ธุรกิจบ้านเช่านั้นต้องยอมรับว่าเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้อย่างต่อเนื่องและได้ผลตอบแทนเป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้จะต้องใช้เงินลงทุนก้อนใหญ่ บางคนต้องกู้ธนาคารมาทำให้ต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นไปอีก นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆเล็กๆน้อยๆอีกมาก และบางคนอาจจะลังเลว่าจะปล่อยบ้านเช่า "ต้องมีเฟอร์นิเจอร์หรือไม่?" คำถามนี้แม้จะตอบไม่ได้อย่างแน่ชัดว่าต้องมีหรือไม่มี เพราะขึ้นอยู่กับผู้เช่าแต่ละคนด้วยว่าต้องการหรือไม่ TerraBKK Research จึงขออธิบายเพิ่มเติมถึงการปล่อยเช่าพร้อมเฟอร์นิเจอร์ว่ามีข้อดี-ช้อเสียอย่างไร?

ข้อดีของบ้านเช่าพร้อมเฟอร์นิเจอร์

1. ได้ค่าเช่าสูงขึ้น

เป็นความได้เปรียบอย่างแรกเมื่อคุณให้เฟอร์นิเจอร์ในบ้านด้วย เพราะจะทำให้บ้านดูมีมูลค่ามากขึ้น ผู้เช่าสามารถเข้าอยู่ได้ทันทีโดยไม่ต้องขนอะไรมามากมาย ดังนั้นหากคุณจะเปรียบเทียบค่าเช่ากับบ้านหลังอื่นๆที่เป็นบ้านเปล่า อย่าลืมบวกค่าเฟอร์นิเจอร์เข้าไปอีกเล็กน้อยประมาณ 15-20%

2. ดึงดูดผู้เช่าได้ดีกว่า

ผู้เช่าบางคนที่ต้องการแบบหิ้วประเป๋าใบเดียวเข้าอยู่ได้เลย มักจะสนใจบ้าน/ห้องที่มีเฟอร์นิเจอร์พร้อม เพราะเขาไม่ต้องการซื้อไปวุ่นวายหาซื้อเฟอร์นิเจอร์เอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ต้องย้ายที่อยู่บ่อยๆย่อมไม่อยากให้มีภาระชิ้นใหญ่ติดตัว ดังนั้นการหาบ้านเช่าที่มีเฟอร์นิเจอร์พร้อมจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

3. ตัวบ้านไม่เสียหายจากการขนย้ายมากนัก

ลองนึกภาพเวลาผู้เช่าแต่ละคนขนเฟอร์นิเจอร์เข้า-ออกทุกครั้งที่ย้าย บ้านคงเสียหายไม่ใช่น้อย เอาง่ายๆแค่ติดตั้งแอร์ จำเป็นจะต้องเจาะรูสำหรับท่อแอร์ และเมื่อผู้เช่าย้ายออกก็เอาแอร์ไปด้วย แต่ทิ้งรูไว้ที่ฝาผนังบ้านเราเหมือนเดิม... (แม้ที่จริงแล้วเป็นหน้าที่ของผู้เช่าที่จะต้องอุดรูกลับให้เหมือนเดิม แต่เชื่อเถอะว่าน้อยรายที่จะทำแบบนั้น) พอคนใหม่เข้ามาอาจจะเปลี่ยนห้องติดแอร์ ก็เจาะรูเหมือนเดิม ทีนี้นึกภาพออกแล้วใช่ไหมว่าบ้านเราจะเป็นอย่างไร? ยังไม่รวมถึงร่องรอยต่างๆที่เกิดจากการขนย้าย ดังนั้นการมีเฟอร์นิเจอร์ไว้ให้แล้วอาจจะเป็นการบรรเทาปัญหาเหล่านี้ลงไปบ้าง

4. เมื่อต้องขายทิ้งย่อมขายได้ราคาสูงกว่า

เมื่อได้ค่าเช่าที่สูงกว่าราคาทั่วไป เมื่อตอนขายทิ้งคุณสามารถเคลมได้ว่าบ้านหลังนี้ได้ค่าเช่าสูงมาก ย่อมทำให้บ้านของคุณดูมีมูลค่ามากขึ้น

ข้อเสียของบ้านเช่าพร้อมเฟอร์นิเจอร์

1. เฟอร์นิเจอร์ที่ให้อาจไม่ถูกใจผู้เช่า

แม้เราจะให้เฟอร์นิเจอร์ครบครันไปแล้ว แต่การตกแต่งหรือรูปแบบของเฟอร์นิเจอร์อาจจะไม่ถูกใจผู้เช่าเท่าไหร่นัก บางคนเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่ "ตัวเองชอบ" แต่ไม่ได้คำนึงว่ามัน mass พอที่จะปล่อยเช่าให้กับผู้อื่นได้หรือไม่ ดังนั้นการเลือกเฟอร์นิเจอร์หรือการตกแต่งบ้านเช่านั้นควรทำแบบกลางๆและพอประมาณ

2. เฟอร์นิเจอร์เสียหายเมื่อเจอผู้เช่าไม่ถนอมของ

ปัญหาใหญ่ที่สุดเมื่อต้องให้เฟอร์นิเจอร์ไปกับบ้านเช่า เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าผู้เช่าคนนี้รักษาของมากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เกิดปัญหาได้ง่าย เมื่อเจอคนใช้แบบไม่ถนอมก็จะทำให้เสียหายง่าย เจ้าของก็ต้องไปซื้อมาใหม่ เผ็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ดังนั้นเมื่อมีเฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเช่า ควรทำสัญญาเพื่อเก็บค่าชดเชยแยกต่างหาก ป้องกันไม่ให้ผู้เช่าทำเสียหาย

3. ผู้เช่ามีเฟอร์นิเจอร์มาเองอยู่แล้ว

ผู้เช่าบางคนเองก็มีเฟอร์นิเจอร์ส่วนตัวอยู่แล้ว พวกเขาย่อมไม่จำเป็นที่จะต้องหาบ้านเช่าที่มีเฟอร์นิเจอร์อยู่ในบ้านให้ซ้ำซ้อนกัน ในกรณีนี้อาจจะต้องต่อรองเจรจากันว่าควรจะเอาชิ้นไหนออกบ้าง และหักค่าเช่าออกไป

ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่การพิจารณาของเจ้าของบ้านเช่าว่าแบบไหนเหมาะกับตัวเองมากกว่ากัน เพราะการซื้อเฟอร์นิเจอร์ย่อมเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นมาประมาณหนึ่ง อาจได้ไม่คุ้มเสีย แต่บางกรณีการมีเฟอร์นิเจอร์ก็ช่วยให้ปล่อยเช่าได้เร็วขึ้น อีกอย่างคือขึ้นอยู่กับตลาดการปล่อยเช่าแถวนั้นว่าคู่แข่งของเราให้เฟอร์นิเจอร์ด้วยหรือไม่ หมั่นพิจารณาคู่แข่งโดยรอบอยู่เสมอจะช่วยให้เรารู้เทคนิคและวิธีการปล่อยเช่าบ้านได้ดีขึ้น - เทอร์ร่า บีเคเค

บทความโดย : TerraBKK คลังความรู้

TerraBkk ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก