลตลาดซื้อขายสกุลเงินดิจิตอล coinmarketcap.com ณ วันที่ 4 กันยายน 2017 อันดับของ OmiseGO อยู่ที่อันดับที่ 12 เป็นที่เรียบร้อยแล้วและด้วยมูลค่าของ OmiseGO บวกกับเงินสนับสนุนท่ีพวกเขาได้รับมาก่อนหน้านี้ก็ทำให้ Omise กลายเป็น Startup รายแรกของประเทศไทยที่ได้เป็น Unicorn เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ตัวเลขการซื้อขายของ OmiseGO น่าสนใจมากเพราะตั้งแต่เปิดตัวมาก็ทำราคาพุ่งสูงขึ้นมากภายใน 24 ชั่วโมงก็ทำราคาสูงขึ้นไปราว 70% เลยทีเดียว และราคาขึ้นมาอยู่ที่ $10 นับตั้งแต่เปิดตัวเพียงหนึ่งเดือนเท่านั้นอีกด้วย และเคยทำราคา New High ที่ Market Cap $1,228 ล้านเหรียญ (หรือราว 40,721 ล้านบาท) กลายเป็น Digital Asset ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 12 ของโลกจาก Digital Asset ทั้งหมด 1,025 สกุลด้วยกัน

จุดเด่นท่ีทำให้นักลงทุนสนใจ Omise, OmiseGO ก็เพราะว่าพวกเขามีทีมพัฒนาที่ความเข้มแข็งมีความรู้ทางเทคโนโลยีด้าน Payment, Blockchain เป็นอย่างดีและอีกทั้งยังมีที่ปรึกษา Advisor ที่เรียกถือว่าเป็นบุคคลที่ในวงการเงินดิจิตอลที่รู้จักกันดีไม่ว่าจะเป็น Vitalik Buterin ผู้สร้าง Ethereum หรืออย่าง Roger Ver ที่เป็น CEO ของ bitcoin.com ก็มาเป็นที่ปรึกษาให้กับ Omise ด้วยเช่นกัน นั่นเป็นหนึ่งเหตุผลที่ว่าทำไมนักลงทุนถึงมั่นใจระบบของ Omise ว่ามีศักยภาพในการแข่งขันและน่าจะเติบโตได้ในธุรกิจ Payment และ Cryptocurrency

ขอบคุณข้อมูลจาก